ผู้เขียน | ธนกฤต ก้องเวหา |
---|---|
เผยแพร่ |
ยศและคำเรียกข้าราชการฝ่ายพลเรือนสมัยก่อนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง ดังมีชื่อยศต่าง ๆ มากมายที่บ่อยครั้งเจาะจงยุคสมัย หรือมีใช้เฉพาะบางรัชกาล จนชวนให้สงสัยว่า แต่ละยศควรเทียบกับยศสมัยใหม่ยศใด หนึ่งในนั้นคือ “เสวกามาตย์”
ทั้งนี้ จริง ๆ แล้ว เสวกามาตย์ (เส-วะ-กา-มาด) เป็นการสมาสของ 2 คำ คือ เสวก กับ อำมาตย์
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน แปลความหมายของ เสวก ว่า [-วก] น. ข้าราชการในราชสำนัก คำเดิมในภาษาบาลี-สันสกฤต หมายถึง อยู่ใกล้, อยู่รวม, นับถือ, นอบน้อม, คนใช้, บริวาร, คนสนิท, คนนับถือ (อ่านว่า เส-วก)
ส่วน อำมาตย์ หรือ อำมาตย- หมายถึง [อำ-หมาด, อำ-หมาด-ตะ-ยะ] น. ข้าราชการ, ข้าทูลละอองธุลีพระบาท (แผลงมาจาก อมาตย์) และ น. ลูกขุน, ขุนนาง, ข้าราชการฝ่ายพลเรือน
ดังนั้น เสวกามาตย์จึงไม่ใช่ชื่อยศเฉพาะ แต่ใช้เรียกเสวกและอำมาตย์ร่วมกัน แม้หนังสือเก่า ๆ จะนิยมใช้คำนี้เพื่อความกระชับ แต่จากลักษณะยศข้าราชการ ทั้งคู่แยกจากกันค่อนข้างชัดเจน

เรื่องนี้ ส. พลายน้อย อธิบายไว้ในหนังสือ ขุนนางสยาม ประวัติศาสตร์ “ข้าราชการ” ทหารและพลเรือน (พิมพ์ครั้งที่ 3, 2559 : มติชน) ว่า
“ยศ เสวก เป็นยศฝ่ายราชสำนักซึ่งขึ้นตรงต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ยศ อำมาตย์ เป็นยศทางฝ่ายข้าราชการพลเรือนซึ่งขึ้นตรงต่อกระทรวงต่าง ๆ อันเป็นต้นสังกัด”
ยศข้าราชการฝ่ายราชสำนักในกรมมหาดเล็กในอดีตจะมีตำแหน่ง “จางวาง” เป็นหัวหน้า รองลงมาเป็น หัวหมื่น รองหัวหมื่น และจ่า ภายหลังมีการปรับเปลี่ยนทำให้ จางวาง เทียบได้กับ มหาเสวก ตำแหน่งอื่น ๆ ถัดลงมาจึงเป็น เสวกเอก -โท -ตรี ตามลำดับ รวมถึง รองอำมาตย์เอก -โท -ตรี ฯลฯ
ยศเสวกเป็นยศแสดงให้รู้ว่าเป็นข้าราชการที่ขึ้นตรงต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ว่าจะอยู่กระทรวงใดก็ตาม จะไม่ใช้ อำมาตย์
ส่วนยศ อำมาตย์ จะเริ่มตั้งแต่ รองอำมาตย์ตรี -โท -เอก ขึ้นไปเป็น อำมาตย์ตรี -โท -เอก และ มหาอำมาตย์ตรี -โท -เอก ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม บางครั้งยังมียศที่พระมหากษัตริย์พระราชทานให้อำมาตย์บางท่านเป็นกรณีพิเศษ นั่นคือ เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) เสนาบดีกระทรวงนครบาล ที่ได้รับพระราชทานยศ “มหาอำมาตย์นายก” อันเป็นยศสูงสุดของข้าราชการฝ่ายพลเรือน และมีเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 6 เท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม :
- คำว่า หม่อม ใช้มาตั้งแต่เมื่อใด? หม่อมแต่ละประเภทต่างกันอย่างไร?
- “ขุนนาง” มาจากไหน ทำไมเรียกว่าขุนนาง ศัพท์คำนี้มีความหมายอย่างไร
- “เล่นพิเรนทร์” คำศัพท์ที่มาจากราชทินนามของ “พระพิเรนทร์” คนไหน
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 3 มกราคม 2568