“ถ้ำมอง”

ภาพจิตรกรรมในวิหารลายคำ วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่

คำว่า “ถ้ำมอง” พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ระบุว่ามี 2 ความหมาย ความหมายแรกเป็นคำนามหมายถึง ตู้หรือหีบที่มีช่องเล็ก ๆ ซึ่งมีแว่นขยายสำหรับดูภาพยนตร์สั้น ๆ หรือรูปต่าง ๆ ให้คนดูได้ทีละคน” และความหมายที่สองเป็นคำกริยาแปลว่า แอบดูตามรูหรือตามช่อง เพื่อดูผู้หญิงทำกิจส่วนตัว, เรียกผู้ที่มีพฤติกรรมเช่นนั้น ว่า พวกถ้ำมอง

ที่น่าสนใจคือ ในความหมายที่สอง ราชบัณฑิตยสถาน กำหนดแต่การแอบดู “ผู้หญิงทำกิจกรรมส่วนตัว” เท่านั้นจึงจะเข้าข่ายเป็น “ถ้ำมอง” นั่นแปลว่า คนที่แอบดู “ผู้ชายทำกิจกรรมส่วนตัว” น่าจะไม่ถือว่าเป็นพวก “ถ้ำมอง” (ไม่ว่าคนมองจะเป็นเพศใด) ซึ่งนั่นอาจเป็นการ “เหมารวม” ไปหน่อยว่าผู้ที่ชอบแอบมองคนอื่นทำเรื่องส่วนตัวมักจะเป็นผู้ชาย ราชบัณฑิตยสถาน เลยกำหนดไปว่า ผู้ที่ถูกมองจะต้องเป็น “ผู้หญิง” เท่านั้น

แต่หากพิจารณาตัวเลขทางสถิติในตะวันตกพบว่าผู้หญิงเองก็ชอบ “ถ้ำมอง” เหมือนกัน แม้สัดส่วนตัวเลขจะน้อยกว่าผู้ชายก็ตาม ทั้งนี้จากการสำรวจของ Barna Group สำนักโพลของกลุ่มอีแวนเจลิเคิลคริสเตียน เมื่อปี 2014 ในสหรัฐฯ ซึ่งพบว่า กลุ่มตัวอย่างเพศชายอายุระหว่าง 18-30 ปี ที่บอกว่าตัวเองดูหนังโป๊เดือนละอย่างน้อยหนึ่งครั้งมีอยู่ราว 79% ส่วนกลุ่มตัวอย่างเพศหญิงในช่วงวัยเดียวกันมีสถิติอยู่ที่ 76% เรียกว่าต่างกันน้อยมาก แต่ถ้าพิจารณาเรื่องความหมกมุ่นแล้วผู้ชายจะสูงกว่า เพราะในกลุ่มเพศชายอายุ 18-30 ปี ที่บอกว่าตัวเองดูหนังโป๊เดือนละหลายครั้งมีอยู่ราว 63% ส่วนผู้หญิงในวัยเดียวกันที่ดูหลายครั้งต่อเดือนมีอยู่เพียง 21% เท่านั้น

สถิตินี้อาจจะเอามาเทียบเคียงกับเมืองไทยไม่ได้ เพราะมีบริบททางสังคมที่แตกต่างกัน แต่ก็น่าจะช่วยเปิดมุมมองให้เห็นว่าพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ได้มีจำเพาะแต่เพศชาย เพศอื่นๆ ก็ “ถ้ำมอง” เป็นเหมือนกัน

บางท่านอาจจะค้านว่า การ “ดูหนังโป๊” ไม่น่าจะเข้าข่ายเป็น “ถ้ำมอง” ได้ แต่หากท่านได้ลองพิจารณาดูให้ดีก็จะเห็นว่า การดูหนังโป๊นั้นแทบไม่ต่างอะไรจากการ “ถ้ำมอง” ตามความหมายดั้งเดิมแต่อย่างใด อย่างแรก ผู้มองทั้งสองแบบต่างก็ได้แต่มองผู้อื่นประกอบกามกิจ หรือทำกิจส่วนตัวเท่านั้น มิได้เข้าไปแทรกแซงการประกอบกิจของผู้อื่นเหมือนกัน

บางคนอาจจะแย้งว่าใน “หนังโป๊” ผู้แสดงรู้ตัวอยู่แต่แรกแล้วว่าตัวเองจะถูกมอง ไม่เหมือนคนที่ถูกแอบมองจริงๆ ที่จะไม่รู้ตัว แต่จริงๆ แล้วไม่ว่าคนที่ถูกมองจะรู้ตัวว่ามีคนมองตัวเองอยู่หรือไม่ ก็มิใช่สาระสำคัญแต่อย่างใด บางคนที่ไม่ได้เป็นนักแสดงหนังโป๊บางกรณีก็ถูกแอบมองโดยที่ตัวเองรู้อยู่แล้วว่ามีคนแอบมองแต่ก็มิได้โวยวายอะไรก็มี ด้วยอาจจะเป็นพวกชอบ “อวดของดี” ถึงอย่างนั้น ผู้ที่แอบมองก็ยังได้ชื่อว่าเป็นพวก “ถ้ำมอง” อยู่ดี

ที่จะต่างกันก็คือ คนที่ดูหนังโป๊นั้นดู “ผ่านสื่อ” มิได้ดู ณ สถานที่เกิดเหตุจริง และมิได้ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “แบบสดๆ” แต่นั่นก็มิควรถือเป็นสาระสำคัญ ลองนึกภาพคนที่ “ถ้ำมองระยะไกล” ที่มีเป้าหมายอยู่ในจุดที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น อย่างเช่นการดูผ่านกล้องส่องทางไกล หรือกล้องวงจรปิด ก็น่าจะถือเป็นการถ้ำมองอยู่ หรือพวกที่ใช้กล้อง “แอบถ่าย” ไปแอบบันทึกตามห้องน้ำแล้วมาดูตอนหลัง ก็นับเป็นการถ้ำมองด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ไม่ต่างจากการดูหนังโป๊ และหนังโป๊หลายเรื่องก็พยายามจำลองสถานการณ์ ให้เหมือนการแอบมองอย่างจงใจก็มี

การดูหนังโป๊จึงถือเป็นการ “ถ้ำมอง”  แบบเสมือนจริง ที่หลายประเทศไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ซึ่งจริงๆ ก็น่าจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้คนที่ชอบถ้ำมองไม่ไป “ถ้ำมอง” ชาวบ้านประกอบกิจส่วนตัวเข้าจริงๆ ได้ แต่บางประเทศอาจจะเห็นว่าการใช้ธรรมะเข้าข่มน่าจะเป็นมาตรการที่ดีกว่า