ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
---|---|
เผยแพร่ |
วัยรุ่นยุคอยุธยา หาผัวหาเมียกันเป็นปกติของวัยเจริญพันธุ์ ไม่ใช่ชิงสุกก่อนห่าม มีพยานอยู่กับเรื่อง นางมโนห์รา เป็นชื่อนางเอกในละครชาวบ้าน (ละครชาตรี หรือละครนอก) ยอดนิยมยุคอยุธยาซึ่งเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากที่สุด
ต้นฉบับตัวเขียนบนสมุดข่อยมีเหลือไม่ครบ แต่เท่าที่เหลือแล้วอ่านได้บ้าง จับใจความว่า นางมโนห์ราวัยรุ่น อายุราว 14-15 ปี เป็นลูกสาวคนที่ 7 คนสุดท้องของแม่ (มีลูกสาว 7 คน) จะออกไปเที่ยวเล่นกับพี่สาว (ทั้งหก)
นางแม่ห้ามว่าอย่าไปเลย เพราะหมอดูทักว่าดวงชะตาไม่ดีจะมีเคราะห์ เกรงว่าจะโดนทำมิดีมิร้าย
นางมโนห์รา ตัดพ้อต่อว่านางแม่หวงลูกสาว ไม่ให้มีผัวเหมือนลูกสาวบ้านอื่น ๆ ที่มีผัวกันทุกคนแล้ว จะเก็บไว้เป็นหม้าย ให้อดอยากปากแห้งจนแก่ แล้วผู้ชายที่ไหนจะเอา
นางแม่พยายามปลอบโยนว่าไม่ได้ห้ามมีผัว แต่ต้องเลือกเอาที่ดี ๆ ไม่เสียท่าได้ผัวร้าย แต่นางมโนห์ราอยากมีผัว ไม่ฟังอีร้าค่าอีรมเลยทะเลาะกับนางแม่ โดยใช้ถ้อยคำรุนแรงโต้ตอบย้อนกันหนำใจ
จะคัดกลอนบทละคร (ฉันทลักษณ์ยุคแรก) สะท้อนพฤติกรรมแท้จริงของสาว วัยรุ่นยุคอยุธยา (ที่ยังไม่ถูกครอบงำด้วยคำสอนหลังรับวัฒนธรรมวิกตอเรียน ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ว่า เป็นหญิงต้องรักนวลสงวนตัว) มาดังนี้
๏ สงสาร พระมารดามาหวงลูกเอาไว้
แก่แล้วจะค่อยให้ ให้ลูกเป็นหม้ายอยู่อดทน
แต่เพื่อนสาวสาว คราวคราวเขามีผัวเสียหมด
ให้ลูกเป็นหม้ายอยู่ทนอด กลางวังพระราชมารดา
๏ เจ้าแม่ ลูกรักผู้เจ้ามโนห์รา
ขวัญข้าวของแม่อา แม่คิดว่าเจ้าไม่สมพ่อ
วันนั้นขันหมากของพระพรหม เขาใส่พนมลากล้อ
แม่คิดว่าเจ้าไม่สมพ่อ ใครใครมาขอแม่ก็ไม่ให้
นางมโนห์ราตัดพ้อต่อว่านางแม่ เพราะอยากมีผัว ส่วนนางแม่พยายามว่ากล่าวตักเตือน แต่นางมโนห์ราไม่ฟัง แถมขึ้นเสียงเถียงย้อน แล้วทะเลาะกับนางแม่ถึงขั้นด่าทอกันด้วยคำว่า “ดอกทอง” ดังนี้
๏ น่าสงสารพระมารดา อนิจจามาหวงลูกเอาไว้
แก่แล้วแม่จะค่อยให้ ผู้ชายที่ไหนจะเหลียวแล
ธรรมเนียมมาแต่ไหน ใหญ่ใหญ่มานอนอยู่กับแม่
แกล้งหวงเอาไว้ให้เฒ่าแก่ ผู้ชายมาแลก็น่าเกลียด
๏ เป็นหญิงเจ้าแม่อา อย่าทำกะริงกะเรียด
ตัวเจ้ายังน้อยสักเท่าเขียด เจ้ามาวอนแม่จะมีผัว
เมื่อจะทอหูกไม่ถูกก้น มันจะเอาตะกรนมาโขกหัว
เจ้ามาวอนแม่จะมีผัว ลูกเอยจะยืนสักเท่าใด
ลูกเอยจะเลี้ยงเอาผัวแขก ลูกเอยจะเลี้ยงเอาผัวไทย
เลี้ยงไว้ให้หนำใจ ส่งให้อ้ายมอญมักกาสัน
ส่งให้อ้ายจีนปากมอด ให้มันกอดจนตายดั้น
อ้ายมอญมักกาสัน ส่งให้ญี่ปุ่นหัวโกน
เลี้ยงลูกชาวบ้านเอย อีนี่ใจยักษ์ใจโลน
อ้ายญี่ปุ่นเอาหัวโกน หนำใจผู้เจ้ามโนห์รา
๏ ลูกไทเจ้าแม่เอย แม่ให้ผัวไทยแก่ลูกรา
จีนจามพราหมณ์คุลา ลูกยาจะเอามันทำไม
เชิญแม่เอาเองเถิดนางไท เป็นผัวพระราชมารดา
๏ เลี้ยงลูกชาวบ้านเอย อีนี่ใจแข็งกล้า
กูจะพลิ้วหิ้วขา หน้าตากูจะตบให้ยับไป
ไว้กูจะหยิกเอาหัวตับ ไว้กูจะยับเอาหัวใจ
ปากร้ายมาได้ใคร พวกอีขี้ร้ายชะลากา
ขวัญข้าวเจ้าแม่อา ตัวแม่ก็ทำเป็นไม่สู้
รู้มากอีปากกล้า มึงไปได้มาแต่ไหน
พระพายพัดไป สมเพชลมพัดอีดอกทอง
๏ นางแม่ของลูกอา แม่มาด่าลูกไม่ถูกต้อง
ทั้งพี่ทั้งน้อง เหล่าเราดอกทองเหมือนกัน
ดอกทองสิ้นทั้งเผ่า เหล่าเราดอกทองสิ้นทั้งพันธุ์
ดอกทองเสมือนกัน ทั้งองค์พระราชมารดา
อ่านเพิ่มเติม :
- “เมียพระราชทาน” มาทีหลัง แต่มาแรง แม้แต่ “เมียหลวง” ยังต้องหลบ!
- “เรื่องเซ็กส์” สมัยกรุงศรีฯ ชาย-หญิงคิดและมีตั้งแต่อายุเท่าไหร่? แต่งหรือหนีตาม?
- ผัวเมียเป็นกันเมื่อใด รู้ได้ไงว่าเป็นผัวเมีย? ดูกฎหมายผัวๆ เมียๆ ในรัชกาลที่ 5-7
อ้างอิง :
“วัยรุ่นยุคอยุธยา อยากมีผัว”. จากหนังสือ “เซ็กส์ดึกดำบรรพ์ ของบรรพชนไทย”. โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ. สำนักพิมพ์นาตาแฮก. 2560
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 18 สิงหาคม 2561