ที่มา | ศิลปวัฒนธรรม ฉบับกรกฎาคม 2538 |
---|---|
ผู้เขียน | บัณฑิตย์ สงครามรอด |
เผยแพร่ |
จังหวัดบุรีรัมย์เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทวลาลัยพนมรุ้ง มหาเทวาลัย ปราสาทเมืองต่ำ แหล่งหินตัด เตาเผาบ้านกรวด และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ซึ่งมีฝูงนกน้ำนกป่านานาชิดนับหมื่นตัว
ภูเขาไฟเขากระโดงก็นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีธรรมชาติที่เงียบสงบ อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 219 ห่างตัวเมืองเพียง 6 กิโลเมตร ถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย มีพื้นที่ประมาณ 120 ตารางกิโลเมตร
เป็นซากภูเขาไฟ ที่แสดงให้เห็นร่องรอยของการปลดปล่อยพลังงาน และการเคลื่อนย้ายของมวลหินละลายจากภายในโลกมาสู่ผิวโลก ตลอดจนวิวัฒนาการของภูมิประเทศบนผิวพิภพในปัจจุบัน ภูเขาไฟกระโดงส่วนใหญ่เป็นภูเขาที่มีสัณฐานของช่องปะทุระเบิดชัดเจนก่อนตัวเป็นภูเขาไฟรูปกรวยเป็นเนินภูเขาโดดพื้นที่ปากปล่องปะทุระเบิดประมาณ 1.3 ตารางกิโลเมตร แล้วต่อมากลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่
ปัจจุบันเขากระโดงได้รับการปรับปรุงแลพัฒนารอบๆ บริเวณแล้วตั้งเป็นวนอุทายานเขากระโดง มีพันธุ์ไม้พื้นน่าศึกษาหลายชนิดและที่ยอดเขากระโดงเป็นที่ประดิษฐานของพระสุภัทราบพิตร พระพุทธรูปองค์ใหญ่ และปรางค์กู่โบราณ ภายในมีรอยพระบาทจำลองเป็นที่เคารพนับถือของชาวบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง
และที่ยอดเขาแห่งนี้ ยังมีพันธุ์ไม้พื้นเมืองชนิดหนึ่งที่กล่าวขานในเรื่องของความแปลกประหลาด และเรื่องราวแห่งตำนานที่เล่าต่อๆ กันมา
“ขะนุย ขะมอย หรือโยนีปีศาจ” คือพันธุ์ไม้พื้นเมืองชนิดหรึ่ง เปลือกหนา ดูดอาหารเก่ง ชอบขึ้นตามดินแถบภูเขา มีความมัหศจรรย์ แตกต่างจากพันธุ์ไม้อื่นๆ ทั่วไป ซึ่งหาดูได้ยากเต็มที ด้วยลักษณะของผลเมื่อสุกเต็มที่จะมีขนาดประมาณ 5x3 ซ.ม. แล้วเกิดปริแตกออกคล้ายกับโยนีจึงมีตั้งชื่อต้นไม้ชนิดนี้ว่า “โยนีปีศาจ” หรือ “ขะนุย ขะมอย” หรือ “มะกอกโคก” ตามภาษาท้องถิ่นไทยเขมร ซึ่งก็มีความหมายอย่างเดียวกัน
ส่วนตำนานที่เล่าขานถึงพันธุ์ไม้ชนิดนั้น ว่ากันว่า ท้าวปาจิต ลูกของเจ้าเมืองเขมรได้เดินทางเสาะแสวงหามเหสี จนกระทั่งพบนางอรพิมสตรีผู้งดงาม จึงมีจิตผูกพันและได้พานางอรพิมกลับบ้านเมืองตน ขณะมาถึงฝั่งแม่น้ำใหญ่ ก็มาพบกับเณรเจ้าของเรือข้ามฟาก เณรจึงให้ท้าวปาจิตรอที่ฝั่ง และลงเรือข้ามฟากไปพร้อมกับนางอรพิม
ขณะลงเรือข้ามฟาก นางอรพิมทราบว่า เณรคิดไม่ซื่อกับตนจึงออกอุบายหลอกให้เณรพาไปยังเกาะกลางลำน้ำ แล้วให้เณรปีนต้นไม้เพื่อเก็บผลไม้ เมื่อเณรขึ้นไปแล้ว นางจึงเอาหนามวางไว้รอบต้นไม้ แล้วพายเรือจะกลับมารับท้าวปาจิต แต่เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยว และแม่น้ำกว้างใหญ่ทำให้พลัดหลงกัน นางอรพิมเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยในการตามหาท้าวปาจิต เนื่องจากนางเป็นสตรี นางจึงอธิษฐานกลางป่าว่าขอให้อวัยวะบางส่วนที่เป็นผู้หญิงหลุดหายไป นางจึงเอานมของนางฝากไว้กับต้นงิ้วป่า ฝากโยนีไว้กับมะกอกโคก แล้วกลายร่างเป็นชาย เดินทางตามหาท้าวปาจิตต่อไป
ส่วนคนที่รู้จักต้นไม้ชนิดนี้ว่า ชื่อต้นขะนุย ขะมอย หรือมะกอกโคก หรือต้นสำโรง เป็นความเชื่อของคนท้องถิ่นว่าผลไม้ชนิดนี้ เมื่อแก่เต็มที่แล้วผลจะอ้าเผยอเปลือกคล้ายโยนี ผู้คนจึงนำผลมาห้อยคอเด็กๆ ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องรางอย่างหนึ่ง
นี่คือ…เรื่องราวตำนานของ “ขะนุย ขะมอย” โยนีของปีศาจ เป็นพันธุ์ไม้พื้นเมืองที่แปลกพิสดาร บนยอดเขากระโดงบุรีรัมย์ ดินแดนแห่งอายรธรรมโบราณแห่งนี้
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 14 ตุลาคม 2565