แค้นข้ามภพ รบข้ามชาติ ของเหล่าขุนพล “สามก๊ก”

ภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องสามก๊ก พระวิหารเก๋ง วัดบวรนิเวศวิหาร

ผลของความแค้นข้ามชาติ ข้ามภพ ของตัวละครเรื่อง “ไซ่ฮั่น” ที่ต้องการท้วงถามความเป็นธรรม เพื่อล้างแค้น เพื่อ… ด้วยการกลับชาติมาเกิดใหม่ ในวรรณกรรมชื่อ “สามก๊กอิ๋น” จึงกลายเป็น เล่าปี่, โจโฉ, จิวยี่, ตั๋งโต๊ะ, โจโฉ, กวนอู และตัวละครอื่นกว่า 50 ชีวิต ใน “สามก๊ก”

“สามก๊กอิ๋น” เป็นเสียงสำเนียงจีนฮกเกี้ยนว่า ( จีนกลางว่า “ซันกั๋วอิน”) แปลว่า “เหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดเรื่องสามก๊ก” เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ แสดงวิบากกรรมในอดีตชาติที่ตัวละครสำคัญในเรื่องสามก๊กทำไว้เมื่อครั้งเกิดในเรื่องไซ่ฮั่น จึงต้องมาเกิดใหม่ชดใช้กรรมที่ตนก่อไว้

สามก๊กอิ๋น ต้นฉบับแม่พิมพ์ไม้ สมัยราชวงศ์ชิง (ถ่ายจากห้องสมุดมหาวิทยาลัยปักกิ่ง)

สามก๊กอิ๋นผู้แต่งชื่อแซ่ใดไม่ปรากฏ แต่ใช้นามปากกาว่า “จุ้ยเยว่ซัน  เหริน” แปลว่า “คนภูเขาเมาจันทร์” ต้นฉบับเก่าที่สุดที่จีนมีอยู่ในปัจจุบันเป็นฉบับพิมพ์ด้วยแม่พิมพ์ไม้แกะสลักเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙ แต่นิยายเรื่องนี้ต้องเคยพิมพ์เผยแพร่มาก่อนหน้านี้หลายปี เพราะฉบับภาษาไทยแปลตั้งแต่เมื่อ พ.ศ. 2428 ดังข้อความว่า “ณ วันพุธ ขึ้นเก้าค่ำ 4 ฯ 9 ปีระกา สัปตศก จุลศักราช 1247 ได้แปลในเรื่องนิทานจีนใจความว่า…”

เนื้อเรื่องว่า มีบัณฑิตสอบเข้ารับราชการไม่ได้คนหนึ่งชื่อสุมาตองสอง ตัดพ้อฟ้าที่ไม่เห็นปัญญาของตน พอนอนหลับถูกยมทูตเชิญไปพบยมบาลได้รับมอบหมายให้ตัดสินคดีสำคัญในยมโลก ซึ่งโจทย์และจำเลยคือจัวละครในเรื่องไซ่ฮั่น มีคดี 10 คดี มีผู้มาเกิดใช้กรรมรวมทั้งสิ้น 57 คน ตัวอย่าง เช่น

คดี กดขี่ฆ่าคนสัตย์ซื่อ โจทก์เป็นตัวละครในเรื่อง “ไซ่ฮั่น” ได้แก่ ฮั่นสิน, หยินโป้ และแพอวด ฟ้องร้องว่าพระเจ้าฮั่นโกโจ (เล่าปัง) เนรคุณฆ่าพวกตน พระเจ้าฮั่นโกโจซัดทอดพระนางหลีเฮามเหสี กวยถองเป็นพยานว่าพระเจ้าฮั่นโกโจและพระนางหลีเฮาทำผิดจริง

ฮั่นสิน ที่มาเกิดใหม่เป็น โจโฉ ในสามก๊ก (ภากจากวิกิพีเดีย)

สุมาตองสองตัดสิน พระเจ้าฮั่นโกโจเกิดเป็นพระเจ้าเหี้ยนเต้ พระนางหลีเฮาเกิดเป็นพระนางฮกเฮา(มเหสีพระเจ้าเหี้ยนเต้) ฮั่นสินเกิดเป็นโจโฉ และให้โจโฉได้รังแกพระเจ้าเหี้ยนเต้และประหารพระนางฮกเฮาชดใช้กัน

หรือกรณี เสียวโหใช้ปัญญาลวงฮั่นสินให้เข้าไปถูกพระนางหลีเฮาจับฆ่า ก็ให้ต้องกลับมาเกิดเป็นเอี้ยวสิ้วคนเจ้าปัญญา แต่ถูกโจโฉซึ่งฮั่นสินกลับชาติมาเกิดสั่งฆ่าเพราะเจ้าปัญญาเกินไป

