“พระยาอนุศาสน์จิตรกร” องคมนตรีและศิลปินคู่พระทัยรัชกาลที่ 6

พระยาอนุศาสน์จิตรกร จันทร์ จิตรกร มหาดเล็ก และ องคมนตรี รัชกาลที่ 6
พระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร์ จิตรกร)

คนที่นิยมชมชอบหนังสือเก่า น่าจะเห็นพ้องต้องกันว่า หนังสือ “ปกสวย” คือหนังสือพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 มีเอกลักษณ์เป็นลายไทย ลายเถา พิมพ์ทองบนหน้าปก มีความประณีตงดงาม ยากที่หนังสือรุ่นอื่นๆ จะเทียบได้ ซึ่งส่วนหนึ่งของหนังสือ “ปกสวย” นั้น เป็นฝีมือ พระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร์ จิตรกร) ศิลปินคู่พระทัย รัชกาลที่ 6

พระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร์ จิตรกร) เป็นผู้รับสนองพระราชกระแสรับสั่งเขียนภาพต่างๆ ถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นจํานวนมาก รวมทั้งภาพประกอบในหนังสือพระราชนิพนธ์เรื่องต่างๆ เช่น ลิลิตนารายณ์สิบปาง เป็นต้น มีภาพประกอบเทวดา นางฟ้า ยักษ์ ลิง อย่างงดงาม ตามที่ปรากฏในพระราชนิพนธ์คํานํา ในหนังสือลิลิตนารายณ์สิบปาง ฉบับพิมพ์ปี 2466 ว่า “ส่วนภาพที่เขียนขึ้นใหม่สําหรับหนังสือเรื่องนี้เป็นฝีมือจางวางตรีพระยาอนุศาสน์จิตรกร (จัน จิตรกร), และข้าพเจ้าขอขอบใจข้าราชการผู้นี้ที่ได้ช่วยประดับหนังสือนี้ด้วยฝีมือ.”

ท่านผู้นี้จึงถือได้ว่าเป็น “ศิลปินคู่มือ” คนสําคัญคนหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 6 สมควรที่จะบันทึกประวัติและผลงานให้คนไทยได้รู้จักพระยาอนุศาสน์จิตรกร ซึ่งเป็นทั้งคนเขียนภาพประกอบจิตรกร และช่างภาพ คนสําคัญของไทยไว้พอสังเขป

พระยาอนุศาสน์จิตรกร จากมหาดเล็กสู่องคมนตรี

น่าเสียดายที่ขณะนี้ยังไม่พบหนังสืองานศพของท่าน พบแต่หนังสืองานศพของบุตรสาวท่านคือ คุณหญิงบํารุงราชบริพาร (อําพัน สุนทรเวช) ซึ่งได้รวบรวมประวัติชีวิตและผลงานของ “พ่อ” ไว้ส่วนหนึ่ง

หนังสือพระราชทานเพลิงศพคุณหญิงบํารุงราชบริพาร (อําพัน สุนทรเวช) มีขนาด 8 หน้ายก ปกสีฟ้า หนา 128 หน้า พิมพ์ขึ้นในปี 2524 แบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ คือส่วนประวัติและอนุสรณ์คุณหญิงบํารุงราชบริพาร ส่วนที่สองเป็น “ฝีมือพ่อ” คือประวัติและผลงานของพระยาอนุศาสน์จิตรกร ส่วนสุดท้ายเป็น “ฝีปากลูก” เป็นคําอภิปรายในวาระต่างๆ ของนายสมัคร สุนทรเวช

คุณหญิงบํารุงราชบริพาร นามเดิมคือ อําพัน จิตรกร สมรสกับพระยาบํารุงราชบริพาร (เสมียน สุนทรเวช) มี บุตรธิดา 9 คน หนึ่งในนี้เป็นที่รู้จักกันดีคือ นายสมัคร สุนทรเวช

ประวัติโดยย่อของพระยาอนุศาสน์จิตรกรตามที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้ คือ เกิดเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ปี 2414 ที่ตําบลวัดราชบูรณะ อําเภอพระนคร เข้าศึกษาวิชาการชั้นต้นที่วัดสังเวชวิศยาราม สํานักพระอาจารย์เพชร และพระอาจารย์สังข์ และวิชาการอื่นๆ จากครูพุด ยุวะพุกกะ

