กลั่นเรื่องจริงจาก Stranger Things ฐานทัพยุคสงครามเย็น-ทฤษฎีสมคบคิดอ้างมีทดลองลับ

(ซ้าย) ฐานเรดาร์ ที่ไม่ได้ใช้งานในแคมป์ ฮีโร่ ถ่ายเมื่อ 2006 จาก Nojo13 / English Wikipedia (ขวา) โปสเตอร์ซีรีส์ Stranger-Things SS3 จาก Facebook / Netflix

ช่วงที่บรรยากาศสงครามเย็นปกคลุมอเมริกันชนมีข่าวลือและเรื่องราวซึ่งพัฒนาต่อมาเป็น “ทฤษฎีสมคบคิด” หลายกรณี แต่ละเรื่องเรียกได้ว่าเป็นวัตถุดิบชั้นดีสำหรับนิยายไซ-ไฟ (Science fiction) ถึงจะไม่ได้นำมาใช้แบบทั้งดุ้น แต่อย่างน้อยก็พอจะเป็นไอเดียให้มาประยุกต์ใช้ต่อยอดได้ดังเช่นกรณีฐานทัพอากาศ ใน “มอนทาค” (Montauk) รัฐนิวยอร์ก ซึ่งปกคลุมไปด้วยข่าวลือเรื่องการทดลองทางวิทยาศาสตร์และกลายเป็นมารายละเอียดในซีรีส์ไซ-ไฟที่ได้รับความนิยมทั่วโลกอย่าง Stranger Things

ในช่วงยุค 80s บรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ข่าวลือและทฤษฎีสมคบคิดที่ยังคงถูกพูดถึงมาอย่างยาวนานอย่างกรณี “มอนทาค โปรเจกต์” (Montauk Project) ก็มาพร้อมกับยุคนั้นด้วย

ทฤษฎีสมคบคิดกรณีมอนทาคที่ว่านี้ว่าด้วยข่าวลือเรื่องกองทัพสหรัฐฯทดลองทางวิทยาศาสตร์กับกลุ่มเยาวชนในแล็บมายาวนานตั้งแต่ก่อนยุค 60s เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางทหารหรือภารกิจอื่นในช่วงสงครามเย็น กลุ่มผู้เชื่อในทฤษฎีสมคบคิดคาดว่าจุดที่ทดลองอยู่ในฐานทัพอากาศมอนทาค ในส่วนที่เรียกว่า “แคมป์ฮีโร่” (Camp Hero) ชื่อสถานที่ต้นทางฐานทัพมอนทาคก็เคยเป็นชื่อที่ทีมสร้างตั้งใจเรียกซีรีส์ว่า “มอนทาค” (Montauk) แต่ภายหลังตกลงใช้เป็น Stranger Things แทน

สำหรับความเป็นมาของฐานทัพอากาศมอนทาคเคยถูกใช้งานในยุค 40s โดยถูกใช้เป็นศูนย์ป้องกันชายฝั่งแต่จัดฉากให้เป็นหมู่บ้านสำหรับการตกปลา หลังจากกองทัพเลิกใช้งานแล้วก็พยายามขายอาคารทั้งหมดในพื้นที่ให้กับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่นักเคลื่อนไหวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นคัดค้านโดยให้เหตุผลว่าพื้นที่เป็นแหล่งนิเวศที่มีเอกลักษณ์และถิ่นที่อยู่สำหรับสัตว์ ในส่วนพื้นที่ซึ่งเคยใช้ในทางการทหารถูกยกเลิกใช้งานและถ่ายโอนให้กรมอุทยานแห่งชาติ (National Park Service)

สำหรับคอซีรีส์ที่ติดตามความเคลื่อนไหวกันมาก่อนหน้านี้อาจเคยได้ยินรายงานว่า ผู้สร้าง Stranger Things ถูกยื่นฟ้องร้องด้วยข้อกล่าวหาว่าเอาไอเดียของพล็อตมาจากผู้กำกับภาพยนตร์สั้นเรื่อง “มอนทาค” (Montauk) ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติในสถานที่ของรัฐบาล โดยผู้กำกับหนังสั้นอ้างว่า เอาไอเดียนี้ไปเสนอกับคู่พี่น้องตระกูลดัฟเฟอร์ผู้สร้าง Stranger Things ระหว่างที่พวกเขาพบกันเมื่อปี 2014 กรณีนี้เพิ่งมีรายงานเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ผู้กำกับภาพยนตร์สั้นที่ยื่นเรื่องถอนฟ้องไปก่อนกำหนดการพิจารณาคดี

