“ซุ้มรับเสด็จ” ในการรับเสด็จพระพุทธเจ้าหลวง เสด็จนิวัตพระนคร พ.ศ. 2450

หลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 เสร็จสิ้นแล้วนั้น ในการเสด็จนิวัติพระนคร ได้มีการจัดงานรับเสร็จพระพุทธเจ้าหลวงอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งนับเป็นงานสำคัญงานแรกที่ถนนราชดำเนินถูกใช้เป็นพื้นที่จัดงาน ที่มีการตกแต่ง “ซุ้มรับเสด็จ” ตลอดถนน โดยพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ ประชาชน และชาวต่างประเทศ พร้อมใจกันสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรับพระขวัญพระพุทธเจ้าหลวง

รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชปรารภว่า การเสด็จนิวัติพระนครครั้งนี้ ไม่ควรจะจัดการรับเสด็จให้เอิกเกริกเหมือนครั้งก่อน ซึ่งมีงานมหรสพงานรื่นเริงนานนับเดือน ทรงเห็นว่า “…ที่จะจัดการรับเสด็จฯ ไม่ควรจะให้เปลืองทุน และเสียเวลาของคนทั้งหลาย พากันเหน็ดเหนื่อยเหมือนอย่างครั้งก่อน…”

ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ การรับเสด็จเฉพาะในกรุงเทพฯ จะจัดให้เสร็จสิ้นภายในวันเดียว แต่การพระราชพิธีส่วนพระองค์ ก็ได้จัดให้เป็นตามปกติที่ต้องดำเนินการ สรุปแล้วในการเฉลิมฉลองครั้งนี้ กินเวลา 3 วัน นับแต่วันที่ 16-18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2450

การจัดเตรียมงานรับเสด็จมีขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2450 โดยที่ประชุมเสนาบดีสภา ซึ่งมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ในฐานะผู้สำเร็จราชการ เป็นประธานเสนาบดีสภา ได้มีการหารือการรับเสด็จ ซึ่งมีเวลาเตรียมการไม่ถึงสามเดือน

การรับเสด็จนอกจากส่วนพิธีการและระเบียบการต่าง ๆ แล้ว การสร้างซุ้มรับเสด็จและการตกแต่งสถานที่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ โดยที่ประชุมเสนาบดีสภาได้มอบหมายหน้าที่ให้แต่ละหน่วยงานได้ประดับตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ ตั้งแต่ท่าราชวรดิษฐ์ พระบรมมหาราชวัง สนามหลวง ถนนราชดำเนินตลอดแนวตั้งแต่หัวถนนไปจรดปลายถนนที่พระราชวังดุสิต

หนังสือพิมพ์บางกอกไทม์ ฉบับวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2450 รายงานข่าวเกี่ยวกับการตกแต่งพระนครเพื่อรับเสด็จไว้ว่า ประชาชนจำนวนมากมารวมตัวกันอย่างหนาแน่นบริเวณสวนดุสิต เพื่อชื่นชมซุ้มรับเสด็จทั้งหลายที่สร้างตลอดแนวถนน ซุ้มรับเสด็จ ได้รับการตกแต่งอย่างประณีตบรรจง หากรื้อนั่งร้านออกไปจะสวยงามยิ่งขึ้น ซุ้มรับเสด็จเหล่านี้ยิ่งงดงามขึ้นอีกเมื่อตอนกลางคืน มีการเปิดไฟนับพัน ๆ ดวง

หนึ่งคืนก่อนวันรับเสด็จ หนังสือพิมพ์บางกอกไทม์รายงานข่าวว่า ในตอนกลางคืนได้มีฝนตกลงมา จนเกรงว่าจะทำความเสียหายแก่ซุ้มรับเสด็จ และปะรำพิธีต่าง ๆ แต่ฝนก็ตกลงมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผิดกับวันที่เสด็จพระราชดำเนินถึงแล้ว ที่หลังจากนั้นก็มีฝนตกใหญ่ทั่วทั้งพระนคร

ในวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2450 พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จพระราชดำเนินถึงยังท่าราชวรดิษฐ์ เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระบรมมหาราชวัง ทรงประกอบพิธีต่าง ๆ ตามธรรมเนียม จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยังพลับพลาสนามหลวง ซึ่งประชาชนมาเข้าเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท ณ ที่นั่น แล้วเสด็จพระราชดำเนินด้วยรถพระที่นั่งไปยังพระราชวังดุสิต ผ่านถนนราชดำเนินที่ตกแต่งซุ้มรับเสด็จอย่างงดงาม ยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติยศ

