ผู้เขียน | ธงชัย อัชฌายกชาติ |
---|---|
เผยแพร่ |
รู้หรือไม่? ที่มาของชื่อ “รัสเซีย” ไม่ได้มาจากภาษาสลาฟ แต่มีรากศัพท์มาจากภาษานอร์สโบราณ คำว่า “รุส” (Rus) ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้ที่พายเรือ” (the man who row) ซึ่งหมายถึงเหล่าไวกิ้งที่เดินทางเข้ามาในบริเวณที่เป็นรัสเซียและยูเครนในปัจจุบัน
ย้อนกลับไปเมื่อราว ค.ศ. 840 ไวกิ้งจากแถบแสกนดิเนเวีย ซึ่งเป็นมักถูกเรียกว่า “เวอรันเจียน” (Varangian) หรือพวก “รุส” (Rus) ได้เดินทางเข้ามายึดดินแดนและปกครองชาวเผ่าสลาฟ ต่อมา พวกไวกิ้งจึงถูกเรียกว่า “เคียฟแวน รุส” (Kievan Rus) โดยมีบันทึกจากทั้งชาวไบแซนไทน์ (โรมันตะวันออก) เปอร์เซีย และฝรั่งเศส ที่กล่าวถึงการมีอยู่ของทั้งสองกลุ่มชาติพันธุ์ และกล่าวไปในทางเดียวกันว่า ฝ่ายรุสปกครองสลาฟ
ในช่วงแรกดินแดนนี้แบ่งการปกครองโดย 3 พี่น้องชนชั้นสูง แต่เมื่อน้องทั้งสองเสียชีวิต รูริค (Rurik) พี่ชายคนโตได้ครอบครองดินแดนที่เหลือ พร้อมทั้งตั้งเมือง “นอฟโกร็อด” (Novgorod) สถาปนาเป็นเมืองหลัก
เมื่อรูริคเสียชีวิต “โอเล็ก ผู้ทำนาย” (Oleg the Prophet) ผู้เป็นน้องเขยก้าวขึ้นสู่อำนาจต่อ พร้อมทั้งบุกยึดเมืองเคียฟ และสถาปนาเป็นเมืองหลวง ใน ค.ศ. 882 ควบคู่ไปกับการขยายอาณาเขตพร้อมๆ กับสถาปนาเส้นทางค้ากับคอนสแตนติโนเปิลแห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์
เมื่อโอเล็กสิ้นชีพ “อิกอร์แห่งเคียฟ” (Igor of Kiev) ลูกชายของรูริคก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบทอดราชวงศ์แห่งรูริคต่อไป
จนกระทั่งปลายศตวรรษที่ 10 “วลาดิเมียร์มหาราช” (Vladimir the Great) ก็เข้ายึดอำนาจ ด้วยความช่วยเหลือจากทหารไบแซนไทน์ แลกกับการเข้ารีตศาสนาคริสต์และแต่งงานกับน้องสาวขององค์จักรพรรดิไบแซนไทน์ เมื่อขึ้นสู่อำนาจแล้ว วลาดิเมียร์มหาราชก็สร้างกลุ่มกองทหารเวอรันเจียน (Varangian Guard) และวัฒนธรรมของไบแซนไทน์ รวมไปถึงศาสนาคริสต์ก็เริ่มเข้ามาผสมผสานกับวัฒนธรรมเคียฟแวน รุส มีการสร้างโรงเรียนสอนศาสนา เศรษฐกิจเริ่มเฟื่องฟู เมื่อถึงยุคของ “ยาโรสลาฟ ผู้ชาญฉลาด” (Yaroslav the Wise) อาณาจักรนี้ก็อยู่ในจุดสูงสุดทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ
ยุคของเคียฟแวน รุส สืบทอดต่อมาเรื่อยๆ แม้ความมั่นคงจะเริ่มสั่นคลอนจากสงครามครูเสด ในท้ายที่สุดก็ถูกรุกรานในศตวรรษที่ 13 โดยชาวมองโกล ซึ่งเป็นชนเผ่าร่อนเร่บนหลังม้าที่มีอำนาจมากขึ้นอย่างรวดเร็วโดยการนำของเจงกิสข่าน (Genghis Khan) ทำให้เคียฟแวน รุส ต้องถึงคราวล่มสลาย
ส่วนชื่อ รัสเซีย (Russia หรือ Rossiya) ที่ใช้ในปัจจุบันมีรากศัพท์จากภาษากรีกที่เลียนเสียงคำว่า “รุส” ในคำว่า “เคียฟแวน รุส” นั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม :
- ปัญหา “สลาฟ” ในคาบสมุทรบอลข่านที่รัสเซียหนุน สาเหตุหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่ 1
- เปิดแผนลอบสังหาร “รัสปูติน” จอมตัณหา ผู้นำความเสื่อมทรามสู่รัสเซีย
อ้างอิง :
HISTORY. “When Viking Kings and Queens Ruled Medieval Russia”, 4 ธันวาคม 2019. https://www.history.com/news/vikings-in-russia-kiev-rus-varangians-prince-oleg.
Wiejak, Marta. “This Is Why Russia Is Called Russia”. Culture Trip, 8 พฤศจิกายน 2017. https://theculturetrip.com/europe/russia/articles/heres-why-russia-is-called-russia/.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 22 มิถุนายน 2566