‘ตราใบห่อ’ ตำนานยาสมุนไพรไทย บนเส้นทางใหม่ของทายาทรุ่น 2

เชื่อว่าหากเปิดตู้ยาสามัญประจำบ้าน จะต้องมียาตราใบห่อเป็นหนึ่งในลิสต์ยาสมุนไพรคู่บ้านที่ขาดไม่ได้ ด้วยความโดดเด่นด้านคุณภาพ ความปลอดภัย สรรพคุณที่มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ไข้ แก้อาการท้องผูก ในราคาที่สามารถจับต้องได้ ทำให้ตราใบห่อครองใจคนไทยมายาวนานกว่า 40 ปี ขึ้นแท่นผู้นำด้านยาสมุนไพร 1 ใน 5 ของประเทศไทย

ตลอดระยะเวลาการเดินทางที่ยาวนานนี้เอง ตราใบห่อยังคงสร้างการเติบโตต่อเนื่องภายใต้การยึดมั่นในวิสัยทัศน์ของ ประสิทธิ์ อัคคะประชา ผู้ก่อตั้งบริษัท ห้างขายยาตราใบห่อ จำกัด ที่อยากให้คนไทยได้รับประทานยาสมุนไพรคุณภาพดี ในราคาที่เป็นมิตรกระทั่งถึงยุคของการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่มือทายาทรุ่นที่ 2 อิศรา อัคคะประชา คนรุ่นใหม่ไฟแรงก้าวเข้ามาพร้อมกับแนวคิดในการรักษา ปรับเปลี่ยน พัฒนา และไม่ลืมรักษาความซื่อสัตย์และจริงใจที่ผู้บริหารในรุ่นก่อตั้งได้สร้างไว้อย่างเข้มแข็ง

จุดเริ่มต้นตราใบห่อ

อิศรา อัคคะประชา กรรมการบริหารและผู้จัดการฝ่ายตลาด บริษัท ห้างขายยาตราใบห่อ จำกัด ทายาทรุ่นสองของธุรกิจยาสมุนไพรตราใบห่อเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นก่อนจะมาเป็นยาสมุนไพรที่ครองใจคนไทยทั่วประเทศว่า คุณพ่อประสิทธิ์ อัคคะประชา เป็นคนที่มีหัวการค้ามาตั้งแต่เด็ก อายุเพียง 7-8 ขวบ ก็ได้ติดเรือรับซื้อสมุนไพรของอากงพายไปตามคลองบางเขน เพื่อรับสมุนไพรจากชาวสวนมาขายต่อ

ในช่วงที่มีเวลาเหลือจากการขายสมุนไพรก็ไปรับปลาทูกับหอยแมลงภู่มาขายตลาดเช้า อากงที่ได้เห็นจึงลงทุนซื้อเรือให้ไปรับไอศกรีมมาพายขายเพิ่ม  ทว่าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเรือนั้นหักกลางลำ ทำให้เรือล่มกลางคลอง อากงโกรธและโมโหอย่างมาก ทำให้คุณพ่อหนีออกจากบ้าน ก่อนจะได้รับโอกาสทำงานที่ร้านขายยาสมุนไพรไทยจีน

กลายป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณพ่อได้ฝึกประสบการณ์ เรียนรู้สรรพคุณของสมุนไพร กระทั่งมีแนวคิดอยากทำยาขมเป็นของตนเองให้มีความแตกต่างจากยาขมรูปแบบเดิมที่มีเพียงชนิดผง ซึ่งต้องหาน้ำร้อนมาชงดื่ม จึงได้พัฒนายาขมตอกเม็ดขึ้นเป็นเจ้าแรกของประเทศไทย เพื่อให้ผู้บริโภครับประทานได้สะดวกยิ่งขึ้น

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คุณพ่อได้สร้างภาพจำยาตราใบห่อผ่านวิถีชีวิตของคนไทย เช่น สปอร์ตโฆษณา รายการมวย รายการโทรทัศน์ เพลงลูกทุ่ง และวิถีชาวบ้าน ทำให้ยาตราใบห่อเป็นตำนานที่รู้จักอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งตราใบห่อยังยึดมั่นวิสัยทัศน์ของคุณพ่อเป็นหลักประจำใจว่า ต้องผลิตยาสมุนไพรคุณภาพดี ในราคาที่คนไทยสามารถจับต้องได้