นอกเหนือจากซุ้มรับเสด็จของกรมทหารเรือ ที่ตกแต่งบริเวณท่าน้ำราชวรดิษฐ์ และซุ้มรับเสด็จของกรมวัง ที่ตกแต่งบริเวณพระบรมมหาราชวังแล้ว ซุ้มตลอดแนวถนนราชดำเนินมีทั้งหมด 10 ซุ้ม เรียงตามลำดับตั้งแต่ซุ้มแรกที่สนามหลวงไปถึงซุ้มสุดท้ายที่พระราชวังดุสิต ดังนี้

ซุ้มรับเสด็จ รัชกาลที่ 5 กรมยุทธนาธิการ ซุ้มช้าง

ซุ้มรับเสด็จกรมยุทธนาธิการ ตกแต่งบริเวณท้องสนามหลวง สร้างเป็นช้างสองเชือกชูงวงเทิดพระเกี้ยว

ซุ้มรับเสด็จ กระทรวงกลาโหม

ซุ้มรับเสด็จกระทรวงกลาโหม ตกแต่งบริเวณสะพานผ่านพิภพ สร้างเป็นคชสีห์สองตัวรองรับพระมหาฉัตร ด้านบนเป็นตราจักรีขนาดใหญ่อยู่ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ และซุ้มมีข้อความ “ส์ วาคต เต มหาราช” หมายถึง “Good Coming” หรือ “Pronouncing Welcome”

ซุ้มรับเสด็จ รัชกาลที่ 5

ซุ้มรับเสด็จกระทรวงมหาดไทย ตกแต่งบริเวณถนนตะนาว สร้างเป็นหอสูง 4 หอ ลักษณะคล้ายหอไอเฟลเฉพาะส่วนตรงกลาง (ตัดส่วนยอดและฐานออก) เหนือทางเชื่อมมีตรา จปร.ภายใต้พระมหามงกุฎ มีข้อความประดับไฟฟ้าว่า “ยินดีต้อนรับ” นอกจากนี้ ยังตกแต่งด้วยสายมาลัยจำนวนมาก ถักสานสลับไปมา ประดับด้วยโคมไปแบบญี่ปุ่นตลอดความยาวสองฝั่งถนน

ซุ้มรับเสด็จ กระทรวงยุติธรรม

ซุ้มรับเสด็จกระทรวงยุติธรรม ตกแต่งบริเวณถนนราชดำเนินกลาง สร้างเป็นซุ้มสีทองหรูหรา มีดุสิตเทวบุตร นั่งบนปัทมบัลลังก์ อยู่ใต้รัศมีดวงอาทิตย์ มีเทวดานั่งขนาบ องค์หนึ่งถือพระแส้จามรี อีกองค์ถือพัดวาลวิชนี และซุ้มมีข้อความว่า “ทรงพระเจริญ”

ซุ้มรับเสด็จ รัชกาลที่ 5 กระทรวงนครบาล

ซุ้มรับเสด็จกระทรวงนครบาล ตกแต่งบริเวณสะพานผ่านฟ้า ด้านเหนือ สร้างเป็นประตูแบบจีน หลังคาแบบจีน 3 ชั้น เสาประตูมีมังกรพันรอบเสา โคมไฟเขียนเป็นภาษาจีน แปลว่า “โอรสสวรรค์” และ “หมื่น ๆ ปี” ยังมีการตกแต่งด้วยโคมแบบญี่ปุ่นตลอดแนวถนน และซุ้มมีข้อความประดับไฟฟ้าว่า “ยินดีรับเสด็จ”

ซุ้ม กระทรวงธรรมการ

ซุ้มรับเสด็จกระทรวงธรรมการ ตกแต่งบริเวณสยามแยกถนนจักรพรรดิ หรือถนนจักรพรรดิพงศ์ สร้างเป็นซุ้มสามคูหา ทำทรวดทรงอย่างไทย มีพระเพลิงทรงระมาด พญานาค และพัดแฉกทรงพุ่มข้าวบิณฑ์อยู่ด้านบน และซุ้มมีข้อความอักษรขอมว่า “จิรัป์ปวาสิํ สยามิน์ทํ อภินัน์ทาม อาคตํ” หมายถึง “ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายยินดีว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประเทศสยาม ซึ่งเสด็จประพาสมานาน ได้เสด็จมาถึงแล้ว” ส่วนที่อยู่เหนือถนน แขวนธงผืนใหญ่เขียนข้อความว่า “ทรงพระเจริญ”

ซุ้มรับเสด็จ รัชกาลที่ 5 โรงเรียนนายร้อยทหารบก

ซุ้มรับเสด็จโรงเรียนนายร้อยทหารบก ตกแต่งบริเวณหน้าโรงเรียนนายร้อยทหารบก สร้างเป็นซุ้มขนาดเล็ก รูปพระนารายณ์ทรงครุฑอยู่เหนือลูกโลก สองข้างเป็นราชสีห์ประคองฉัตร 7 ชั้น ใต้ลูกโลกมีข้อความว่า “ทรงพระเจริญ”

