“รินตินติน” ยอดน้องหมาซูเปอร์สตาร์ ช่วยค่ายหนังจากการเสี่ยงล้มละลาย

โปสเตอร์ ภาพยนตร์ รินตินติน — โปสเตอร์ภาพยนตร์ Rinty of the Desert ปี 1928 ซึ่งมี รินตินติน เป็นตัวเอกของเรื่อง (เครดิต Wikimedia)

ผู้เขียน	ศราวิน ปานชัย
เผยแพร่	วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ.2567

ทุกวันนี้เราคงคุ้นตากับภาพยนตร์ที่มีสัตว์เลี้ยงอย่าง สุนัข แมว เป็นตัวดำเนินเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น One Hundred and One Dalmatians, A Dog’s Purpose ฯลฯ แต่เมื่อร้อยปีก่อน โลกนี้มี “รินตินติน” โลดแล่นอยู่ในภาพยนตร์ ไม่ใช่แค่เรื่องเดียว แต่รินตินติน รับบทเป็นตัวเอกรวมแล้วกว่า 25 เรื่อง กลายเป็นจุดกำเนิดของหนังแนวน้องหมา-น้องแมว อย่างปัจจุบัน

รินตินติน (Rin Tin Tin) เป็นสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดตัวผู้ เกิดเมื่อปี 1918 ในครอบครัวสุนัขจรจัดที่มีพี่น้องท้องเดียวกัน 5 ตัว รินตินตินอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านไฟรีย์ (Flirey) ในประเทศฝรั่งเศส แต่หลังเจ้าหมาตัวน้อยเกิดได้ไม่นาน หมู่บ้านก็ถูกกองทัพเยอรมันทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 แม้บ้านเรือนจะเสียหาย แต่รินตินตินก็รอดชีวิตมาได้

หลังสงครามจบลง ลี ดันแคน (Lee Duncan) นายทหารชาวอเมริกันที่เข้ามารบในฝรั่งเศสก็นำน้องหมาที่เจอกลับไปเลี้ยงที่บ้านเกิด เขาตั้งชื่อมันว่า “รินตินติน” ตามชื่อเครื่องรางชนิดหนึ่งของชาวฝรั่งเศสที่ได้รับมาช่วงที่อยู่ในสมรภูมิรบ

ที่สหรัฐอเมริกา ดันแคนฝึกหัดเจ้ารินตินตินจนมันมีความสามารถพิเศษต่าง ๆ มากมาย เช่น กระโดดสูง เคลื่อนไหวตามคำสั่ง แสดงอารมณ์ทางสีหน้าตามคำสั่ง ฯลฯ ก่อนจะนำออกแสดงโชว์ในงานประกวดสุนัขหลายรายการ และคว้ารางวัลจำนวนมาก

ถึงตอนนี้ ดันแคนมีความคิดอยากเสี่ยงลองพาเจ้ารินตินตินเข้าวงการฮอลลีวูด เขาจึงพยายามติดต่อกับคนในวงการภาพยนตร์หลายคน เพื่อนำเจ้าหมาแสนรักไปปรากฏตัวบนจอเงินให้ได้ แม้จะมีบทบาทเพียงเล็กน้อยก็ตาม

ในที่สุดโอกาสก็มาถึง เมื่อรินตินตินได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง The Man from Hell’s River ปี 1922 และเมื่อหนังเข้าโรง ความน่ารัก ฉลาด แสนรู้ของมันก็ไปเข้าตาผู้บริหารวอร์เนอร์ บราเธอร์ส (Warner Bros.) ซึ่งกำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก และพยายามหาทางกอบกู้สถานะของบริษัทกลับคืนมา

ผู้บริหารค่ายวอร์เนอร์ บราเธอร์ส จึงยื่นข้อเสนอให้ดันแคน พร้อมเงินจำนวน 100,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อสร้างภาพยนตร์ขึ้นมาหนึ่งเรื่อง โดยมี “รินตินติน” เป็นตัวเอก

