“รสรัก” ฉบับเจ้าชายชาร์ลส์ เส้นทางชอกช้ำกรณีราชวงศ์อังกฤษพบรักสามัญชนมีประวัติ?

เจ้าชายชาร์ลส์ และคามิลล่า ปาร์กเกอร์ ในงานปาร์ตี้หลังการประกาศหมั้นหมาย ภาพเมื่อปี 2005 เป็นบทสรุปความสัมพันธ์จากจุดพัฒนาสัมพันธ์เมื่อ 25 ปีก่อน

เรื่องรักต่างชนชั้นที่ว่า “เจ้าชายพบรักสาวสามัญชน” ยังคงเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากประชาชนตลอดมา ไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบัน และหนึ่งในตำนานรักต่างชนชั้นที่ถูกกล่าวถึงและถูกวิพากษ์วิจารณ์ในราชวงศ์อังกฤษ นั่นคือตำนานรักระหว่างเจ้าชายชาร์ลส์ กับหญิงสามัญชน นามว่า “คามิลล่า ปาร์กเกอร์ โบวล์ส”

คามิลล่า ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ก้าวเข้าสู่พระราชวงศ์ในฐานะพระวรชายาพระองค์ที่ 2 ในเจ้าชายชาร์ลส์ แห่งเวลส์

ช่วงคริสต์ศักราช 2005 เมื่อก้าวเข้าสู่ราชสำนักแล้วนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า ประชาชนบางส่วนไม่ค่อยชื่นชอบในตัวคามิลล่า เนื่องด้วยถูกมองว่าเป็นต้นเหตุหนึ่งให้ชีวิตครอบครัวระหว่างเจ้าชายชาร์ลส์ และไดอาน่า สะใภ้คนแรกของควีนเอลิซาเบธที่ 2 พังทลายลง

ก่อนหน้าที่คามิลล่า จะมาอภิเษกสมรสกับเจ้าชายชาร์ลส์ เธอเคยแต่งงานกับนายทหารนามว่า แอนดรูว์ ปาร์กเกอร์ โบวล์ส ในปี 1973 ซึ่งการแต่งงานของคามิลล่าในครั้งนั้นสร้างความเสียพระทัยแก่เจ้าชายชาร์ลส์เป็นอย่างมาก พระองค์เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องนานหลายชั่วโมงแล้วกลับออกมาพร้อมพระเนตรแดงกล่ำ

แม้ว่าคามิลล่าจะแต่งงานกับแอนดรูว์ไปแล้ว แต่เจ้าชายชาร์ลส์กับคามิลล่าก็ยังคงเป็นเพื่อนกันมาตลอด จนกระทั่งในปี 1980 เจ้าชายได้กลับมารักกับเธออีกครั้ง เมื่อเธอจบชีวิตคู่กับแอนดรูว์ ปาร์กเกอร์ โบวล์ส

ต่อมาในปี 1981 เจ้าชายชาร์ลส์ได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับไดอาน่า สเปนเซอร์ หญิงผู้เกิดในตระกูลสเปนเซอร์ ตระกูลชนชั้นสูงมีฐานะ และใกล้ชิดกับราชวงศ์ ทั้งนี้การอภิเษกสมรสที่ถูกจัดขึ้นนั้น มิได้เกิดจากความรักที่เจ้าชายชาร์ลส์มีต่อไดอาน่าแต่อย่างใด ทว่าเกิดจากความเหมาะสม เนื่องจากเจ้าชายไม่สามารถเลือกคนที่รักได้ตามใจอย่างชายทั่วไป เพราะเจ้าสาวของรัชทายาทคือว่าที่ราชินี ทำให้พระองค์มีความกดดันหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือต้องเลือกหญิงสาวบริสุทธิ์ แต่คามิลล่าหญิงคนรักของเจ้าชายนั้น เป็นที่รู้กันดีว่าเธอใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง เธอถูกมองว่าไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แล้ว เจ้าชายจึงต้องมองหาสาวอื่นที่เหมาะสมกว่าเธอ

หนังสือ “นางในกษัตริย์” โดย Eleanor Berman เล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายกับคามิลล่าในคืนก่อนอภิเษกสมรสว่า “ไดอาน่าคงต้องยกเลิกงานแต่งงานจริงๆ ถ้าเธอรู้ว่าในคืนก่อนแต่งงานขณะที่เธอยังเฝ้ารักษาพรหมจรรย์เอาไว้ เจ้าชายของเธอเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงกับคามิลล่า พระองค์ตั้งใจจะซื่อสัตย์กับพระชายา ทว่าต้องการจะใช้ค่ำคืนสุดท้ายกับนางในเยี่ยงชายโสด”

