ไขระยะ “ดวงเมืองตก” เหตุเรื่องรุนแรง-เหตุการณ์สำคัญ มักเวียนมาช่วงเดือนตุลาฯ

ผู้เขียน	ธนกฤต ก้องเวหา
เผยแพร่	วันพฤหัสที่ 26 มกราคม พ.ศ.2566

วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม 2566 เวลา 13.30-15.00 น. ณ ห้องโถงอาคารมติชนอคาเดมี “ศิลปวัฒนธรรม” จัด สโมสรศิลปวัฒนธรรมเสวนา “ชะตาเมือง – เรื่องดวงดาว” วิทยากรโดย บุศรินทร์ ปัทมาคม และ วสุวัส คำหอมกุล มี เอกภัทร์ เชิดธรรมธร เป็นผู้ดำเนินการเสวนา มีการกล่าวถึง ดวงเมือง ระยะที่ส่งอิทธิพลให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงต่าง ๆ ในสังคมไทย

ผู้ดำเนินการเสวนาเริ่มด้วยการขอคำอธิบายว่า “โหราศาสตร์” และ “ดวงดาว” เป็นศาสตร์ที่ใช้หลักการใดในการดู อาจารย์บุศรินทร์ได้กล่าวว่า “โหราศาสตร์คือ ‘สถิติ’ ทางดาราศาสตร์ การโคจรของดวงดาวทำให้เกิดอะไรขึ้น…” อาจารย์วสุวัส ยืนยันหลักการดังกล่าว (โหราศาสตร์ คือ สถิติ) เช่นกัน พร้อมเสริมว่า “โหราศาสตร์จะจับว่าช่วงดวงดาวโคจรแบบนี้มันเกิดอะไรขึ้น แล้วบันทึกเก็บเอาไว้ ส่วนใหญ่หมอดูทุกคนจะรู้ว่า ‘ประวัติศาสตร์มักซ้ำรอย’ อะไรที่มันเคยเกิดมาแล้วจะเกิดอีก ส่วนใหญ่จะคล้าย ๆ ของเดิม แต่อาจจะมีบริบทเปลี่ยนไปบ้าง…”

สำหรับ ดวงเมือง นั้น อาจารย์ทั้งสองท่านอธิบายการดูดวงเมืองว่าจะใช้เวลาที่ “ลงเสาหลักเมือง” เป็นเวลาที่ผูกดวงเมืองโดยเหล่าโหราธิบดี ไม่สามารถดูลอย ๆ ได้ ต้องมีวันเกิดและเวลาเกิดเป็นหลักในการดูดวงเมือง แต่ดวงเมืองจะไม่ผูกกับผู้นำโดยตรง แม้จะดูประกอบกันได้ แต่ดวงเมืองจะเป็นหลักเสมอ

อาจารย์วสุวัส เล่าว่า “ส่วนใหญ่อิทธิพลดวงเมืองจะมีผลมากกว่าคน คนจะได้รับอิทธิพลดวงเมืองไปโดยปริยาย อย่างเช่น บางคนช่วงที่ดวงดี แต่ดวงเมืองช่วงนี้ไม่ดี ช่วงนั้นเขาจะรู้สึกว่าทำธุรกิจดีก็จริง แต่ก็จะรู้สึกติดขัดอะไรบางอย่าง จะมีอิทธิพลอย่างนี้เกิดขึ้น” แล้วบอกอีกว่า “คนที่ร่ำรวยสวนดวงเมืองก็มีอยู่ ได้ดิบได้ดีจากการค้าขายติดต่อกับต่างประเทศด้วย ส่วนใหญ่คนพวกนี้ดวงเมืองไม่ค่อยมีผล จากลัคนาที่ผมดูมา ส่วนใหญ่จะอยู่ราศีกันย์กับราศีพิจิก ซึ่งเป็นราศีอริกับมรณะของดวงเมือง”

อาจารย์บุศรินทร์ อธิบายว่าฐาน ดวงเมือง ของประเทศไทยที่มีมาจาก… “พระยาโหราธิบดีที่ให้ฤกษ์ดวงเมืองหวังให้ประชาชนรักแผ่นดินเกิด ก็เลยเอาดาวอาทิตย์ ‘กุมลัคน์ (กุมลัคนา)’ ไว้ที่ราศีเมษ อาทิตย์เป็นวันเกิดของดวงเมือง เป็นบริวารกุมลัคน์ จะสังเกตเห็นได้ว่า ดวงเมืองจะเกิดปัญหาตอนที่ดาวอาทิตย์จรเข้า ‘ดวงอริ’ ของดวงเมือง คือประมาณ 18 กันยายน – 16 ตุลาคม ของทุกปี ถ้าจะมีเรื่องอะไรก็จะมีเรื่องกันตอนนี้ เพราะฉะนั้น ความรุนแรงจะเกิดขึ้นในช่วงนี้…