ตันแผงใช้อุบายทำให้ฟ่ำแจ้งตรอมใจตายจึงมาเกิดเป็นจิวยี่ ฟ่ำแจ้งเกิดเป็นขงเบ้งใช้ปัญญาซ้อนกลจนจิวยี่รากเลือดตาย ชดใช้กรรมเก่า

นอกจากโจทก์และจำเลยที่ต้องไปเกิดใช้หนี้กรรมกันแล้ว ยังมีคนดีที่ไม่ถูกฟ้องร้องได้ไปเกิดรับผลบุญที่ทำไว้ด้วย เช่น ม้าของพระเจ้าฌ้อปาอ๋อง (ห้างอี๋) เกิดเป็นม้าเซ็กเทา

ตัวละครสำคัญที่ควรทราบว่าใครเกิดเป็นใครมีดังนี้

ฌ้อปาอ๋องที่มาเกิดเป็นกวนออู (ภาพจาก วิกิพีเดีย)

ฮั่นสินหรือหานสิ้นเกิดเป็นโจโฉ, เล่าปัง (พระเจ้าฮั่นโกโจ) เกิดเป็นพระเจ้าเหี้ยนเต้, หยินโป้เกิดเป็นซุนกวน, แพอวดเกิดเป็นเล่าปี่, ฌ้อปาอ๋อง (ห้างอี๋) เกิดเป็นกวนอู, ห้วนโกยเกิดเป็นเตียวหุย, ฟ่ำแจ้งเกิดเป็นขงเบ้ง, ตันแผงเกิดเป็นจิวยี่, กีสินเกิดเป็นจูล่ง, ลิปุดอุยเกิดเป็นลิโป้, จิ๋นซีฮ่องเต้เกิดเป็นตั๋งโต๊ะ เป็นต้น

ในคำตัดสินว่าให้ใครเกิดเป็นใครนั้นมีคำอธิบายด้วยเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น

“แล้วเรียกหานสิ้นเข้ามาว่า ท่านจงไปเกิดที่ตำบลเจียวกุ๋น เป็นบุตรโจสง ชื่อโจโฉ ชื่อครูตั้งเบ้งเต๊ก เป็นมหาอุปราช ภายหลังเป็นงุยอ๋องอยู่เมืองฮูโต๋ แบ่งแผ่นดินฮั่นกึ่งหนึ่ง เหตุท่านมิได้คิดขบถ ฮั่นอ๋องนั่นจงไปเกิดในวงศ์ฮั่น เป็นพระเจ้าเหี้ยนเต้ แต่ในชาตินั้นอย่าให้มีความสุข ให้โจโฉข่มเห่งอยู่เสมอเป็นนิจ เป็นการใช้ชาติซึ่งมิได้มีความเมตตาแก่ขุนนางทั้งปวง…แล้วเรียกแพอวดเข้ามาว่าท่านจงไปเกิดที่ตำบลตกกุ๋นเป็นที่นับถือแก่คนทั้งหลาย เป็นการตอบแทนด้วยชาติก่อนท่านมิได้คิดคดทรยศต่อผู้ใด”

ความโดดเด่นของ “สามก๊กอิ๋น” อยู่ที่เนื้อเรื่อง ที่ผู้แต่งสามารถเชื่อมโยงตัวละครในเรื่องไซ่ฮั่นกับเรื่องสามก๊กเข้า ด้วยกันได้อย่างแยบยล สมเหตุสมผลตามกฎแห่งกรรมอย่างที่ชาวบ้านเข้าใจ ตัวละครสำคัญในเรื่องไซ่ฮั่นจึงต้องไปเกิดชดใช้กรรมนั้นในเรื่องสามก๊ก

สามก๊กอิ๋นฉบับภาษาไทย พระยาพิศลสมบัติบริบูรณ์ (โต ตัณฑเศรษฐี) แปลเมื่อ พ.ศ. 2428 ส่วนเรื่องสามก๊กอิ๋นภาษาไทย ฉบับที่มีอยู่ในปัจจุบัน สมบัติ พลายน้อย ได้มาจากหนังสือเก่าชำรุด นำลงพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิทยุศึกษา มีผู้นำไปพิมพ์แจกในงานฌาปนกิจศพอีกหลายครั้ง ครั้งสุดท้าย “คณะทำงานจัดทำหนังสือที่ระลึกเนื่องในพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” ได้นำพิมพ์รวมไว้ท้ายหนังสือเรื่องชิดก๊กไซ่ฮั่น แต่ก็เป็นฉบับที่ชำรุด มีความขาดหายไปหลายตอน


อ้างอิง: หลินยุ่นซี่. “สามก๊กอิ๋น : ตำนานชาติภาพของตัวละครในสามก๊ก”, นิตยสารศิลปวัฒนธรรม สิงหาคม 2549


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก เมื่อ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2562