ภาพยนตร์เรื่องนี้คือ Where the North Begins ออกฉายในปี 1923 ประสบความสำเร็จทั้งในด้านคำวิจารณ์และรายได้ โดยทำรายได้ไปทั้งสิ้น 441,000 เหรียญสหรัฐ รินตินตินกลายเป็นน้องหมาระดับซูเปอร์สตาร์ และมีผลงานการแสดงภาพยนตร์ให้วอร์เนอร์ บราเธอร์ส อีกถึง 25 เรื่อง

ชื่อเสียงความโด่งดังของรินตินตินในทศวรรษ 1920 ถึงขนาดเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกอบกู้วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ที่เสี่ยงอยู่ในสภาวะล้มละลาย ให้สามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ

นอกจากเป็นดาวเด่นในหนัง เจ้าตูบยังได้เป็นพรีเซนเตอร์สินค้าสัตว์เลี้ยงหลายยี่ห้อ โดยเฉพาะอาหารสุนัขมากมาย รวมถึงมีการผลิตสินค้าที่ระลึกออกมาจำหน่าย เช่น โปสการ์ดที่มีรูปรอยเท้ารินตินตินประทับอยู่ ซึ่งขายได้หลายแสนใบ

รินตินตินเด่นดังมากถึงขนาดที่งานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้นในปี 1929 คณะกรรมการถึงกับมีความคิดให้เสนอชื่อ “รินตินติน” เป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงรางวัลออสการ์เลยทีเดียว แต่สุดท้ายแผนนี้ก็พับเก็บไป

สุนัข รินตินติน — รินตินตินในปี 1929 (เครดิตภาพจาก Wikimedia)

ความสำเร็จของรินตินติน ซึ่งวอร์เนอร์ บราเธอร์ส เป็นเจ้าของสิทธิ ทำให้ค่ายอื่น ๆ เดินตามรอย ด้วยการนำสุนัขและสัตว์อื่น ๆ มาแสดงเป็นตัวเอกในภาพยนตร์ เช่น เอซ เจ้าหมามหัศจรรย์ (Ace the Wonder Dog) ของค่ายอาร์เคโอ พิกเจอร์ส (RKO Pictures) และกลายเป็นเทรนด์ในการสร้างภาพยนตร์ที่มีสัตว์เป็นตัวดำเนินเรื่องมาถึงปัจจุบัน

มีผู้อธิบายไว้ว่า เหตุที่ความนิยมในตัวรินตินตินสูงมาก มาจากความแปลกใหม่ เพราะไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงรับบทเป็นตัวเอกของเรื่องมาก่อน ประกอบกับการเป็นสุนัขที่มีความน่ารักน่าชัง ทำให้เข้าถึงผู้ชมได้ทุกเพศทุกวัย เหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รินตินตินเป็นขวัญใจผู้ชมในหลายประเทศ เช่นที่นักประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ แจน-คริสโตเฟอร์ ฮอรัค (Jan-Christopher Horak) กล่าวไว้ว่า “ในปี 1927 รินตินติน เป็นนักแสดงที่ได้รับความนิยมที่สุดจากผู้ชมภาพยนตร์ในเยอรมนี”

หลังจากมอบความสุขให้คนดูมานานหลายปี ในที่สุดเจ้ารินตินตินก็เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 1932 ที่บ้านของดันแคนในลอสแอนเจลิส ข่าวการตายของน้องหมาซูเปอร์สตาร์เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ มีรายการพิเศษแสดงความไว้อาลัยถึงหนึ่งชั่วโมงแทบทุกสถานีในสหรัฐอเมริกา

ถึงจะผ่านไปร่วม 3 ทศวรรษ แต่ชาวอเมริกันยังไม่ลืมเจ้าหมาที่เคยสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้พวกเขา ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ปี 1960 รินตินตินได้รับการจารึกชื่อใน Hollywood Walk of Frame เพื่อเป็นเกียรติแก่ผลงานและความสำเร็จ นับเป็นสัตว์เลี้ยงเพียงตัวเดียวที่มีชื่ออยู่ในนี้

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่