พระราชวังต้องห้ามที่ยิ่งใหญ่ แต่ทำไมจักรพรรดิราชวงศ์ชิงไม่โปรดประทับ

ภาพวาดแสดงการปล้มสะดม และขนโบราณวัตถุออกจากหยวนหมิงหยวน โดยกองทหารอังกฤษ-ฝรั่งเศส

บรรพชนของราชวงศ์ชิงเป็นชาวแมนจู ชนเผ่าที่อาศัยอยู่ตามทุ่งหญ้าและป่าเขา ชื่นชอบการขี่ม้า ล่าสัตว์ ชมธรรมชาติ ขณะที่ “พระราชวังต้องห้าม” รายล้อมด้วยกำแพงสูง พื้นปูลาดด้วยอิฐและหินที่ร้อน แข็งกระด้าง ชวนให้อึดอัด จึงไม่ใช่ที่ประทับที่ปรารถนา

ในรัชกาลจักรพรรดิคังซีจึงมีคำสั่งให้สร้าง “อุทยาน” ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง

อุทยานดังกล่าวไม่ใช่ “อี๋เหอหยวน” หรือพระราชวังฤดูร้อน ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง หากเป็น “หยวนหมิงหยวน” หรือที่ “พระราชวังฤดูร้อนเก่า” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นที่ประทับหลักของพระองค์ แต่ละปีละเสด็จกลับไปประทับที่ พระราชวังต้องห้าม เพียง 1-2 เดือนในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น และเป็นศูนย์กลางการปกครองประเทศ

อุทยานหยวนหมิงหยวน แต่เดิมในสมัยราชวงศ์หมิงเป็นเพียงสวนป่าของราชนิกุล ถึงราชวงศ์ชิงจักรพรรดิคังซีพระราชทานพื้นที่ดังกล่าวแก่องค์ชายสี่ (จักรพรรดิยงเจิ้ง) หลังจากพระองค์ขึ้นครองราชย์ มีรับสั่งให้ปรับปรุงหยวนหมิงหยวนครั้งใหญ่ โดยมีเหลยจินอี้ว์สถาปนิกหลวงผู้ควบคุมดูแลการซ่อมแซมพระราชวังต้องห้าม เป็นผู้คุมงานปรับปรุงหยวนหมิงหยวน

พระราชวังต้องห้าม
พระราชวัง.ต้องห้าม

ปลายรัชสมัยจักรพรรดิเฉียนหลง อุทยานแห่งนี้มีขนาดเทียบเท่าสนามฟุตบอล 600 สนามรวมกัน ถึงรัชกาลจักรพรรดิเจียชิ่ง มีการขยายพื้นที่ของอุทยานเพิ่มออกไป จนหยวนหมิงหยวนอุทยานที่มีขนาดใหญ่ถึง 3.5 ล้านตารางเมตร หรือกว่า 2,200 ไร่

พระราชวัง.ต้องห้าม (ภาพ : unsplash)

ไม่เพียงแต่ความยิ่งใหญ่เท่านั้น หยวยหมิงหยวนยังจำลองทิวทัศน์ดินแดนเจียงหนาน ด้วยการใช้เนินเขาคดเคี้ยวเป็นตัวกันสายตา แบ่งพื้นที่ด้วยกำแพง แล้วเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินและลำน้ำเล็กๆ ที่ลดเลี้ยวไปมา ว่ากันว่าแนวคิดดังกล่าวเป็นของจักรพรรดิคังซี

ในรัชกาลจักรพรรดิเฉียนหลง จีนเป็นหนึ่งในราชอาณาจักรที่มั่งคั่งที่สุด มีการสร้างอาคารฝรั่ง และติดตั้งระบบน้ำพุเช่นเดียวกับพระราชวังแวร์ซายส์ เป็นระบบน้ำแห่งแรกในประเทศจีน สวนน้ำพุสร้างด้วยหินแกะสลัก มีรูปหล่อนักษัตรสำริด 12 ราศี ทุก 2 ชั่วโมง รูปหล่อนักษัตรแต่ละจะพ่นน้ำตามลำดับ และในเวลาเที่ยงตรงของทุกวันรูปหล่อทั้ง 12  นักษัตร ที่ออกแบบโดยบาทหลวงชาวฝรั่งเศส นอกจากสถาปัตยกรรมที่รุ่มรวย หยวนหมิงหยวนยังเก็บสะสมศิลปวัตถุ ทรัพย์สินมีค่า ฯลฯ ไว้อีกด้วย

เมื่อเกิดสงครามฝิ่นครั้งที่ 2 ค.ศ. 1860 กองทัพพันธมิตรอังกฤษ-ฝรั่งเศส บุกหยวนหมิงหยวน เผาทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้าและไม่สามารถฉกฉวยได้ ไฟไหม้หยวนหมิงหยวนอยู่ 3 วัน 3 คืน ส่วนสิ่งของมีค่าที่เคลื่อนย้ายได้ก็ปล้นชิงขนกลับประเทศตนเอง และมีการนำออกประมูลในตลาดนักสะสมของเก่าภายหลัง

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

นิธิพันธ์ วิประวิทย์. ระหว่างบรรทัด สถาปัตย์แดนมังกร, สำนักพิมพ์มติชน , กันยายน 2562


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 4 สิงหาคม 2564