รู้ไว้ก่อนดู “The Crown” ซีซั่น 5 ทศวรรษแห่งหายนะ ความร้าวฉาน วิกฤตศรัทธาราชวงศ์

ภาพโปรโมท The Crown Season 5 (ภาพจาก The Crown, Facebook)

เดอะ คราวน์ (The Crown) ซีรีส์จากเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ที่บอกเล่าเรื่องราวของราชวงศ์วินด์เซอร์แห่งอังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จและได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม ซึ่งเวลานี้ได้เดินทางมาถึงซีซั่นที่ 5 แล้ว จากซีซั่นก่อนหน้านี้ที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมไปไม่น้อยหลังการปรากฏตัวของ ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ (Diana, Princess of Wales) ผู้มีบทบาทสำคัญและจะเป็นผู้ดำเนินเรื่องหลักของซีซั่นใหม่ที่มีการปล่อยตัวอย่างทางการไปเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2022 พร้อมประกาศวันพรีเมียร์ตอนแรกวันที่ 9 พฤศจิกายน 2022 ที่จะถึงนี้

The Crown คือซีรีส์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์ เส้นเรื่องหลักคือการถ่ายทอดชีวิตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 (Queen Elizabeth II) ประมุขแห่งสหราชอาณาจักรพระองค์ก่อน โดยซีรีส์นำเสนอทั้งชีวิตส่วนพระองค์ตั้งแต่ก่อนขึ้นครองราชย์และเหตุการณ์ต่าง ๆ ตลอดยุคสมัยอันยาวนานในราชบัลลังก์ของพระองค์

แม้ซีซั่นที่ผ่านมา The Crown จะนำเสนอเนื้อหาบางตอนที่บางฝ่ายมองว่ามีความหมิ่นเหม่จนเกิดเป็นกระแสโต้กลับ ถึงขั้นมีการเรียกร้องให้ทีมงานผู้สร้างซีรีส์ออกมาให้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงว่าเนื้อหาส่วนใดจริงและส่วนใดเป็นการแต่งเติมขึ้นใหม่ อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันว่าทีมผู้สร้างเคยชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้วว่าซีรีส์ The Crown นั้นมีการแต่งเติมเสริมเนื้อเรื่องบางส่วนเพื่อให้การดำเนินเรื่องมีความเข้มข้นน่าติดตาม

ทาง Netflix และทีมงานผู้สร้างซีรีส์จึงยืนยันที่จะไม่พยายามอธิบายประเด็นเรื่องข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเนื้อหาของซีรีส์ พร้อมยืนยันจุดยืนว่า “เราเชื่อว่าผู้ชมจะสามารถแยกแยะได้เองว่า ส่วนใดคือเรื่องจริง และส่วนใดคือเรื่องแต่ง”

สำหรับ The Crown ซีซั่น 5 นี้ นักแสดงหลักของเรื่องถูกเปลี่ยนตัวจากซีซั่นก่อน ๆ เพราะตัวละครที่สวมบทบาทย่อมมีอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ และทีมผู้สร้างต้องการความสมจริงระหว่างการดำเนินเนื้อเรื่อง ซีซั่นนี้จึงเป็นอีกครั้งที่มีการเปลี่ยนถ่ายทีมนักแสดงชุดหลัก

นักแสดงในบทบาทสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งเป็นตัวละครหลักของซีรีส์รับบทโดย อิเมลดา สทอนตัน (Imelda Staunton) ผู้ตีบทแตกจนคนเกลียดทั่วบ้านทั่วเมืองมาแล้วจากภาพยนตร์เรื่อง แฮรี่ พอตเตอร์ (Harry Potter) ในบทบาท โดโลเรส อัมบริดจ์ (Dolores Umbridge) และผลงานจากภาพยนตร์เรื่อง Vera Drake ที่เคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์มาแล้วเมื่อปี 2004 เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า การได้ร่วมงานกับซีรีส์นี้ในบทบาทของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 นับเป็นเกียรติในชีวิตการแสดงของเธออย่างยิ่ง และเธอหวังว่าจะทำมันให้สมบูรณ์แบบ

ส่วนตัวละครสำคัญอื่น ๆ เช่น เอลิซาเบธ เดบิกกี (Elizabeth Debicki) ในบทบาท ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เป็นนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง TENET, โดมินิก เวสต์ (Dominic West) จากเรื่อง Downton Abbey: A New Era ในบทบาท เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ หรือปัจจุบันคือ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 (King Charles III) กษัตริย์อังกฤษพระองค์ปัจจุบัน และเลสลีย์ แมนวิล (Lesley Manville) ในบทบาท เจ้าหญิงมาร์กาเร็ต พระขนิษฐา (น้องสาว) ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แต่ละคนล้วนเป็นนักแสดงมากความสามารถที่มาสมทบสร้างความเข้มข้นให้กับซีรีส์

ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ รับบทโดย Elizabeth Debicki (ภาพจาก The Crown, Facebook)

เหตุการณ์สำคัญที่จะถูกเล่าในซีซั่นนี้

สำหรับ The Crown ซีซั่น 5 จะพาผู้ชมย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ 1990 เมื่อราชวงศ์พบมรสุมครั้งใหญ่ที่สุด นั่นคือการพิสูจน์ความสำคัญของสถาบันกษัตริย์แห่งอังกฤษ เมื่อเจ้าหญิงไดอาน่าและเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ (Prince Charles) ดยุกแห่งเวลส์ เริ่มทำสงครามสื่อ รอยร้าวในราชวงศ์จึงเริ่มปรากฏแก่สาธารณชนชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผู้คนถกเถียงกันเรื่องบทบาทและการวางตัวของราชวงศ์

ในตอนต้นตัวอย่างเป็นภาพไฟไหม้ปราสาทแห่งหนึ่ง นั่นคือเหตุการณ์เพลิงไหม้ปราสาทวินด์เซอร์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ปี 1992 ไฟไหม้เริ่มขึ้นและลุกลามอย่างรวดเร็วจากโบสถ์เล็กของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียก่อนจะลามขึ้นไปยังหลังคา ทีมดับเพลิงต้องใช้เวลานานถึง 15 ชั่วโมงเพื่อทำให้เพลิงสงบ เป็นผลให้โบสถ์เล็ก เพดานห้องโถงเซนต์จอร์จ ห้องโถงรับรองขนาดใหญ่ ห้องเลี้ยงรับรองอาหาร และห้องนั่งเล่นสีแดงเลือดหมูได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 37 ล้านปอนด์

การซ่อมแซมพระราชวังวินด์เซอร์เริ่มขึ้นทันที โดยมี เจ้าชายฟิลลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ (Prince Philip, Duke of Edinburgh) พระสวามีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เป็นประธานคณะกรรมการบูรณะ การซ่อมแซมใช้เวลากว่า 5 ปี ระหว่างนั้นมีการเปิดพระราชวังบักกิงแฮม ปราสาทที่มีอายุหลายศตวรรษของราชวงศ์ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำฤดูร้อนที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปชมได้เมื่อปี 1993 เพื่อนำรายได้มาเป็นทุนสำหรับการบูรณะครั้งใหญ่นี้

ตัวอย่างยังเผยเรื่องราวความขัดแย้งภายในราชวงศ์ของคู่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับเจ้าหญิงไดอาน่า ก่อนมีการแยกย้ายกันอยู่ในเดือนธันวาคมของปี 1992 ซึ่งทำให้เกิดคำถามจากสื่อมวลชนว่า “ข่าวฉาวของราชวงศ์ทำลายชื่อเสียงของประเทศหรือไม่” และน่าจะรวมถึงชีวิตหลังการสมรสของเหล่าพระราชโอรสและพระราชธิดาอีก 2 พระองค์ ซึ่งล้วนประสบปัญหาและมีการแยกทางเช่นกัน คือ เจ้าชายแอนดรูว์และซาราห์ เฟอร์กูสัน ดยุกและดัชเชสแห่งยอร์ก และการอย่าร้างของเจ้าหญิงแอนน์ กับมาร์ก ฟิลลิปส์ โดย 2 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไล่เลี่ยกันระหว่างเดือนมีนาคมและเมษายนของปี 1992 ทั้งสิ้น

การกล่าวสุนทรพจน์ส่งท้ายปี 1992 ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ยังมีข้อความสำคัญที่พระองค์เคยตรัสเอาไว้ว่า “ปี 1992 คือปีที่ข้าพเจ้าจะไม่หันกลับมามองด้วยความปิติยินดี และคำที่ข้าพเจ้าจะสามารถเลือกสรรมาอธิบายเรื่องราวของปีนี้ได้ก็มีเพียง ‘Annus Horribilis’ (ภาษาละติน แปลว่า ปีแห่งหายนะ – ผู้เขียน) ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าทุกคนในที่นี่ก็คงคิดไม่ต่างกัน” ซึ่งการเลือกใช้คำว่า “Annus Horribilis” ของพระองค์ถือว่าสร้างเสียงฮือฮาให้กับสื่อมวลชนทั่วโลกไม่น้อย เพราะนี่คือการเผยถึงพระหทัยที่อ่อนล้าและเหนื่อยหน่ายของประมุขแห่งอังกฤษ

