ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
ขณะที่รัฐบาลรวบรวมภาษีอากรทั้งหมดซึ่งเรียกเก็บได้จากมณฑลหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศเข้าสู่ส่วนกลาง แต่การจัดสรร งบประมาณ กลับคืนไปยังมณฑลเหล่านั้นกลับเป็นไปอย่างไม่สมดุล ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญหนึ่งในเรื่องรายจ่ายของรัฐช่วงก่อนการปฏิวัติ 2475 อันนำไปสู่ “ความเหลื่อมล้ำในการพัฒนาท้องถิ่น”
เพราะด้วยรายได้ที่เหลือจากงบประมาณรายจ่ายที่รัฐจัดสรรให้กับมณฑลต่างๆ ถูกนำมาใช้สำหรับส่วนกลาง หรือกรุงเทพฯ ขณะที่การพัฒนาหัวเมืองอื่นๆ ดำเนินไปอย่างล่าช้ากว่า ด้วยถูกจำกัดโดยงบประมาณ
ตัวอย่างเช่น สมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2440-2443 งบประมาณที่จัดสรรให้แก่หัวเมืองต่างๆ อยู่ที่ประมาณร้อยละ 10-20 ของงบประมาณทั้งหมด หรือหากคิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้ที่จัดเก็บได้จากมณฑลต่างๆ ก็อยู่ระหว่างร้อยละ 22-39 ของรายได้จากมณฑลเหล่านี้
ถึงสมัยรัชกาลที่ 6 การจัดสรรงบประมาณเปลี่ยนแปลงดีขึ้นเล็กน้อย ระหว่าง พ.ศ. 2454-2458 พบว่างบประมาณที่ได้รับจัดสรรเพิ่มขึ้นเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของรายได้รวมจากมณฑลเหล่านี้ แต่หลายมณฑลยังคงได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายน้อยกว่ารายได้ที่ถูกค่อนข้างมาก เช่น มณฑลกรุงเก่า, มณฑลนครชัยศรี และมณฑลภูเก็ต ได้รับงบประมาณมาถึงร้อยละ 30 ของรายได้ที่จัดเก็บไป
หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 รัฐบาลคณะราษฎรดำเนินการเปลี่ยนแปลงการจัดสรร งบประมาณ สู่พื้นที่ต่างๆ เช่น พ.ศ. 2480 มีการออก พระราชกฤษฎีกากำหนดปันเงินรัชชูปการให้แก่เทศบาล พุทธศักราช 2480 และมีการบังคับใช้เป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนจะยกเลิกการเก็บเงินรัชชูปการ
พ.ศ. 2482 ยกเลิกการจัดเก็บภาษีที่ดิน และเปลี่ยนเป็นการเก็บ “เงินช่วยบำรุงท้องถิ่น” แทน ซึ่งเงินที่เก็บได้นี้จะนำไปใช้ในท้องที่ตามกำหนดโดยไม่ถูกเข้าสู่ส่วนกลาง เป็นต้น
ซึ่งทำให้ท้องถิ่นมีงบประมาณเพื่อพัฒนาพื้นที่ของตัวเองมากขึ้น แต่ในภาพรวมอำนาจตัดสินใจจัดสรรงบประมาณไปยังท้องถิ่นต่างๆ ยังคงอยู่ส่วนกลางเช่นเดิม
อ่านเพิ่มเติม :
- รับสั่งรัชกาลที่ 7 ในการปรับ-เปลี่ยน-ลดกองทัพ เพื่อลดงบประมาณแผ่นดิน
- ย้อนรอย พ.ศ. 2481 ทำไมสภาฯ ผ่านกฎหมาย เปลี่ยนปีงบประมาณใหม่เริ่ม 1 ตุลาคม
- สมัยรัชกาลที่ 6 เกิดปัญหางบประมาณ เมื่อกระทรวงกลาโหมของบฯ เพิ่ม
ข้อมูลจาก :
อภิชาต สถิตนิรามัย, อิสร์กุล อุณหเกตุ. ทุน วัง คลัง (ศักดิ) นา: สมรภูมิเศรษฐกิจการเมืองไทยกับประชาธิปไตย, สำนักพิมพ์มติชน, ตุลาคม 2564
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2564