คลายร้อนแบบคนจีนโบราณ ตัดน้ำแข็งธรรมชาติมาใช้ในบ้าน แทน “แอร์”

คนงาน ขน น้ำแข็ง ไปเก็บ และ กล่องน้ำแข็ง ของ จีน ยุค โบราณ
คนงานขนน้ำแข็งที่ตัดแล้วไปเก็บ และ “กล่องน้ำแข็ง” สมัยจักรพรรดิเฉียนหลง ทำด้วยไม้ ด้านในบุตะกั่ว มีฝาปิดเปิดและช่องระบายอากาศ มีหน้าที่เหมือน “เครื่องปรับอากาศ” (ภาพจาก ร้อยเรื่องวังต้องห้าม)

ฤดูร้อนของคนในอดีต ที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่มีพัดลม ฯลฯ ที่ต้องใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงาน มีแต่ “น้ำแข็ง” จาก “ธรรมชาติ” กับสติปัญญาของมนุษย์ ที่หยิบยืมน้ำที่แข็งตัวตามธรรมชาติ มาแก้ไขธรรมชาติรอบตัวที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล

แล้วน้ำที่แข็งตัวตามธรรมชาตินำมาใช้อย่างไร

Advertisement

ตัวอย่างประเทศหนึ่งที่นำน้ำแข็งตามธรรมชาติมาใช้ดับความร้อน ได้แก่ ประเทศจีน ในสมัยราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง ทั้งราชสำนักและชาวบ้านต่างใช้น้ำแข็งเป็นเรื่องปกติ สมัยราชวงศ์ชิงสถานที่เก็บน้ำแข็งแบ่งเป็น ที่เก็บน้ำแข็งหลวง, ที่เก็บน้ำแข็งท้องถิ่น และที่เก็บน้ำแข็งของชาวบ้าน

ขอลงรายละเอียด “ที่เก็บน้ำแข็งหลวง” เป็นตัวอย่างให้เห็นความยิ่งใหญ่สถานที่ และปริมาณการใช้น้ำแข็ง ซึ่งมันคงสะท้อนถึงสภาพอากาศว่าคงร้อนเอาการอยู่ หรือคนเมืองหนาวสมัยนั้นไวต่อความร้อนก็เป็นได้

เฉพาะในกรุงปักกิ่งมี “ที่เก็บน้ำแข็งหลวง” ประมาณ 18 แห่ง ดังนี้ ในพระราชวังต้องห้าม 5 แห่ง เก็บน้ำแข็งได้ 25,000 ก้อน, นอกประตูตะวันตกของภูเขาจิ่งมีที่เก็บ 6 แห่ง เก็บได้ 54,000 ก้อน, นอกประตูเต๋อเซิ่งมีที่เก็บ 3 แห่ง เก็บได้ 36,700 ก้อน น้ำแข็งจากทั้ง 3 ที่นี้ใช้ในพิธีเซ่นไหว้และราชสำนักเท่านั้น

ด้านนอกประตูเต๋อเซิ่งมีที่เก็บน้ำแข็งก่อด้วยดิน 2 แห่ง เก็บได้ 40,000 ก้อน และนอกประตูเจิ้งหน่งมีที่เก็บน้ำแข็งก่อด้วยดินอีก 2 แห่ง เก็บได้ 60,000 ก้อน (จาก ต้าชิงหุ้ยเตี่ยน ว่าด้วยเรื่องการเก็บน้ำแข็งของตูสุ่ยชิงลี่ซือสังกัดกระทรวงโยธา)

น้ำแข็งนับหมื่นๆ ก้อนที่ว่านั้น แต่ละก้อนมีรูปทรงทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส ทุกด้านยาวเท่ากันคือ 1 ฟุต 5 นิ้ว แต่ละก้อนจะมีน้ำหนักราว 80 กิโลกรัม ลองคำนวณดูก็จะเห็นว่าขนาดของที่เก็บน้ำแข็งใหญ่ขนาดไหน

สำหรับการก่อสร้างที่เก็บน้ำแข็ง ถ้าเป็นที่เก็บน้ำแข็งของชาวบ้านก็ก่อด้วยดิน แต่ในพระราชวังต้องห้าม ที่เก็บน้ำแข็งเป็นห้องที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน 105 เมตร กว้าง 6.36 เมตร ยาว 11.03 เมตร พื้นปูด้วยแผ่นดินขนาดใหญ่ ที่มุมมีท่อระบายน้ำแข็งที่ละลาย ผนังก่อด้วยหินสูง 1.5 เมตร และก่ออิฐต่อขึ้นไป 2.57 เมตร ผนังห้องเก็บน้ำแข็งหนา 2 เมตร

น้ำแข็งที่จะนำมาเก็บสำรองไว้ใช้นั้น ไม่ใช่ว่าจะไปตัดจากแหล่งน้ำที่แข็งตัวฤดูหนาวได้เลย

การตัดน้ำแข็งจะเริ่มขึ้นหลังวันหลี่ตง [ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน] ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูหนาว ต้องมีการทำความสะอาดแหล่งน้ำนั้นก่อน เช่น ตักไม้น้ำและขยะออก เปิดประตูต้นน้ำเพื่อให้น้ำผลักสิ่งปฏิกูล แล้วจึงปิดประตูปลายน้ำเพื่อเก็บน้ำ ก่อนตัดน้ำ ก็มีการบูชาเทพเจ้าแห้งน้ำ คนงานที่ตัดน้ำแข็งจะต้องใส่เสื้อ, กางเกง, รองเท้า, ถุงมือแบบที่ใช้เฉพาะงาน ตัดน้ำแข็งเสร็จแล้วก็ต้องขนมาเก็บที่ที่เก็บน้ำแข็ง โดยเรียงจากพื้นขึ้นไปถึงเพดานเป็นแถวตามความจุของสถานที่

น้ำแข็ง ที่ตัดมาก็จะเก็บไว้ใช้ในฤดูร้อยปีถัดไป โดยมีการกำหนดกฎชัดเจนว่า ให้ใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เดือน 5 ถึงวันที่ 30 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีนเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


ข้อมูลจาก :

จ้าวกว่าเชา เขียน, อชิรัชญ์ ไชยพจน์พานิช และ ชาญ ธนประกอบ แปล. ร้อยเรื่องราววังต้องห้าม, สำนักพิมพ์มติชน, พิมพ์ครั้งที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 2 กรกฎาคม 2564