แน่นอนว่าเรื่องช็อกโลกที่สุดในวิกฤตราชวงศ์ที่ถูกนำเสนอผ่านวลีในตัวอย่างซีรีส์ด้วยข้อความว่า “จุดเริ่มต้น ของจุดจบ” ย่อมถูกเน้นไปที่ความร้าวฉานเกินเยียวยาระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับเจ้าหญิงไดอาน่า จะเห็นว่าเนื้อหาหลักของตัวอย่างดังกล่าวเผยถึงความเหินห่างและความขัดแย้งของทั้งคู่ที่ทวีความเดือดดาลขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางจับจ้องของสื่อมวลชนและประชาชนชาวอังกฤษ

โปสเตอร์อย่างเป็นทางการที่ปรากฏเป็นภาพของเจ้าหญิงไดอาน่ากับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ที่อยู่ขอบเฟรมด้านซ้าย-ขวาและไม่อยู่ในโฟกัส โดยมีด้านหลังตรงกลางภาพเป็นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 (อิเมลดา สทอนตัน) ยืนหยัดอยู่ในลักษณะที่จงใจสะท้อนถึงสถานภาพของพระองค์ในฐานะศูนย์กลางของครอบครัวหรือพระราชวงศ์ท่ามกลางความห่างเหินนี้ เรื่องราวนี้ถูกทั่วโลกจับตามองยิ่งขึ้นเมื่อสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์การแยกทางของทั้งคู่ในปี 1996 ก่อนเกิดโศกนาฏกรรมการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนของเจ้าหญิงไดอาน่าในปีต่อมา

ภาพโปรโมท The Crown Season 5, เจ้าหญิงไดอาน่า (ซ้าย) ควีนเอลิซาเบธที่ 2 (กลาง) และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ (ขวา) (ภาพจาก The Crown, Facebook)

จึงน่าสนใจทีเดียวว่า ทีมผู้สร้างซีรีส์จะถ่ายทอดเนื้อเรื่องที่ละเอียดอ่อนนี้อย่างไร เพราะการนำเสนอเหตุการณ์นี้จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของราชวงศ์อังกฤษ โดยเฉพาะพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 กษัตริย์พระองค์ปัจจุบันอย่างแน่นอน

Vogue UK ได้เสนอข้อมูลไว้เมื่อต้นปี 2021 ว่าปีเตอร์ มอร์แกน (Peter Morgan) ผู้กำกับซีรีส์ได้ขอคำปรึกษาจากทีมงานเขียนบทของภาพยนต์เรื่อง The Queen ที่เคยนำเสนออุบัติเหตุสะเทือนโลกครั้งนี้เป็นฉบับภาพยนตร์เมื่อปี 2006 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้กำกับและทีมผู้สร้างต้องทำงานอย่างหนักเพื่อนำเอาทฤษฎีทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเจ้าหญิงไดอาน่ามาตีแผ่และเปิดเผยอีกครั้งผ่านซีรีส์แบบหมดเปลือกมากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากแนวทางของผู้กำกับที่วางไว้ว่า The Crown ซีซั่น 6 ซึ่งเป็นบทส่งท้ายของซีรีส์จะสิ้นสุดที่ยุค 2000 จึงมีแนวโน้มว่าซีซั่น 5 นี้อาจจะจบที่เหตุการณ์ราว ๆ กลางทศวรรษ 1990 หรือก่อนปี 1996 ทั้งนี้ต้องรอชมกันอีกครั้งว่าซีรีส์จะนำผู้ชมไปถึงเหตุการณ์ ณ ช่วงเวลาใด

เดอะ คราวน์ (The Crown) ซีซั่น 5 ตัวอย่างซีรีส์อย่างเป็นทางการ โดย Netflix Thailand

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง : 

ERICA GONZALES, BIANCA BETANCOURT AND QUINCI LEGARDYE, Bazaar : The Crown Season 5: What We Know So Far

Peeranat Chansakoolnee, VOGUE TH : ‘1992’ ปีแห่งหายนะของราชวงศ์วินด์เซอร์ ยุคสมัยอันตกต่ำที่ควีนเอลิซาเบธฯ ไม่อยากหันกลับมามอง

RADHIKA SETH AND KERRY MCDERMOTT, VOGUE : Elizabeth Debicki Is A Dazzling Princess Diana In The Crown Season 5


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2565