เผยแพร่ |
---|
“…สมเด็จพระพุทธเจ้ามกุฎเกล้าอยู่หัว ณ กรุงเทพมหานคอรศรีอยุทธยาทุกวันนี้ ปรารถนาพระบรมโพธิญาณสัพพัญญูมีพระกรุณาญาณเอนดูสัตวโลกท้งงปวงมิได้เลีอกหน้า ต้งงพระไทยบำรุงพระวิไนยปริยัตสาศนาในเมืองลาวเขมรให้วัฒนาการรุ่งเรืองสืบไป มิได้ต้งงพระไทยที่จะรบราฆ่าฟันชาวกรุงเวียงจันทรบุรีหามิได้ เหตุมีผู้บังคับด้วยราชอณาจักรขัดมิได้ จำเปนต้องรักชีวิตรต่างคนต่างป้องกันรักษากฆ่าฟันกันตายท้งงสองฝ่ายหาประโยชน์มิได้ สังเวดสลดพระไทยดูจหนึ่งฆ่าบุตรอันเกิดแต่อุรพระองค์เสีย…”
ศุภอักษรจากอัครมหาเสนาบดีกรุงรัตนโกสินทร์ถึงพระเจ้านันทเสนแห่งเวียงจันทน์ใน พ.ศ.2325 อ้างโดย สายชล สัตยานุรักษ์ ในหนังสือ พุทธศาสนากับแนวคิดทางการเมืองในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
ทั้งนี้พระเจ้านันทเสนได้รับการสถาปนาจากราชวงศ์จักรีให้ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งเวียงจันทน์ แต่ภายหลังพระองค์ถูกถอดออกจากบัลลังก์ เมื่อพระองค์ยกทัพไปตีหลวงพระบางในปี 1792 (พ.ศ.2335) ซึ่งพระองค์ทรงอ้างว่าหลวงพระบางสมคบกับอังวะคิดการร้าย หลังได้ชัยชนะ พระองค์ทรงส่งกษัตริย์และราชวงศ์ของหลวงพระบางไปยังกรุงเทพฯ และได้ผนวกหลวงพระบาง เมืองพวน และหัวพันซึ่งเป็นประเทศราชของหลวงพระบางเข้าไว้ใต้อำนาจของเวียงจันทน์
พฤติการณ์ดังกล่าวทำให้ทางกรุงเทพฯไม่พอใจ จึงได้มีคำสั่งถอดพระองค์ออกจากตำแหน่งโดยอ้างว่าพระองค์ทรงร่วมมือกับเจ้าเมืองนครพนมหวังคิดการใหญ่ต้องข้อหาเป็นกบฏ โทษถึงประหารแต่กรมพระราชวังบวรฯ (พระอนุชาของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) ทูลขอพระราชโทษไว้จึงเพียงแต่ต้องพันทนาการในเรือนจำ
ข้อมูลจาก พุทธศาสนากับแนวคิดทางการเมืองในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โดย สายชล สัตยานุรักษ์ และประวัติศาสตร์สังเขป ประเทศลาวกลางแผ่นดินเอเชียอาคเนย์ โดย แกรนท์ อีแวนส์ (ดุษฎี เฮย์มอนด์ แปล)