“ห้องสุขา” ที่เราใช้ปลดทุกข์ ย่อมาจากคำว่าอะไร ใช้คำนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ห้องสุขา ไม้แก้งก้น
ไม้แก้งก้น การขับถ่าย ส้วม สาวชาววัง "ไม้แก้งก้น" เครื่องทำความสะอาดหลังขับถ่ายของสาวชาววัง (ภาพจิตรกรรมจากวัดเกาะลาน อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก, สไลด์ของเอนก นาวิกมูล)

นอกจาก “ห้องส้วม” ที่หมายถึงสถานที่ขับถ่ายแล้ว อีกคำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายก็คือ “ห้องสุขา” เราอาจคิดว่าความหมายของคำนี้ครบจบในตัว คือเป็นห้องที่ใช้ถ่ายหนักและถ่ายเบา ปลดเปลื้อง “ทุกข์” ออกไป จึงเป็นห้องแห่งความสุข แต่ที่จริงคำนี้เป็นคำย่อ แล้วคำเต็มคืออะไร?

“สุขาภิบาล” การจัดการความสะอาด

เรื่องนี้ต้องย้อนไปถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นยุคที่สยามต้องการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยทัดเทียมตะวันตก หนึ่งในนั้นคือแนวคิดเรื่อง “สุขาภิบาล”

แนวคิดเรื่องนี้เริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. 2437 เห็นได้จากคำกราบบังคมทูลของพระยาอภัยราชา (โรลัง ยัคมินส์) ที่ปรึกษาราชการทั่วไปว่า พวกชาวต่างประเทศมักจะติเตียนว่ากรุงเทพฯ โสโครก จึงกราบบังคมทูลแนะนำรัชกาลที่ 5 ให้ทรงจัด “มุนิสิเปอล” (สมัยนี้หมายถึงเทศบาล) เหมือนที่จัดในต่างประเทศ

ทว่าคำกราบบังคมทูลแนะนำนี้ไม่สัมฤทธิผล เนื่องด้วยรัชกาลที่ 5 ทรงเห็นว่า ขัดกับหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรีที่ทำไว้ว่า ถ้ารัฐบาลสยามจะออกกฎหมายที่มีผลบังคับถึงชาวต่างประเทศ ต้องบอกให้รัฐบาล (คือกงสุล) ทราบก่อน จึงไม่ได้จัดตั้งเป็นเทศบาล แต่จัดตั้งในลักษณะ “กรมสุขาภิบาล” แทนใน พ.ศ. 2440

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าจะมีการเสนอให้จัดตั้งเทศบาล เพื่อดูแลรักษาความสะอาดของบ้านเมือง มีแนวคิดของคนในสังคมที่ต้องการจะจัดการทำความสะอาด รวมถึงจัดการเรื่องการขับถ่ายมาก่อนแล้ว ซึ่งเป็นวิธีการที่มีผู้เสนอและรับอยากทำ

หนึ่งในนั้นคือหลักฐานที่ พระยาสโมสรสรรพการ ขอรับจัดการทำความสะอาดในพระนคร ใน พ.ศ. 2436 โดยจะรับบริการขนถ่ายสิ่งโสโครกและจัดหาถังเปลี่ยนถ่ายให้กับราษฎร แต่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งก็ไม่ปรากฏข้อมูลต่อว่าเพราะเหตุใด

ถึงอย่างนั้น ในพระนครก็น่าจะมีผู้รับทำอยู่บ้างแล้ว แต่ยังไม่ปรากฏในรูปแบบบริษัทที่ทำอย่างจริงจัง หรือมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ

ส้วม ห้องสุขา
ส้วมในอดีต

เปิดคำเต็ม “ห้องสุขา”

คำว่า “ศุขาภิบาล” หรือ “สุขาภิบาล” ที่แปลว่าการบำรุงรักษาความสุขนั้น สมัยรัชกาลที่ 5 เขียนว่า กรมศุขาภิบาล เรียกสั้นๆ ว่า กรมศุขา ต่อมาใช้ “ส. เสือ” สะกดแทน กลายเป็นคำว่า สุขาภิบาล

คำว่า ศุขา หรือ สุขา ในความหมายที่เราเข้าใจว่าเป็นสถานที่สำหรับขับถ่าย จึงเกิดขึ้นในช่วงนี้

ห้องสุขา ย่อมาจาก ห้องสุขาภิบาล หมายถึงห้องที่สร้างโดยสุขาภิบาล ใช้สำหรับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ ซึ่งความหมายแปลงมาเป็นส้วม อย่างที่เข้าใจกันในปัจจุบันนั่นเอง

เหตุที่ได้ชื่อตามนี้ เพราะหน่วยงานนี้มีหน้าที่อย่างหนึ่งในการจัดการดูแลเรื่องการขับถ่ายของประชาชน และสร้างห้องปฏิบัติกิจของสุขาภิบาลให้ประชาชนมาใช้ เวลาคนไปขับถ่ายจึงมักบอกว่า “ไปศุขา” เหมือนกับที่เคยเรียกสถานที่เกี่ยวข้องกับการขับถ่ายในอดีต เช่น ไปทุ่ง, ไปท่า, ไปเว็จ (เว็จหรือเวจ แปลว่าอุจจาระ มาจากภาษาบาลีว่า “วจฺจ” แล้วแผลงเสียงสระอะเป็นเอให้ออกเสียงง่าย)

ข้อสังเกตที่น่าสนใจก็คือ คำว่าศุขาหรือสุขา ยังไม่ใช่คำที่เราใช้แทนความหมายของสถานที่ขับถ่ายในกรุงเทพฯ เพียงอย่างเดียว เพราะยังหมายถึงชื่อหน่วยงานราชการด้วย ไม่เหมือนกับคำว่าส้วม ซึ่งใช้ในความหมายเดียวสำหรับคนทั่วไปในเมืองว่า หมายถึงสถานที่ขับถ่าย

คำว่าสุขาและคำว่าส้วม มีใช้แพร่หลายในปัจจุบัน ส่วนคำว่าเว็จกลับค่อยๆ เลือนหายไป ทั้งที่ตอนแรกยังใช้เรียกในภาษาราชการและในชีวิตประจำวัน

“ไม้แก้งก้น” เครื่องทำความสะอาดหลังขับถ่ายของสาวชาววัง (ภาพจิตรกรรมจากวัดเกาะลาน อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก, สไลด์คุณเอนก นาวิกมูล)

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

มนฤทัย ไชยวิเศษ. ประวัติศาสตร์สังคมว่าด้วยส้วมและเครื่องสุขภัณฑ์ในประเทศไทย. กรุงเทพฯ : มติชน, พิมพ์ครั้งที่ 2, 2566.

เฟซบุ๊กเพจ สาขาวิชาภาษาเอเชียใต้ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. “เว็จ-เวจ จริงแล้วไม่ได้แปลว่า ส้วม”. เข้าถึงเมื่อ 22 สิงหาคม 2567.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 23 สิงหาคม 2567