เมื่ออาทิตย์เข้าราศีกันย์ ช่วงนี้จะเป็นช่วงดวงตกของเมือง ทุก ๆ ปี 12 เดือนจะมี 3 เดือนที่อาทิตย์เข้าราศีกันย์ ราศีพิจิก ราศีมีน แต่ที่บ่อยที่สุด รุนแรงที่สุด คืออาทิตย์เข้าราศีกันย์… เราจะต้องเสียบุคคลสำคัญไปเมื่อดาวพฤหัสฯ จรเข้าดวงวินาศของดวงเมือง เป็นช่วงดวงตกซึ่งเริ่มตั้งแต่ 8 เมษายน 2565 – 9 เมษายน 2566 ซึ่งดวงเมืองตกอยู่ เราจะต้องเสียบุคคลสำคัญ หรือพระผู้เฒ่าซึ่งเป็นพระดัง ๆ …”

อาจารย์บุศรินทร์ กล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในประวัติศาสตร์ไทย ที่มักเวียนมาในช่วงดวงเมืองตกอย่างมีนัยสำคัญเสมอ ทั้งการปฏิวัติรัฐประหาร การเกิดอุทกภัย คดีความหรือเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่สร้างผลกระทบต่อคนจำนวนมากหรือชีวิตคนไทย แม้จะมีการแก้ดวงเมืองในช่วงรัชกาลที่ 4 โดยวางเสาหลักเมืองใหม่ แต่เสาหลักเมืองอันเดิมยังอยู่กับเสาใหม่ รัฐบาลไทยในยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองมีความคิดแก้ดวงเช่นกัน ยกตัวอย่างยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม และ ทักษิณ ชินวัตร ที่มีโครงการย้ายเมืองหลวง แต่สุดท้ายไม่บรรลุเป้าหมายดังกล่าว

เรื่องนี้ อาจารย์วสุวัส เสริมว่า ดวงเมืองไทยเอาพระอาทิตย์เป็นหลัก ทำให้ประชาชนไทยผูกติดอยู่กับสถาบันหลักของชาติและรักชาติบ้านเมือง ส่วนดาวของประชาชนคือ “ดาวจันทร์” หรือดวงจันทร์ซึ่งเป็นดาวเกษตร คนไทยจึงผูกพันอยู่เนือง ๆ กับสถาบันหลักของชาติ เป็นเหตุผลหนึ่งที่คนไทยยังคงยึดติดความเชื่อแบบดั้งเดิมและการย้ายเมืองหลวงกระทำได้ยากยิ่ง เพราะผู้คนยังให้ความสำคัญกับกรุงเทพฯ ที่มีดวงเมืองผูกกับดวงอาทิตย์

นอกจากประเด็นข้างต้น อาจารย์ทั้งสองท่านยังไขข้อกระจ่างว่าดวงเมือง หรือ ดวงดาว ส่งผลต่อนิสัยของคนไทยอย่างไร และเหตุใดดาวเสาร์กับดาวพฤหัสบดีถึงให้โทษมากกว่าคุณ โดยเฉพาะประเด็นทางการเมือง การเลือกตั้ง พ.ศ. 2566 ที่อาจารย์ทั้งสองท่านให้ความเห็นต่างกัน แม้จะอิงจากหลักโหราศาสตร์เหมือนกัน ส่วนเห็นที่ตรงกันคือมีโอกาสสูงเกิน 80% ที่จะได้เลือกตั้งอย่างแน่นอน ในขณะที่นายกรัฐมนตรีสมัยหน้าหรือโฉมหน้ารัฐบาลใหม่กลับต่างกันออกไป และที่เรียกเสียงฮืออย่างมากคือชะตากรรมของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันหลังการเลือกตั้งปีนี้ และสถานการณ์ทางการเมืองของปีนี้ และไม่กี่ปีต่อจากนี้ พร้อมเน้นย้ำว่าโหราศาสตร์นั้นต้องดูปีต่อปีจึงจะแม่นยำที่สุด

ทั้งสองท่านพูดถึงสภาพเศรษฐกิจไทยทั้งครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลัง ระบุภาคธุรกิจที่จะเติบโต ภัยอันตรายต่าง ๆ ตลอดจนปัญหาสุขภาพที่คนไทยพึงระวัง แต่ยังย้ำว่าดวงเมืองอาจจะบอกแบบนี้ แต่ดวงคนต้องพิจารณาเป็นบุคคล ๆ ไป และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องโหราศาสตร์ที่สามารถทำได้ไม่ยาก มีตำราให้ค้นคว้าได้เอง ไม่ใช่เรื่องไกลตัวแต่อย่างใด

ชมสโมสรศิลปวัฒนธรรมเสวนา “ชะตาเมือง – เรื่องดวงดาว”