ต่อมาในปี 2436 ได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็ก พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ ด้วยทรงเห็นว่า “มีฝีมือทางช่าง” จึงทรงนําเข้าเฝ้าถวายตัวต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รับราชการตําแหน่งช่างเขียนในพระบรมมหาราชวัง

จากนั้นในปี 2448 ได้รับราชการในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (พระบาทสมเด็จ  พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) เป็นที่หลวงบุรีนวราษฎร์

ปี 2454 ได้รับพระราชทานยศชั้นหัวหมื่นมหาดเล็ก เป็นจางวางกรมช่างมหาดเล็ก มีบรรดาศักดิ์เป็นพระยาอนุศาสน์จิตรกร ต่อมาในปี 2459 ได้ตําแหน่งเป็นเจ้ากรมช่างมหาดเล็ก และในปี 2462 เป็นองคมนตรีในรัชกาลที่ 6 และในสมัยรัชกาลที่ 7 ปี 2469 ได้ดํารงตําแหน่งเป็นองคมนตรี

หน้าปก หนังสือ "ปกสวย" มัทนะพาธา โดย พระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร์ จิตรกร)
หนังสือ “ปกสวย” มัทนะพาธา ฝีมือพระยาอนุศาสน์จิตรกร

ศิลปินคู่พระทัย รัชกาลที่ 6

ผลงานทางช่างของพระยาอนุศาสน์จิตรกร นอกจากหนังสือ “ปกสวย” แล้ว ยังมีงานด้านจิตรกรรมตามวัดวาอารามต่างๆ อีกมาก เช่น ภาพชาดกในพระวิหารหลวงจังหวัดนครปฐม ภาพตัดขวางแสดงพระปฐมเจดีย์องค์เดิม ที่วัดพระปฐมเจดีย์ ภาพเรื่องรามเกียรติ์ ในพระที่นั่งบรมพิมาน และระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ภาพเขียนสีน้ำมันบนกุฏิสมเด็จฯ วัดเทพศิรินทราวาส เป็นต้น

ด้วยความสามารถทางการเขียนภาพนี่เอง ทําให้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามสกุล “จิตรกร”

นอกจากความสามารถทางด้านจิตรกรรมแล้ว พระยาอนุศาสน์จิตรกรยังเป็นผู้สร้างฉาก และออกแบบเครื่องแต่งกายให้กับบทละครเรื่องต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแสดง รวมถึงความสามารถในการถ่ายภาพ จนได้รับตําแหน่งผู้อํานวยการ ร้านถ่ายรูปฉายานรสิงห์ ซึ่งเป็นร้านถ่ายภาพหลวง พระยาอนุศาสน์จิตรกรจึงเป็นช่างภาพประจําพระองค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ฉายพระบรมฉายาลักษณ์ และการเสด็จประพาสในที่ต่างๆ

แต่ผลงานชิ้นเอกที่ทําให้คนไทยรู้จักมากที่สุดเห็นจะเป็นภาพพงศาวดารการกู้เอกราชของสมเด็จพระนเรศวร ในวิหารวัดสุวรรณดาราราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องจาก ท่านลงนาม “พระยาอนุศาสนจิตรกร” ไว้ใต้ภาพทุกภาพ ต่างจากงานเขียนภาพประกอบในหนังสือที่จะมีตรา “จ” อยู่ในวงกลมเล็กๆ ลักษณะคล้ายลายประจํายามที่มุมภาพ

วัดสุวรรณดารารามที่พระยาอนุศาสน์จิตรกรได้เขียนภาพไว้นั้น เป็นวัดสําคัญประจําราชวงศ์จักรี เนื่องด้วยเป็นวัดที่สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก (ทองดี) พระราชบิดาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้สร้างไว้ตั้งแต่กรุงศรีอยุธยายังไม่แตก เดิมวัดนี้ชื่อ วัดทอง และมีการปฏิสังขรณ์ในฐานะวัดสําคัญประจําราชวงศ์เรื่อยมา

พิธีปฐมกรรม ภาพฝีมือพระยาอนุศาส์นจิตรกร ที่พระอุโบสถสุวรรณดาราราม (ภาพจาก ศิลปวัฒนธรรม กันยายน 2543)