ซุ้มรับเสด็จ กระทรวงเกษตราธิการ

ซุ้มรับเสด็จกระทรวงเกษตราธิการ ตกแต่งบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ด้านใต้ สร้างเป็นหอสูง 4 หอ ลักษณะคล้ายหอสวดในมัสยิด ยอดเป็นโดมสีขาว บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยโคมไฟจำนวนมาก ประตูซุ้มส่วนบนสุดตอนกลางมีจุลมงกุฎครอบตราแผ่นดิน และซุ้มมีข้อความว่า “เพื่อทรงพระเจริญ”

ซุ้มรับเสด็จ รัชกาลที่ 5 กระทรวงพระคลัง

ซุ้มรับเสด็จกระทรวงพระคลัง ตกแต่งบริเวณสี่แยกพิษณุโลก สร้างเป็นซุ้มโค้งรูปเกือกม้า สองข้างประดับด้วยเหรียญทศ ด้านหนึ่งเป็นพระราชลัญจกร พระครุฑพ่าห์ มีตัวอักษรว่า “สยามรัฐ รศ 126” ด้านหลังมีอักษร “ทรงพระเจริญ” อีกด้านเป็นพระบรมฉายาลักษณ์หันพระพักตร์ข้าง มีตัวอักษรว่า “จุฬาลงกรณ์บรมราชาธิราช” ด้านหลังเป็นรูปนางฟ้าให้พรศิลปะแบบตะวันตก มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ “Long Live The King”

ซุ้มรับเสด็จ รัชกาลที่ 5 กระทรวงโยธาธิการ

ซุ้มรับเสด็จกระทรวงโยธาธิการ ตกแต่งบริเวณวงเวียนดวงตะวัน หรือบริเวณหน้าพระลาน (ช่วงเวลานั้นยังไม่มีพระบรมรูปทรงม้า) สร้างเป็นหอสูง 2 หอ แบบตะวันออก สูงสง่าและรองรับด้วยแถวเสารูปโค้ง วัดความสูงจากฐานถึงยอดได้ประมาณ 40 เมตร ด้านหน้าซุ้มสร้างเป็นพระพฤหัสบดีทรงกวาง

โดยซุ้มรับเสด็จกระทรวงโยธาธิการสร้างขึ้นเพื่อจำลองลักษณะสิ่งก่อสร้างในอนาคตบริเวณนี้ นั่นคือ พระที่นั่งอนันตสมาคมและพระบรมรูปทรงม้า ดังที่กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงอธิบายไว้ว่าพระพฤหัสบดีทรงกวาง “…ทำเทียบเป็นตัวอย่างที่จะสร้างพระบรมรูปทรงม้า…”

หนังสือพิมพ์บางกอกไทม์ ฉบับวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2450 รายงานข่าวว่า “…เส้นทางกระบวนเสด็จพระราชดำเนิน เริ่มตั้งแต่ เมื่อเข้าสู่ถนนราชดำเนิน ที่เสาธงมุมพระบรมมหาราชวัง ไปสิ้นสุดที่สวนดุสิต โดยมีซุ้มรับเสด็จที่ได้รับการออกแบบอย่างวิจิตรบรรจง หลายซุ้มด้วยกัน

‘ซุ้มช้าง’ เป็นซุ้มที่คนส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นซุ้มที่สวยงามที่สุด ประกอบด้วยช้างเผือกสองเชือก ชูงวงขึ้นอันเป็นการถวายการต้อนรับ โดยปลายงวงได้เทินพระเกี้ยวขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ตรงกลางของถนน… หลังของช้างทั้งสองเชือกคลุมด้วยผ้าสีทอง เชือกและบังเหียนก็เป็นสีทอง…

ตลอดแนวระหว่างซุ้มช้างไปยังสะพานตอนที่หนึ่ง (สะพานผ่านพิภพลีลา) จะมีเสาสไตล์เวนิส (Venetian masts) ตั้งอยู่ตลอดแนว โดยมี โครงลูกไม้สีแดง และมีพระมหาฉัตรอยู่ที่ยอดทุกเสา นอกจากนั้น เหนือถนนยังมีมาลัยดอกไม้สีต่าง ๆ ทำเป็นเชือกจากสองข้างถนนมามัดรวมกันที่กลางถนน แสงไฟฟ้าที่ใช้เปิดในเวลากลางคืนตลอดสองฝั่งถนนและตามซุ้มต่าง ๆ นั้น ได้มาจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าย่อยที่มีการติดตั้งเป็นระยะ ๆ …”

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่ 


อ้างอิง :

ยุวดี ศิริ. (2549). ซุ้มรับเสด็จ พระพุทธเจ้าหลวง. กรุงเทพฯ : มติชน.

ภาพจาก หอจดหมายเหตุแห่งชาติ


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 14 กรกฎาคม 2563