ค้นความลับใต้ภาพ “โมนาลิซา” นักวิทยาศาสตร์พบภาพร่างปริศนาซ่อนอยู่

โมนาลิซา

โมนาลิซา ผลงานชิ้นเอกของ ลีโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo da Vinci) ศิลปินระดับตำนานของโลกเป็นที่ชื่นชมของคนหลายรุ่นมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการสร้างงานชิ้นนี้ยังมีนักวิชาการหลายแขนงพยายามค้นหาคำตอบกันจนถึงวันนี้

เช่น มีรายงานผลการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังที่ศึกษาผลงานชิ้นนี้มาอย่างยาวนานออกเผยแพร่ในสื่อต่างประเทศ ผลการศึกษาครั้งล่าสุดบ่งชี้ว่า ศิลปินชื่อก้องโลกเขียนภาพ โมนาลิซา (Mona Lisa) โดยเขียนบนภาพร่างปริศนาที่สเกตช์จากถ่านอีกชิ้นหนึ่ง

นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาผลงานศิลปะระดับโลกมีนามว่า ปาสคาล ค็อตเต (Pascal Cotte) เขาศึกษาภาพโมนาลิซา มาตั้งแต่ปี 2004 เมื่อพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ให้เขาใช้เทคโนโลยีถ่ายภาพชั้นสูงโดยกล้องถ่ายภาพแบบ multispectral จากนั้นใช้เทคโนโลยีขยายชั้นผิวแต่ละชั้นออกมา ซึ่งจะช่วยให้เห็นรายละเอียดของผลงานเพื่อค้นหารายละเอียดแต่ละชั้นข้างใต้ภาพ

ค็อตเต ใช้เวลาศึกษาภาพจากการสแกนนับพันชิ้น และใช้เวลาวิเคราะห์ประมวลผลอีกนับสิบปี โดยทำงานร่วมกับนักฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ด้วยความหวังว่าจะสามารถไขปริศนา และทำความเข้าใจกับสิ่งที่ยังไม่สามารถหาคำตอบเกี่ยวกับภาพนี้ได้

ด้วยความช่วยเหลือจากเทคโนโลยีอันทันสมัย ทำให้นักวิทยาศาสตร์รายนี้พบร่องรอยของลายเส้นที่ใช้ถ่านในจุดที่มีสีอ่อนในภาพ

จากผลการวิเคราะห์แล้ว ค็อตเต ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า ทีมงานเข้าใจว่าภาพโมนาลิซาเป็นผลงานที่ใช้เวลาสร้างสรรค์ยาวนาน อาจกินเวลาร่วมทศวรรษ ผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน และเชื่อว่า ดาวินชีสร้างผลงานชิ้นนี้โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า spolvero อันทำให้เขาสามารถถ่ายโอนภาพสเกตช์จากกระดาษมาสู่ผ้าใบ โดยใช้ผงถ่านเพื่อสร้างชิ้นงาน “โมนาลิซา” นั่นเอง

ค็อตเต ระบุว่า กระบวนการ spolvero เป็นปัจจัยสำคัญที่เปลี่ยนรูปโฉมผลงานจากภาพสเกตช์ไปแบบสิ้นเชิง รายงานข่าวจาก ARTnews ระบุว่า นี่ถือเป็นครั้งแรกที่พบว่าภาพวาดระดับโลกใช้เทคนิค spolvero และยังทำให้จินตนาการไปไกลกว่านั้นได้อีกว่า สมมติฐานเรื่องกระดาษที่วาด “โมนาลิซา” โดยฝีมือของดาวินชี มีตัวตนอยู่จริงมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าเดิม และพอจะเป็นอีกชุดข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ภาพร่างในกระดาษนั้นอาจวางตำแหน่งท่วงท่าแตกต่างกับภาพ “โมนาลิซา” ที่คนในปัจจุบันคุ้นเคย เนื่องจากข้อมูลที่พบในภาพสเกตช์ร่างนั้น บ่งชี้แล้วว่า ดาวินชี เปลี่ยนแปลงการวางองค์ประกอบภาพ (compose) กับชิ้นงานขั้นสุดท้าย

(คลิกชมภาพสแกนที่เปิดเผยรายละเอียดเส้นร่างข้างใต้ที่นี่)

นอกจากนี้ ภาพสแกนยังพบข้อมูลที่ยังไม่เคยถูกพูดถึงก่อนหน้านี้ จากผลการตรวจสอบภาพจะพบ “ที่หนีบผม” ชิ้นเล็กๆ อยู่ด้านบนศีรษะโมนาลิซา ซึ่งหากตีความตามสมมติฐานว่าชิ้นส่วนที่ปรากฏบนภาพสแกนเป็น “ที่หนีบผม” รายละเอียดนี้ขัดแย้งกับลักษณะของฟลอเรนซ์ในช่วงที่เชื่อว่าภาพโมนาลิซา ถูกเขียนขึ้น (นักวิชาการส่วนหนึ่งสันนิษฐานว่าภาพถูกเขียนขึ้นระหว่าง 1503-1519) โดยเขามองว่า ฟลอเรนซ์ในช่วงนั้นยังไม่ได้มีแฟชั่นลักษณะนี้ ผู้คนในช่วงเวลานั้นล้วนแต่งกายที่สะท้อนถึงวิชาชีพของตัวเอง

ค็อตเต วิเคราะห์ว่า “ที่หนีบผม” บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ว่า ผลงานของดาวินชี ไม่ได้เป็นภาพวาดบุคคล (portrait) แต่เป็นภาพวาดเชิงเปรียบเทียบ หรืออาจเป็นการตีความว่าด้วยผู้หญิงที่เหนือจินตนาการ ทำนอง “เทพธิดา” ก็เป็นได้

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง:

Cascone, Sarah. “A Hidden Drawing Lies Beneath the ‘Mona Lisa,’ New Ultra-High-Resolution Images Reveal”. Artnet. Online. Published 28 SEP 2020. Access 2 OCT 2020. <https://news.artnet.com/art-world/mona-lisa-hidden-drawing-photos-1911271>

SAUNDERS, JOSH. “Leonardo da Vinci secret: Mona Lisa’s hidden detail discovered by high-tech camera”. Express. Online. Published  24 SEP 2020. Access 2 OCT 2020. <https://www.express.co.uk/news/world/1339568/leonardo-da-vinci-news-mona-lisa-hidden-secret-detail-painting-art-camera-hairpin-hair-spt>


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 2 ตุลาคม 2563