
ผู้เขียน | ปดิวลดา บวรศักดิ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ในอดีต การ “เฉลิมพระชนมพรรษา” ของพระมหากษัตริย์ไทยมักจะเกิดขึ้นในวันเวลาที่ไม่ตรงกัน ขึ้นอยู่กับกำหนดการในแต่ละปี กระทั่งเข้าสู่สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ภิกษุเจ้าฟ้ามงกุฎ (พระยศของรัชกาลที่ 4 ขณะนั้น) จึงเป็นผู้ทรงคิดค้นให้เกิด “วันเฉลิมพระชนมพรรษา” แบบตรงวัน และทรงทำให้เป็นประเพณีหลวง กระทั่งล่วงเลยมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ธรรมเนียมนี้ก็ยังคงอยู่
แม้กระทั่งครั้งที่ “รัชกาลที่ 5” เสด็จประพาสยุโรปก็ยังต้องทรงจัดงานฉลองพระชนมพรรษา…
งานฉลองพระชนมพรรษาสมัยรัชกาลที่ 5

เรื่องนี้ ศ. พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ราชสำนัก และ รศ. ดร. ชัชพล ไชยพร รองคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ข้อมูลไว้ในเวทีหัวข้อ ธรรมเนียมการฉลองอายุ ในงานเสวนาพิเศษ ฉลองราชย์ เฉลิมพระชนมวาร เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 13.00-17.00 น. ณ ห้องสามศร 1 อาคารรำไพพรรณี ชั้น 6 พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (ใกล้สะพานผ่านฟ้าลีลาศ) ว่า…
“วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ก็คือวันที่ 20 กันยายน…ถ้าท่านอยู่เมืองไทยไม่ขัดข้องในการบำเพ็ญพระราชกุศล พระมีเยอะ นิมนต์มาสวดมนต์ ถวายภัตตาหารอย่างไรก็ได้ แต่เวลาท่านเสด็จยุโรป ทั้ง 2 คราว มีข้อขัดข้องมาก
ยุโรปสมัยก่อนไม่ได้นั่งเรือบินไป 10 ชั่วโมงถึง ท่านต้องเสด็จออกจากเมืองไทย ค่าเฉลี่ยประมาณเดือนเมษายน เพื่อกะว่าเดินทางประมาณเดือนหนึ่ง ถึงที่นั่นฤดูใบไม้ผลิพอดี อากาศกำลังดี แล้วก็เสด็จไปพระราชสำนัก ไปทอดพระเนตรกิจการทั้งหลาย แล้วก็อยู่มาเสร็จสรรพเรียบร้อย ผ่านฤดูใบไม้ผลิ ผ่านฤดูร้อน
ประมาณสักตุลาคมกำลังจะเริ่มหนาวแล้ว ใกล้ ๆ ตุลาคม พฤศจิกายนแบบนี้ ควรเสด็จกลับได้แล้ว เดี๋ยวหิมะตก เพราะฉะนั้นก็จะมาถึงเมืองไทยปลายปี ที่ว่ามาทั้งหมดถึงเมืองไทยประมาณธันวาคม
แปลว่ามีอยู่ 2 ปี คือ พ.ศ. 2440 และ พ.ศ. 2450 ที่ท่านอยู่ยุโรปในวันเฉลิมพระชนมพรรษา แล้วท่านจะทำอย่างไรดีล่ะ เวลานั้นวัดไทยยังไม่มีเลยในยุโรป ในขบวนที่ท่านไปท่านเชิญพระพุทธรูปไปด้วย นั่นคือ ‘พระชัย’”

ด้านรองคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสริมว่า “ธรรมดาของพระมหากษัตริย์เวลาเสด็จพระดำเนินไกล ๆ เป็นขบวนไป จะต้องมีพระชัย”
จากนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีจะกล่าวต่อไปว่า… “ท่านก็ตั้งพระพุทธรูปเป็นประธานในพิธี แล้วก็ทรงบูชาสักการะพระพุทธรูปนั้น สวดมนต์ในบรรดาพระองค์เอง แล้วก็เจ้านายทั้งหลาย สวดมนต์นี่ก็เป็นกุศล ใจเป็นสมาธิ รำลึกถึงพระคุณพระรัตนตรัย แค่นี้ก็เป็นบุญกุศลในข้อจำกัดที่ท่านอยู่ในต่างประเทศแล้ว”
ก่อนที่ รศ. ดร. ชัชพล จะปิดท้ายไว้ว่า พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรป ก็ยังทรงสรงน้ำพระชัยอีกด้วย เพื่อที่จะเป็นน้ำพระพุทธมนต์ เพราะปกติแล้วงานเฉลิมพระชนมพรรษาจะต้องมีการเสกทำน้ำพระพุทธมนต์ จะได้สรงพระมุรธาภิเษก แต่เนื่องจากปีนั้นไม่มีพระ จึงใช้น้ำสรงพระชัยแทน
ฟังเรื่องราวอื่น ๆ อีกมากมายเกี่ยวกับ ‘ธรรมเนียมการฉลองอายุ’ ในงานเสวนา ‘ฉลองราชย์ เฉลิมพระชนมวาร’ เมื่อวันที่ 25 กรฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 13.00-17.00 น. ณ ห้องสามศร ๑ อาคารรำไพพรรณี ชั้น ๖ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (ใกล้สะพานผ่านฟ้าลีลาศ) ได้ที่นี่ คลิก…
อ่านเพิ่มเติม :
- ทำไม “อยุธยา-กรุงเทพฯ” ถึงได้ฉายาว่า “เวนิสตะวันออก”?
- “ธงทอง” เผยเรื่องราว “การจัดการน้ำ-การขึ้นครองราชย์” สองประเด็นจากหนังสือใหม่ สนพ. มติชน
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 25 กรกฎาคม 2567