กระทั่งในปี 1984 หลังจากที่เจ้าชายกับไดอาน่าใช้ชีวิตคู่อย่างซื่อสัตย์มาได้ 3 ปี เจ้าชายซึ่งถูกกระหน่ำด้วยอารมณ์ร้ายรุนแรงของไดอาน่าก็หวนกลับไปสู่อ้อมแขนของคามิลล่าอีกครั้ง

เมื่อปี 1993 ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายชาร์ลส์กับหญิงคนรัก “คามิลล่า” ได้สร้างบรรยากาศ “ความอับอาย” ภายในราชวงศ์อังกฤษหรือแม้แต่ตัวของพระองค์เอง สื่อเล่ากันถึงขั้นว่าความอับอายที่เกิดขึ้นร้ายแรงขนาดที่ว่า อาจถึงขั้นเจ้าชายคิดจะสละตำแหน่งรัชทายาท

Eleanor Berman เล่าถึงความอับอายของเจ้าชายชาร์ลส์ อันเกิดจากความสัมพันธ์ที่มีต่อคามิลล่าหญิงคนรักของพระองค์ว่า ในวันที่ 13 มกราคม 1993 หนังสือพิมพ์อังกฤษรายงานข่าวการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างเจ้าชายชาร์ลส์กับคามิลล่า เป็นบทสนทนาทางเพศอย่างเปิดเผย โดยเจ้าชายชาร์ลส์แสดงความรู้สึกว่าอยากเกิดใหม่กลายมาเป็นแทมแพ็กซ์ (ยี่ห้อของผ้าอนามัยแบบสอดยี่ห้อหนึ่ง) เทปสนทนาระหว่างเจ้าชายกับคามิลล่าถูกนำมาเปิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าทางโทรทัศน์และวิทยุทั่วโลก สาธารณชนโกรธและไม่พอใจอย่างมากต่อความนิยมของราชวงศ์อันตกต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา

จากข่าวการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างเจ้าชายชาร์ลส์กับคามิลล่าในขณะนั้น ทำให้สื่อต่างประเทศขนานนามพระองค์ว่าเป็น “เจ้าชายแทมแพ็กซ์” และผู้หญิงอังกฤษก็เริ่มเรียกผ้าอนามัยแบบสอดว่า “ชาร์ลีส์” ด้วยความอับอายขายหน้า เจ้าชายถึงขั้นคิดจะสละตำแหน่งรัชทายาทแล้วหนีออกนอกประเทศเพื่อหนีให้พ้นความอับอายนี้

มิหนำซ้ำเจ้าชายยังโดน พันตรีแชนด์ บิดาของคามิลล่า ต่อว่าพระองค์อย่างเผ็ดร้อนนานถึง 90 นาที “ชีวิตลูกสาวของผมถูกทำลาย ลูกๆ ของเธอถูกล้อเลียนและเป็นที่รังเกียจ” พันตรีคำราม “ท่านนำความเสื่อมเสียมาสู่ครอบครัวผมทั้งหมด”

หลังการเผชิญหน้ากับพันตรีแชนด์อันเจ็บปวดแล้ว เจ้าชาร์ลส์ดูเหมือนจะเลิกรากับคามิลล่าเพื่อเอาใจประชาชนและกอบกู้เกียรติ

แต่พระองค์ก็พบว่าตัวของพระองค์เองมิอาจมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากคามิลล่า หญิงคนรักที่อยู่ในใจของเจ้าชายชาร์ลส์แบบไม่มีใครมาแทนได้ คามิลล่าหวนคืนสู่เจ้าชายอีกครั้งดังเหตุการณ์ที่กล่าวข้างต้น ภายหลังเหตุการณ์ไดอาน่าสิ้นพระชนม์อย่างน่าเศร้าด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปี 1997

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

Eleanor Berman. นางในกษัตริย์ – Sex with King. โตมร ศุขปรีชา แปล. กรุงเทพฯ : มติชน, 2553.

รุ่งนภา พิมมะศรี“ไม่สวยหรูเหมือนในนิยาย เส้นทางรัก-ชีวิตคู่ 3 เจ้าชาย 4 สะใภ้ราชวงศ์”. ประชาชาติธุรกิจ. ออนไลน์. 23 พฤษภาคม 2561. < https://www.prachachat.net/facebook-instant-article/news-163105 >


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 23 พฤษภาคม 2561