ผู้เขียน | ธนกฤต ก้องเวหา |
---|---|
เผยแพร่ |
“เฉิ่นหยาง” สมรภูมิฟาดแข้งฟุตบอลทีมชาติไทยกับทีมชาติจีน ในรอบคัดเลือกศึกฟุตบอลโลก 2026 ที่สนามเฉิ่นหยาง โอลิมปิก สปอร์ต เซนเตอร์ สเตเดียม เมืองเฉิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน ในวันที่ 6 มิถุนายน 2567 เมืองเฉิ่นหยางถือเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจีน เพราะเป็นอดีตเมืองหลวงเก่า “ราชวงศ์ชิง” ของชาวแมนจู
เมืองเฉิ่นหยาง (沈阳) หรือเสิ่นหยาง เป็นเมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐประชาชนจีน เฉิ่นหยางถือเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของแถบนี้ และได้ชื่อว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีนด้วย
เฉิ่นหยางเป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 10 หรือเป็นพันปีมาแล้ว เดิมชื่อ “เฉิ่นโจว” เป็นเมืองสำคัญของชาวคีตัน ผู้ก่อตั้งราชวงศ์เหลียวปกครองภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเมื่อราวคริสต์ศตวรรษที่ 10-11
เฉิ่นโจวเปลี่ยนชื่อเป็น “เฉิ่นหยาง” ในยุคราชวงศ์หยวนของมองโกล (ค.ศ. 1206-1368) และกลายเป็นเมืองหลวงแรกของ “ราชวงศ์ชิง” ของชาวแมนจู ก่อนจะย้ายไปนครปักกิ่ง (เป่ยจิง) อดีตเมืองหลวงของราชวงศ์หมิงที่เพิ่งล่มสลายไป แต่เฉิ่นหยางยังมีความสำคัญในฐานะราชธานีเก่า ที่ตั้งสุสานบรรพชนของจักรพรรดิ (ฮ่องเต้) ราชวงศ์ชิง
“กู้กง” หรือวังเก่าที่เมืองเฉิ่นหยางจึงอัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชาวแมนจู แม้ความหรูหราอลังการจะสู้พระราชวังต้องห้ามที่ปักกิ่งไม่ได้
วังโบราณที่เฉิ่นยางมีความคล้ายคลึงกับวังต้องห้ามของปักกิ่งหลายจุดด้วยกัน เช่น รูปแบบงานไม้และหินที่เป็นโครงสร้างหลักของอาคารและพระตำหนักต่าง ๆ กำแพงวังสีแดงและหลังคากระเบื้องสีเขียว การประดับด้วยประติมากรรมสิงห์คู่เพศผู้-เพศเมีย ตลอดจนพระที่นั่งองค์ประธานที่มีหลังคาเป็นกระเบื้องเคลือบสีเหลืองทอง สัญลักษณ์ของพระจักรพรรดิ และหลังคาประดับด้วยสัตว์ในตำนาน
ก่อนราชวงศ์ชิงจะปกครองแผ่นดินจีน ชิงไท่จู่ (หนูเอ่อร์ฮาชื่อ) ปฐมจักรพรรดิ ได้ก่อตั้งทัพ “หนี่ว์เจินปาฉี” หรือทัพแปดกองธงเพื่อทำสงครามขับเคี่ยวกับราชวงศ์หมิงอยู่กว่า 2 ทศวรรษ ก่อนทายาทของพระองค์ขยายอำนาจจากทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน (ศูนย์กลางที่เฉิ่นหยาง) เข้าสู่ภาคกลาง จนสามารถยึดนครปักกิ่งและสถาปนาเป็นราชธานีแห่งใหม่ใน ค.ศ. 1644 เพื่อกรุยทางสู่การครอบครองจีนทั้งหมดในเวลาต่อมา
ปัจจุบันนอกจากเฉิ่นหยางจะเป็นเมืองอุตสาหกรรมแล้ว ยังเป็นเมืองศูนย์กลางการศึกษาและวัฒนธรรมประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนมาอย่างยาวนาน โดยเมือง ๆ นี้เป็นที่ตั้งของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยว่า 20 แห่งเลยทีเดียว
อ่านเพิ่มเติม :
- “แต้จิ๋ว” ถิ่นอุดมสมบูรณ์ แต่ภัยธรรมชาติรุนแรง
- ภูมิหลังชื่อเมืองลั่วหยางในภาษาจีน ที่ต้องเปลี่ยนเมื่อเปลี่ยนราชวงศ์
- “ซัวเถา” มาจากไหน? ที่บอกว่ามาจากซัวเถา หมายถึงเมืองอะไร อยู่ตรงไหนของจีน?
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
https://www.britannica.com/place/Shenyang
https://www.prachachat.net/spinoff/sport/news-1580230
https://thai.cri.cn/2022/10/06/VIDETa9Jx9v3UNwNMLl2GchM221006.shtml
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 6 มิถุนายน 2567