สมุนไพรไทย กลางใจบ้าน

ทายาทรุ่นสองของธุรกิจยาสมุนไพรตราใบห่อเล่าต่อว่า 3 สินค้าที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานจนทำให้ยาตราใบห่อเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ เริ่มต้นจากยาขมสรรพคุณหลักช่วยเรื่องแก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ไข้ ทำให้เจริญอาหาร ต่อมาคือยาระบายตราใบแก้ว มีสรรพคุณช่วยแก้อาการท้องผูก เมื่อมีปัญหาเรื่องขับถ่าย นอกจากนี้ยังมี ยาเขียวที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งตั้งแต่ช่วงโควิด-19 เพราะมีฤทธิ์เย็นช่วยในการไล่พิษไข้ออกทางผิวหนัง

นอกจากนี้ยังได้พัฒนาสินค้ากลุ่มยาสมุนไพรเพิ่มจากเดิมอาทิยาตราใบแก้วชนิดแคปซูลฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูลยาริดสีดวงชนิดแคปซูลยาบำรุงร่างกายกระชายดำชนิดแคปซูลยาขมิ้นชันชนิดแคปซูลฯลฯ

สำหรับสินค้าใหม่จากตราใบห่อ ได้แก่ ยาดมสมุนไพรตราใบห่อ x Apaul เมื่อแบรนด์สมุนไพรเก่าแก่กว่า 40 ปีเข้ามาอยู่ในกระปุกยาดม Apaul เกิดเป็นดีไซน์ใหม่ที่โดดเด่นน่าดึงดูด และสินค้าใหม่ที่จะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ สเปรย์สมุนไพรตราบีเอชสเปรย์สกัดจากสมุนไพรไทยทำจากเถาเอ็นอ่อนเถาวัลย์เปรียงช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ

ตราใบห่อ เป็นสินค้าในตำนานที่ทุกบ้านทุกครัวเรือนในไทยต้องมี เนื่องจากว่าเป็นยาสมุนไพรที่เข้าถึงได้ง่าย ราคาจับต้องได้ มีขายตามร้านขายยา ร้านค้าทั่วไป ปัจจุบันก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ เรามีทั้งลูกค้าดั้งเดิม และเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าใหม่มากยิ่งขึ้น

ทายาทรุ่นสอง มุ่งพัฒนาและปรับตัว

ท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนผ่าน ทายาทรุ่นสองของครอบครัวอัคคะประชาก้าวขึ้นมาสู่บทบาทของผู้บริหารอย่างเต็มตัว เด็กหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงกับแบรนด์ยาสมุนไพรระดับตำนานเคียงข้างกันปรับตัวเพื่อยืนหยัดในตลาด ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

เพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ที่อยากรับประทานยาสมุนไพรทว่าทานยาขมชนิดเม็ดลำบากตราใบห่อจึงเพิ่มทางเลือกผลิตยาชนิดแคปซูลขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้ารับประทานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ออกสินค้าใหม่ จากเดิมที่ตราใบห่อเน้นยารับประทาน แต่ปัจจุบันได้เดินหน้าออกสินค้ากลุ่มยาสำหรับใช้ภายนอกเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มยาดม ยาหม่อง น้ำมันเหลือง และสเปรย์แก้ปวดกล้ามเนื้อ

ปรับเปลี่ยนแพ็กเกจ ตราใบห่อได้ทำการปรับเปลี่ยนแพ็กเกจให้ทันสมัยและน่าสนใจมากยิ่งขึ้นเพื่อสร้างภาพลักษณ์และดึงดูดลูกค้าแต่ยังคงเอกลักษณ์และมาตรฐานตราใบห่อไว้ดังเดิม

รักษาลูกค้าเดิม สร้างฐานลูกค้าใหม่

ปัจจุบันประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นฉะนั้นกลุ่มยาสมุนไพรจึงมีบทบาทเข้ามาช่วยดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุทั่วโลก ทำให้ตลาดนี้เติบโตขึ้นกว่าเดิม

