ผู้เขียน | XIX มกรา |
---|---|
เผยแพร่ |
ฮิปโปลีท บูชาร์ด ชาวฝรั่งเศสผู้คุมกองเรือโจรสลัดช่วยปลดแอก “อาร์เจนตินา” จากสเปน
อาร์เจนตินาประกาศเอกราชจากการเป็นอาณานิคมของสเปนในวันที่ 25 พฤษภาคม ปี 1810 อาศัยจังหวะความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสเปน (และทวีปยุโรป) หลังพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 8 แห่งสเปน (Ferdinand VII of Spain) พ่ายแพ้ในสงครามกับจักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศส โดยเรียกเหตุการณ์การประกาศเอกราชนั้นว่า “การปฏิวัติเดือนพฤษภาคม” (May Revolution)
อย่างไรก็ตาม ชาติเจ้าอาณานิคมอย่างจักรวรรดิสเปนไม่ได้ยอมรับเอกราชของอาร์เจนตินาในทันที ผู้คนในอาร์เจนตินาซึ่งขณะนั้นเรียกว่า United Provinces of the River Plate จึงเริ่มปฏิบัติการเพื่อบั่นทอนกำลังของสเปนในการควบคุมภูมิภาคนี้ และหนึ่งในยุทธวิธีที่ชาวอาร์เจนฯ ใช้ก็คือ กองเรือโจรสลัด ซึ่งกองกำลังที่มีชื่อเสียงและสร้างความเสียหายแก่สเปนอย่างมากเป็นกองกำลังภายใต้การนำของชาวฝรั่งเศสผู้รับราชการในกองทัพอาร์เจนตินาจนได้สัญชาติอาร์เจนฯ เขาชื่อ ฮิปโปลีท บูชาร์ด (Hippolyte Bouchard)
ฮิปโปลีท บูชาร์ด
บูชาร์ด เกิดเมื่อวันที่ 15 มกราคม 1780 ในแคว้นโปรวองซ์ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เขาทำงานในกองเรือพาณิชย์ของฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1809 ก่อนย้ายไปอยู่อาร์เจนตินา ซึ่งขณะนั้นยังเป็นอาณานิคมของสเปน
หลังการประกาศเอกราชของอาร์เจนตินา บูชาร์ด เข้ารับตำแหน่งในกองทัพเรือปฏิวัติของอาร์เจนตินาเมื่อปี 1811 และมีส่วนร่วมในสงครามบนภาคพื้นทวีปจนได้รับสัญญาชาติอาร์เจนตินาในปี 1813 ก่อนจะกลายเป็นผู้บัญชาการกองเรือในอีก 2 ปีต่อมา
บูชาร์ด จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในฐานะผู้นำกองเรือปลดแอกชาติอาร์เจนตินา เขานำกองเรือไปทำสงครามกับทหารของสเปนในน่านน้ำต่าง ๆ โจมตีอาณานิคมสเปนทั้งในชิลี เปรู ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกไปปิดล้อมท่าเรือที่มะนิลา (ฟิลิปปินส์) รวมถึงได้เข้าเฝ้ากษัตริย์คาเมฮาเมฮาที่ 1 (King Kamehameha I) แห่งราชอาณาจักรฮาวาย ซึ่งเป็นรัฐแรกที่รับรองเอกราชของอาร์เจนตินา
หนึ่งในปฏิบัติการสำคัญของบูชาร์ด คือการนำกองเรือออกปล้นชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกา แม้ในสมัยนั้นภัยจากโจรสลัดเกือบทั้งหมดมักอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก (ฝั่งตะวันออก) โดยเฉพาะทะเลแคริบเบียน ในบรรดาโจรสลัดหลากหลายกลุ่ม จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ พวกอันธพาลที่ออกปล้นทำรายได้และแสวงหาผลกำไรจากการปล้นไปเรื่อย ๆ กับกลุ่มที่เป็นกองกำลังคล้ายทหารรับจ้าง มีชาติมหาอำนาจชักใยเบื้องหลังเพื่อให้ช่วยทำลายหรือตัดกำลังชาติอื่นที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผลประโยชน์ในดินแดนต่าง ๆ ในทวีปอเมริกา
แน่นอนว่ากองเรือของบูชาร์ด (ในฐานะโจรสลัด) คือประเภทหลัง พวกเขาถือว่าตนเองเป็นผู้รักชาติที่ชอบด้วยกฎหมายของประเทศของตน แม้ชายฝั่งด้านตะวันตกจะดูห่างไกลจากความขัดแย้งจากชาติมหาอำนาจและน่าจะปลอดภัยจากโจรสลัดก็ตาม แต่สเปนเป็นมหาอำนาจชาติเดียวที่ถูกคุกคามจากพวกโจรสลัดในน่านน้ำฝั่งนี้
ปี 1817 บูชาร์ด นำเรือของเขาออกจากอาร์เจนตินาพร้อมหนังสือคำสั่งจากทางการอนุญาตให้เขาเข้าโจมตีเรือหรือฐานที่มั่นของสเปนได้ทันที เป้าหมายของภารกิจนี้อยู่ที่แคลิฟอร์เนียและชายฝั่งอเมริกากลางทิศตะวันตก ซึ่งดินแดนเหล่านี้ล้วนเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิสเปน
20 พฤศจิกายน ปี 1818 บูชาร์ด มาถึงคาบสมุทรแคลิฟอร์เนีย เขาเริ่มการโจมตีฐานบัญชาการของสเปนที่เมืองมอนเทอเรย์ (Monterey) เมื่อทหารสเปนเห็นเรือสัญชาติอาร์เจนตินาสองลำเขาแล่นเข้ามาใกล้ชายฝั่ง พวกเขาสั่งยิงปืนใหญ่ตอบโต้ จึงเกิดการปะทะกันขึ้น
4 วันหลังการปะทะระหว่างปืนใหญ่จากเรืออาร์เจนฯ กับปืนใหญ่สเปนบนป้อมปราการ โจรสลัด 200 คนยกพลขึ้นบกเพื่อบุกยึดป้อมปราการมอนเทอเรย์และทำลายแนวป้องกันบนชายฝั่งได้อย่างรวดเร็ว พวกเขายึดที่มั่นนั้นไว้ 6 วัน ชักธงอาร์เจนตินาขึ้นเหนือป้อมปราการนั้น ก่อนออกเดินทางต่อโดยขนเอาเสบียงอาหาร ปศุสัตว์ อาหาร และของมีค่าอื่น ๆ พร้อมเผาป้อมปราการและชุมชนรอบ ๆ บริเวณนั้น
5 ธันวาคม กองโจรสลัดเริ่มภารกิจยกพลขึ้นบกอีกครั้งที่ซานตา บาร์บาร่า (Santa Barbara) พวกเขาบุกเข้าปล้นและเผาฟาร์มปศุสัตว์ที่อยู่บนแผ่นดินไม่ห่างจากชายฝั่ง แต่ขณะพยายามปิดล้อมและบุกยึดป้อมปราการของซานตา บาร์บารา โจรสลัดอาร์เจนต้องเผชิญการป้องกัดอย่างสุดกำลังจากฝ่ายสเปน บูชาร์ด จึงสั่งถอนกำลัง
16 ธันวาคม กองเรือแล่นไปถึงชายฝั่งอาณานิคมสเปนที่ ซาน ยอห์น คาปิสตราโน (San Juan Capistrano) เพื่อหาเสบียงและเติมยุทธภัณฑ์โดยเฉพาะกระสุนปืน ฝ่ายป้องกันของสเปนป้องกันที่มั่นตรงนั้นอย่างหนัก บูชาร์ด นำกำลังยกพลขึ้นบกและเข้ายึดเมืองได้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง หลังจากเอากระสุน เสบียง และข้าวของมีค่าต่าง ๆ ก็เริ่มจุดไฟเผาเมืองอีกครั้ง ภารกิจของพวกเขายังดำเนินต่อไป
หลังการโจมตีซาน ยอห์น คาปิสตราโน เสร็จสิ้น บูชาร์ด นำกองเรือลงใต้ไปยังเม็กซิโก การโจมตีที่ประสบความสำเร็จของเขาสร้างความหวาดกลัวให้เหล่ามิชชันนารีชาวสเปนและคนในพื้นที่อย่างมาก ถึงขั้นอพยพที่อยู่อาศัย เคลื่อนย้ายฝูงปศุสัตว์และของมีค่า เข้าไปสร้างชุมชนใหม่ในแผ่นดินห่างจากชายฝั่งเพื่อหลีกหนีการโจมตีครั้งต่อไปที่พวกเขาไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไร
อย่างไรก็ตาม บูชาร์ด และกองเรือของเขาไม่ได้กลับมายังแคลิฟอร์เนียอีก พวกเขาเดินหน้าโจมตีอาณานิคมสเปนและโจมตีเรือสเปนในเม็กซิโก กระทั่งจบภารกิจสิ้นสุดการเดินทางในวันที่ 3 เมษายน 1819 ถึงปี 1820 บูชาร์ด เข้าร่วมกับกองทัพเรือเปรู และ 9 ปี ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นพลเรือเอกและผู้บัญชาการกองทัพเรือ ก่อนจะเกษียณในปีถัดไป
จากเหตุการณ์บุกปล้นแคลิฟอร์เนียทำให้ บูชาร์ด ได้รับสมญานามว่า “California’s only pirate” หรือโจรสลัดหนึ่งเดียวของแคลิฟอร์เนีย เขาเสียชีวิตในวันที่ 4 มกราคม ปี 1837 โดยประวัติศาสตร์อาร์เจนตินาจารึกชื่อเขาในฐานะของวีรบุรุษและผู้รักชาติ สถานที่หลายแห่งถูกตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา เขาได้รับการยกย่องอย่างสูงในอาร์เจนตินาและประเทศอื่น ๆ ในอเมริกาใต้ มีถนนและอนุสาวรีย์ที่เป็นชื่อของเขา รวมถึงรูปบนตราไปรษณีย์ของอาร์เจนตินา
แต่สำหรับชาวอาณานิคมสเปนทั่วแคลิฟอร์เนียและเม็กซิโก เขาคือโจรสลัดผู้น่าหวั่นเกรง
อ่านเพิ่มเติม :
- “ดวงอาทิตย์เดือนพฤษภาคม” สัญลักษณ์แห่งเอกราชอาร์เจนตินา เคยอยู่บนธงชาติฟิลิปปินส์
- เหตุใด “บัวโนสไอเรส” เมืองหลวงอาร์เจนตินา จึงได้สมญานามว่า “ปารีสแห่งอเมริกาใต้”
อ้างอิง :
Gary S. Breschini, Ph.D. mchsmuseum.com : Hipólito (Hypolite) Bouchard and the Raid of 1818. Form http://mchsmuseum.com/bouchard.html
californiamissionguide.com : California’s Only Pirate – Hippolyte de Bouchard. http://californiamissionguide.com/california-mission-history/californias-pirate-hippolyte-de-bouchard/
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 19 ธันวาคม 2565