“แมนฯ ซิตี้” จากสโมสรชุมชนเพื่อคนยากไร้ สู่หนึ่งในสโมสรมูลค่าสูงที่สุดในโลก

แมนฯ ซิตี้ รูปทีม ถ้วยเอฟเอคัพ 1903-1904
นักเตะและสตาฟฟ์โค้ช ทีม แมนฯ ซิตี้ ชุดแชมป์ เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 1903-04 สมัยแรกของสโมสร (เครดิตภาพ www.mancity.com /Official Website)

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า แมนฯ ซิตี้ ถือเป็นทีมสโมสรฟุตบอลที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ยาวนานมากที่สุดทีมหนึ่งของเกาะอังกฤษ และมีเกียรติประวัติที่ไม่ธรรมดา เพราะจุดเริ่มต้นของสโมสรแห่งนี้มาจากการเป็นสโมสรที่มุ่งช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในชุมชนสลัมของเมือง

ค.ศ. 1880 ในย่านกอร์ตัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองแมนเชสเตอร์ เกิดการตั้งทีมฟุตบอลสมัครเล่นขึ้นมา ด้วยแรงผลักดันของคณะนักบวช โบสถ์ เซนต์ มาร์ค (St. Mark’s Church) เพื่อสนับสนุนรณรงค์ให้คนในชุมชนกอร์ตันเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพและใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เป็นผลมาจากการที่กอร์ตันเป็นชุมชนแออัด เสื่อมโทรม เต็มไปด้วยปัญหายาเสพติด และการทะเลาะวิวาท โดยเมื่อแรกก่อตั้ง สโมสรใช้ชื่อว่า เซนต์ มาร์ค’ส เวสต์ กอร์ตัน (St. Mark’s West Gorton)

Advertisement

แม้จะมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นทีมของโบสถ์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความผูกพันระหว่างทีมกับโบสถ์ก็ลดน้อยลงเรื่อย ๆ เพราะช่วงที่ตระเวนเตะกับทีมต่าง ๆ สโมสรต้องการดึงดูดฐานแฟนบอลในท้องถิ่นให้มากขึ้น ตั้งแต่ ค.ศ. 1884 เป็นต้นมา สโมสรจึงมักเรียกตัวเองว่า กอร์ตัน เอฟซี มากกว่าชื่อเดิม เพื่อลดภาพของการเป็นทีมฟุตบอลของโบสถ์ และให้ภาพแทนการเป็นตัวแทนชุมชนมากขึ้น

ค.ศ. 1887 เมื่อมีฐานแฟนบอลเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องมีการขยายสนามและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการเติบโต สโมสรจึงย้ายที่ทำการไปอยู่ในย่าน อาร์ดวิก (Ardwick) ซึ่งเป็นย่านที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการคมนาคมทางถนน โรงแรม รวมถึงมีพื้นที่สำหรับสร้างสนามขนาดใหญ่เพื่อรองรับผู้ชม (สนามไฮด์ โร้ด สนามเหย้าแห่งแรกของสโมสร) เมื่อย้ายมาถิ่นใหม่ จึงเปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น อาร์ดวิก เอเอฟซี เพื่อให้เข้ากับที่ตั้งในปัจจุบัน

ช่วงระยะเวลานี้ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสโมสร เมื่อมีการตัดสินใจจ่ายค่าจ้างให้นักฟุตบอลของทีมเป็นครั้งแรก ซึ่งนักเตะคนแรกที่ได้รับค่าจ้างคือ แจ็ค ฮอดเก็ตส์ (Jack Hodgetts) โดยได้รับค่าจ้างสัปดาห์ละ 5 ชิลลิ่ง

เท่ากับว่าตอนนี้เปลี่ยนสถานะจากสโมสรเพื่อการกุศล มาเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพเพื่อการพาณิชย์อย่างเต็มตัว

ผลงานและความนิยมของทีมที่มีมากขึ้น ทำให้ในปี 1892 สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ตัดสินใจรับทีมอาร์ดวิกเข้าอยู่ในระบบลีกฟุตบอลที่เพิ่งจะก่อตั้งได้ไม่นาน โดยอาร์ดวิกเริ่มต้นกับระดับลีกอาชีพในดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 1892-1893