หนังสือ “The Montauk Project: Experiments in Time”

อย่างไรก็ตาม ทั้งซีรีส์และภาพยนตร์ไม่ได้เป็นต้นตอผู้สร้างสื่อบันเทิงเกี่ยวกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติและข่าวลือเกี่ยวกับมอนทาค ก่อนหน้านี้ มีหนังสือไซไฟชื่อ “The Montauk Project: Experiments in Time” ตีพิมพ์เมื่อปี 1992 เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการทดลองลับของรัฐบาลในแคมป์ฮีโร่ผสมกับข่าวลือเรื่องการทดลองในยุโรป

ผลงานนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ข่าวลือและทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับสถานที่ทดลองทางวิทยาศาสตร์แบบลับๆ ของรัฐบาลในย่านมอนทาคก็วนเวียนอยู่ในสังคมอเมริกันมายาวนาน (หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในชุดหนังสือเกี่ยวกับการทดลองลับว่าด้วยการเดินทางย้อนเวลาและถูกจัดในกลุ่มเรื่องแต่ง แต่ผู้เขียนไม่เคยบอกว่าเป็นเรื่องแต่งและยังพยายามเคลื่อนไหวสร้างการรับรู้ว่าเนื้อหาในหนังสือเป็นเรื่องจริง)

ถึงแม้คนส่วนใหญ่จะมองว่าข่าวลือเรื่องการทดลองในมอนทาคจะเป็นทฤษฎีสมคบคิดอีกหนึ่งเรื่อง แต่รายละเอียดในซีรีส์ที่มีส่วนอ้างอิงกับข้อเท็จจริงคือ โปรแกรมทดลองทางวิทยาศาสตร์โดยซีไอเอ ชื่อว่า MKUltra เป็นการทดลองเพื่อพัฒนายาที่ใช้สำหรับมนุษย์เพื่อช่วยในการสอบสวนให้บุคคลที่ถูกสอบสวนสารภาพออกมา ซึ่งโปรเจกต์นี้เป็นการทดลองที่ผิดกฎหมายในต้นยุค 50s และเริ่มถูกจำกัดวงลงมาในค.ศ. 1964 กระทั่งถูกระงับในค.ศ. 1973

โปรเจกต์ นี้ถูกอ้างอิงเป็นฉากหลังที่ดร. เบรนเนอร์ (Dr. Brenner) นักวิทยาศาสตร์ที่เลี้ยงแอล (Eleven) ทำงานด้วยก่อนจะย้ายมาทำงานในฮอว์กินส์ แล็บ ตามเรื่องหลักในซีรีส์ Stranger Things ขณะที่แม่ของแอล เมื่อดูจากลักษณะทั่วไปก็มีคนตีความว่าถูกเขียนให้เป็นหนึ่งในผู้ถูกทดลองในโครงการ MKUltra

โครงการฟิลาเดเฟีย (Philadelphia Experiment)

หนังสือ The Montauk Project ยังเล่าว่า โครงการนี้เป็นการทดลองต่อยอดมาจากโครงการฟิลาเดเฟีย (Philadelphia Experiment) หรือในอีกชื่อส่วนขยายว่า Project Rainbow

โครงการฟิลาเดเฟียที่ว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวลือเกี่ยวกับการทดลองของซีไอเอ กลุ่มที่เชื่อในทฤษฎีนี้มองว่าเป็นโปรเจกต์พัฒนาระบบหลบเลี่ยงการตรวจจับของเรดาร์ในพาหนะสำหรับใช้หลบเลี่ยงการตรวจจับของเรดาร์ฝ่ายโซเวียตต้นยุค 40s แต่กองทัพเรือสหรัฐฯ ไม่เคยออกมายืนยันอย่างเป็นทางการว่าเคยมีการทดลอง ส่วนที่ผู้ที่เชื่อในทฤษฎีนี้กลับมองว่า กองทัพไม่เพียงทดลองให้เรือหลบเลี่ยงเรดาร์ได้ แต่ยังทำให้พาหนะเดินทางข้ามเวลาได้ด้วย