จนในสมัยรัชกาลที่ 7 ระหว่างปี 2473-2474 มีพระราชกระแสรับสั่งให้พระยาอนุศาสน์จิตรกรไปเขียนภาพพระราชพงศาวดาร ประวัติสมเด็จพระนเรศวร เกี่ยวกับการกอบกู้เอกราชตามประวัติการเขียนภาพนี้ พระยาอนุศาสน์จิตรกรได้ค้นคว้าและจินตนาการด้วยตนเอง โดยเมื่อร่างแบบขึ้นมาแล้วก็จะนําขึ้นถวาย สมเด็จฯ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ เพื่อทรงพิจารณาก่อนจะนําไปเขียนจริงทุกครั้ง

นอกจากนี้ยังมีเกร็ดประวัติการเขียนภาพของพระยาอนุศาสน์จิตรกรบันทึกไว้ในหนังสืองานศพคุณหญิงบํารุงราชบริพาร ดังนี้

“สําหรับภาพเขียนที่วัดสุวรรณดาราราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระยาอนุศาสน์จิตรกรได้ใช้เวลาวาดภาพเกือบ 2 ปีเต็ม โดยรับพระราชทานให้นําแพไปจอดที่หน้าวัด ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาแพเกิดจมลง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบ จึงได้พระราชทานเรือ ‘ปิคนิค’ ให้พระยาอนุศาสน์จิตรกรได้ใช้แทนแพจนกระทั่งวาดภาพเสร็จสมบูรณ์

ในตอนที่ไปวาดรูปพระราชประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนี้ พระยาอนุศาสน์จิตรกรเคยเล่าให้ลูกๆ ฟังว่า เมื่อเขียนถึงพระเนตรของสมเด็จพระนเรศวรเป็นครั้งแรก ตัวเองเป็นลมตกลงมาจากนั่งร้านถึง 3 หน จึงต้องมีพิธีบวงสรวง ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจึงสามารถเขียนได้สําเร็จ”

จิตรกรรมฝาผนังพระราชประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน ยุทธหัตถี ภายในพระวิหารวัดสุวรรณดาราราม จ.พระนครศรีอยุทธยา

อย่างไรก็ดี แม้ภาพชุดนี้จะเป็นชุดที่โด่งดังที่สุดของ “จันทร์ จิตรกร” แต่สัดส่วนของคนยังไม่งดงามเท่ากับเมื่อเขียนภาพประกอบหนังสือ อาจจะเป็นเพราะขณะเขียนภาพชุดพระราชประวัตินี้ ท่านมีอายุถึง 60 ปีแล้ว สุขภาพไม่ดีถึงขั้นเป็นลมอยู่บ่อยๆ ไม่ “สด” เหมือนเมื่อเขียนภาพประกอบถวาย หรืออาจจะเป็นเพราะต้องเขียนงานขนาดใหญ่กว่างานเขียนภาพประกอบหลายเท่า หรืออาจจะเป็นเพราะงานเขียนภาพประกอบของท่านที่งดงามนั้นเป็น “ทางไทย” ส่วนภาพชุดพระราชประวัติที่วัดสุวรรณดารารามนี้เป็นการเขียนอย่าง “ฝรั่ง” จึงทําให้สัดส่วนผิดไปหลายแห่ง

พระยาอนุศาสน์จิตรกร เสียชีวิตในวันที่ 10 ตุลาคม ปี 2492 เมื่อมีอายุได้ 78 ปี งานชิ้นสุดท้ายไม่ใช่งานจิตรกรรม แต่เป็นงานประดับมุกพานแว่นฟ้า ที่มีลวดลายวิจิตรบรรจงอย่างยิ่ง นอกจากนี้ท่านยังมีทายาทที่ได้ “เลือดพ่อ” อีกคน คือนางดรุณาทร (ผิว กัลยาณมิตร) ที่มีฝีมือทางการวาดเขียนอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ถนัดทางสีน้ำมากกว่า

อ่านเพิ่มเติม:

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


ข้อมูลจาก :

หลง ใส่ลายสือ. “จันทร์ จิตรกร ศิลปินคู่พระทัยรัชกาลที่ 6, ศิลปวัฒนธรรม. ปีที่ 26 ฉบับที่ 5 (มีนาคม 2548), น. 54-57.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 26 มกราคม 2562