ปี 1894 สโมสรอาร์ดวิก เปลี่นนชื่อเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างที่รู้จักกันในปัจจุบัน เพราะสโมสรต้องการแสดงความเป็นตัวแทนของเมืองแมนเชสเตอร์ทั้งเมือง หลังจากนั้น แมนฯ ซิตี้ ก็คว้าแชมป์ต่าง ๆ มาประดับบารมีสโมสร เช่น แชมป์ดิวิชั่น 1 จำนวน 2 สมัย แชมป์ดิวิชั่น 2 จำนวน 7 สมัย แชมป์ เอฟเอ คัพ 6 สมัย ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย ฯลฯ (สถิตินับถึงปี 2010)

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 2008 เมื่อกลุ่มทุน อาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ฟอร์ ดีเวลอปเมนท์ จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เข้าซื้อหุ้นสโมสร และลงทุนพัฒนาสโมสรด้านต่าง ๆ จน แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นสโมสรใหญ่ระดับต้น ๆ ของโลก ทั้งในแง่ผลงานความสำเร็จ มูลค่าการตลาด ฯลฯ

ผลลัพธ์ที่ชัดเจนคือในรอบ 10 ฤดูกาลที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปได้ถึง 6 สมัย ขณะที่มูลค่าการตลาดของสโมสรในปี 2022 จากรายงานของ นิตยสาร Forbes พุ่งขึ้นไปอยู่อันดับ 6 ของโลก ด้วยมูลค่ากว่า 3.3 พันล้านปอนด์ และมีแนวโน้มจะถีบตัวสูงขึ้นอีกเรื่อย ๆ ในปีถัดไป จึงพูดได้อย่างเต็มปากว่าพวกเขาคือสโมสรจากอังกฤษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ทั้งผลงานในสนามและนอกสนาม

แม้ทุกวันนี้ แมนฯ ซิตี้ จะเป็นสโมสรมีชื่อเสียงระดับโลก แต่พวกเขาก็ไม่เคยลืมรากเหง้าความเป็นมา ใน ค.ศ. 1986 สโมสรได้ก่อตั้ง มูลนิธิ City in the Community (CITC) เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ยากไร้ในชุมชน มีกิจกรรมมากมาย เช่น การพานักเตะของสโมสรเยี่ยมเยียนและมอบของขวัญให้ผู้ด้อยโอกาส เช่น ผู้พิการ เด็กกำพร้า ฯลฯ บริจาคเงินให้องค์กรการกุศลในท้องถิ่น จัดแข่งขันฟุตบอลในท้องถิ่นเพื่อสร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชน นำโดยนักฟุตบอลของทีม การให้คำปรึกษาโดยจิตแพทย์ของสโมสรแก่ผู้มีปัญหาในการใช้ชีวิต ฯลฯ

ปัจจุบัน แมนฯ ซิตี้ ไม่ใช่สโมสรเพื่อการกุศลอีกต่อไปแล้ว แต่ก็ยังคงสืบสานเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งมาตลอดอย่างไม่เสื่อมคลายจนถึงปัจจุบัน

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง : 

Everett Munez . Manchester City FC British football club.  Access 20 April 2023 from https://www.britannica.com/topic/Manchester-City

A Brief History of Manchester City FC. Access 20 April 2023 from https://gortonmanchester.wordpress.com/2017/09/10/a-brief-history-of-manchester-city-fc/

Mike Ozanian and Justin Teitelbaum. The World’s Most Valuable Soccer Teams 2022: Real Madrid, Worth $5.1 Billion, Is Back On Top.  Access 20 April 2023 from  https://www.forbes.com/sites/mikeozanian/2022/05/26/the-worlds-most-valuable-soccer-teams-2022-real-madrid-worth-51-billion-back-on-top/?sh=c0fc4d5286be

Manchester City’s Official Charity.  Access 20 April 2023 from https://www.mancity.com/city-in-the-community


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 20 เมษายน 2566