อัล บีเล็ก (Al Bielek) และ เพรสตัน นิโคลส์ (Preston Nichols)

ข่าวลือเรื่องโครงการฟิลาเดเฟีย (Philadelphia Experiment) เคยถูกดัดแปลงมาสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อปี 1984 มีผู้ชมภาพยนตร์รายหนึ่งชื่ออัล บีเล็ก (Al Bielek) เชื่อว่า เขาเริ่มฟื้นความทรงจำในอดีตที่เขาเคยทำงานในโครงการมอนทาค ในยุค 70s และ 80s โดยอ้างว่าที่ผ่านมาเขาถูกลบความทรงจำเพื่อรักษาความลับของโครงการ

อัล บีเล็ก ไม่เพียงเคลื่อนไหวในกลุ่มผู้เชื่อในทฤษฎีสมคบคิดเรื่องโครงการลับของรัฐบาล แต่ยังเริ่มเชื่อมโยงเรื่องของตัวเองเข้ากับผู้เขียนหนังสือ “The Montauk Project: Experiments in Time” ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้นามว่าเพรสตัน นิโคลส์ (Preston Nichols) อ้างด้วยว่า เขารำลึกได้ว่าเหมือนเคยทำงานกับบีเล็ก ในโครงการมอนทาค ร่วมกันสร้างอุปกรณ์เป็นเก้าอี้ที่ใช้พลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพิ่มพลังจิต เชื่อมโยงเข้ากับแนวคิดเรื่องเด็กที่มีความสามารถพิเศษทางจิตชื่อ “ดันแคน แคเมรอน” (Duncan Cameron) ในปี 1963 ซึ่งเป็นผู้ถูกทดลองในโครงการนี้

นิโคลส์ อ้างว่า ดันแคน สามารถบังคับวัตถุด้วยจิตได้เมื่อนั่งเก้าอี้ตัวนี้ ซึ่งข้อกล่าวอ้างเรื่องการทดลองในตัวดันแคน ชวนให้นึกถึงการทดลองกับ “แอล” ในซีรีส์ Stranger Things ก่อนที่เธอจะเปิดประตูมิติ

ในขณะที่บีเล็ก และนิโคลส์ กล่าวอ้างว่าเริ่มฟื้นความทรงจำมาได้ก็มีคนในท้องถิ่นเริ่มออกมาอ้างว่า พวกเขาถูกลักพาตัวจากบ้านโดยนักวิทยาศาสตร์จากแคมป์ฮีโร่เพื่อทดลองควบคุมความนึกคิดของคน

อัล บีเล็ก เสียชีวิตเมื่อปี 2011 หลังจากนั้นก็ถือกำเนิดซีรีส์ไซไฟที่โด่งดังประกอบกับการค้นหาข้อมูลในหมู่ผู้ที่เชื่อในทฤษฎีสมคบคิดหลายกลุ่ม

ขณะที่แคมป์ฮีโร่ ปัจจุบันยังอยู่ทางตะวันออกของ Long Island เปิดให้เป็นพื้นที่พักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆ พื้นที่ส่วนหนึ่งอันมีสภาพเป็นเหมือนฐานทัพรายล้อมด้วยป้ายที่มีข้อความว่า “ห้ามเข้ามาในพื้นที่” หากมองจากภายนอกยังพบเห็นสายอากาศได้อยู่

อ่านเพิ่มเติม :


อ้างอิง:

https://www.cosmopolitan.com/entertainment/tv/a28279420/stranger-things-true-story/

https://www.thrillist.com/entertainment/nation/stranger-things-true-story-montauk-project-philadelphia-experiment

https://parks.ny.gov/parks/97/details.aspx

https://en.wikipedia.org/wiki/The_Montauk_Project:_Experiments_in_Time

https://en.wikipedia.org/wiki/Montauk_Air_Force_Station


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 12 กรกฎาคม 2562