จุดพลิกที่ทำให้ยาตราใบห่อกลับมาเป็นที่รู้จัก สืบเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด19 ที่ช่วยฟื้นบทบาทของสินค้าตัวชูโรงอย่างฟ้าทะลายโจรให้เข้ามาเป็นยาทางเลือกของผู้ป่วย เพราะมีสรรพคุณลดไข้ ลดอาการเจ็บคอ ซึ่งเป็นอาการเบื้องต้นของผู้ป่วยโควิด-19 ทำให้ทั้งฐานลูกค้าเดิม และคนยุคใหม่เริ่มหันมาสนใจยาสมุนไพรที่มาจากธรรมชาติมากขึ้น ตราใบห่อจึงเริ่มทำการตลาดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม เพื่อเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่

เมื่อฐานลูกค้าในไทยมีความมั่นคงแล้ว ตราใบห่อจึงเริ่มขยายฐานลูกค้าไปทางโซนยุโรป เพราะมีอัตราต้องการยาทางเลือกมากขึ้น โดยปัจจุบันเริ่มส่งออกยาฟ้าทะลายโจรตราใบห่อไปที่ประเทศรัสเซียเป็นประเทศแรก รวมถึงวางขายในร้านขายยา และแพลตฟอร์มออนไลน์ของประเทศรัสเซียเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งในอนาคตตราใบห่อยังมีเป้าหมายส่งออกสินค้าไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศจีน

ในแต่ละตลาดมีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง เรามองว่ากลุ่มแบรนด์ของเราค่อนข้างแข็งแรง เราอยู่ Top 5 ในเรื่องของสมุนไพรไทย คิดว่าอยากจะสานต่อเรื่องนี้ต่อไป ในระยะสั้นเราต้องการที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขึ้นมา ปรับแบรนด์ดิ้ง ตอนนี้เริ่มทำไปประมาณ 80% ใกล้สำเร็จ หลังจากที่เราปรับหลังบ้านเรียบร้อย สเตปต่อไปเราต้องการที่จะส่งออกไปต่างประเทศทั่วโลกทายาทรุ่นสองของธุรกิจยาสมุนไพรตราใบห่อ เผย

จากแบรนด์ในตำนานสู่คาเฟ่สมุนไพรใจกลางกรุง

นอกจากยาที่ใช้ภายในและภายนอกแล้ว ตราใบห่อยังมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ที่จะพัฒนาสมุนไพรไทยให้เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น จึงเกิดเป็นก้าวต่อไปของแบรนด์น้องใหม่ชื่อว่าหอมปรุงความแตกต่างอยู่ที่ ตราใบห่อจะเป็นสมุนไพรหลัก ส่วนหอมปรุงจะนำสมุนไพรมาปรับให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ เกิดเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มชาระบายและเครื่องหอม เพื่อให้คนที่ไม่เคยลอง เปิดใจกล้าทานกล้าลองสมุนไพรมากขึ้น

ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 หอมปรุงจะเปิดร้านคาเฟ่ย่านคลองโอ่งอ่างแลนด์มาร์กใจกลางกรุงเทพมหานครโดยคอนเซ็ปต์ของร้านถูกออกแบบร่วมสมัยถ่ายทอดความรู้สึกผ่านสีและวัสดุพร้อมตกแต่งด้วยเสาซุ้มโค้งและเสาโรมันออกมาเป็นสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่มีมนต์เสน่ห์ในย่านวัฒนธรรม

จุดเด่นของร้านหอมปรุงแห่งนี้ คือการเสิร์ฟประสบการณ์ความอร่อยแห่งแรกที่ไม่เหมือนใคร ทุกเมนูผ่านการนำสมุนไพรเข้ามาเป็นส่วนประกอบของอาหาร และเครื่องดื่ม รังสรรค์เมนูสุดเอกซ์คลูซิฟโดยเชฟระดับประเทศ นอกจากนี้ เพื่อยกระดับสมุนไพรไทยให้กับคนรุ่นใหม่ ยังมีการจัดเวิร์กชอปเปิดโอกาสให้คนที่สนใจสมุนไพรไทยเข้ามาเรียนรู้ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว

เราเห็นตั้งแต่คุณพ่อทำ ตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ปีที่ 50 จนกลายเป็นตำนานของยาสมุนไพร เราคงเสียดายถ้าไม่รักษาตำนานนี้ไว้ ตำนานที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน คิดว่ายังมีองค์ความรู้ดีๆ ที่คุณพ่อได้สะสมไว้ นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ผมเองตั้งใจจะผลักดันสมุนไพร ไม่ใช่แค่ในประเทศ แต่รวมถึงตลาดระดับโลกด้วย