ผู้เขียน | คนไกล วงนอก |
---|---|
เผยแพร่ |
วาทะ “โจวเอินไหล” ที่โต๊ะอาหารต่อหน้า “ปูยี” อดีตจักรพรรดิแมนจู และ “เหลาเส่อ” อดีตชาวแมนจูผู้ยากจน
การเดินขบวนฉลองวันชาติ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1960 โจวเอินไหล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ จัดการให้ปูยีจักรพรรดิองค์สุดท้าย ออกมาชมการเดินขบวนฉลองวันชาติด้วยตนเอง เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลให้อภัยต่อปูยี ไม่ถือโทษเรื่องอดีตในวันเวลาแห่งการเฉลิมฉลองทั่วทั้งแผ่นดิน
ก่อนหน้านั้นในปี 1959 เหมาเจ๋อตงประธานแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศการอภัยโทษเป็นพิเศษ ให้กับปูยีจักรพรรดิองค์สุดท้าย รวมทั้งอาชญากรสงครามอีกจํานวนหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่คือคณะนายทหารของพรรคก๊กมิ่นตั๋ง หลังการปล่อยตัว ปูยีได้รับให้เป็นเจ้าหน้าที่พิเศษในคณะกรรมการค้นคว้าข้อมูลทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติ
หลังการอภัยโทษไม่นาน โจวเอินไหลจัดงานเลี้ยงต้อนรับปูยีและครอบครัว ตามนโยบายของพรรคที่ช่วยเหลืออาชญากรสงคราม เปลี่ยนจิตแปลงใจพวกเขาให้เป็นผู้เป็นคนขึ้นมา สร้างความสามัคคีกับชนชาติต่างๆ ทั่วประเทศ สำหรับปูยีซึ่งเป็นชาวแมนจู หนึ่งในชนชาติส่วนน้อย 50 กว่าชาติของประเทศจีน โจวเอินไหลจึงเชิญเหลาเส่อ (นามปากกาของซูซิ่งชุน) และภรรยา เหลาเส่อซึ่งเป็นชนชาติแมนจู และนักเขียนชื่อดังแห่งยุคมาร่วมด้วย
ที่โต๊ะอาหารโจวเอินไหล กล่าวคำพูดไม่กี่คําก็พูดเข้าประเด็นแบบเนียนๆ
“คนหนึ่งคือปูยี คนหนึ่งคือเหลาเส่อ ล้วนแต่เป็นชาวแมนจู ก่อนหน้านี้ คนหนึ่งเป็นฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นชาวแมนจูที่ยากจน
มิใช่แต่ไม่สามารถจะนั่งคู่อยู่ด้วยกัน แม้ในขณะที่พบหน้า ทุกคนยังต้องคุกเข่าให้กับฮ่องเต้
วันนี้เรา 3 คนล้วนแต่มานั่งอยู่ข้างโต๊ะตัวเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงช่างใหญ่หลวงเหลือเกิน!
ในเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงเช่นนี้ พวกเราทุกคนก็ควรจะต้องศึกษา จึงจะสามารถสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินนี้ได้ เราจะต้องมีชีวิตอยู่จนแก่เฒ่า ศึกษาจนแก่เฒ่า ดัดแปลงจนแก่เฒ่าตลอดไป”
นี่คือความสามารถทางการทูตของโจวเอินไหลที่พูดได้ดี และไม่ต้องพูดเยอะ เจ็บคอ!
อ่านเพิ่มเติม :
ข้อมูลจาก :
ฟางจี้เฉิง, เจียงกุ้ยหนง-เขียน บุญศักดิ์ แสงระวี-แปล. โจวเอินไหล ฝากชื่อไว้ในแผ่นดิน, สำนักพิมพ์สุขภาพใจ, พิมพ์ครั้งที่ 2 ธันวาคม 2551
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 10 พฤษภาคม 2564