ที่มา | เอกสารประกอบการเสวนาของ สโมสรศิลปวัฒนธรรมเสวนา 18 กันยายน 2557 |
---|---|
ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
เผยแพร่ |
ออกพระเพทราชา ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ สั่งรวบตัวไว้ที่ลพบุรีครึ่งเดือน ก่อนออกคำสั่ง ประหารฟอลคอน กลางดึก ด้านนายพล เดส์ฟาร์จ ยังสงวนท่าที เผ่นไปตั้งหลักที่ป้อมบางกอกแล้ววันนี้
คืนวานนี้ที่ 5 มิถุนายน พุทธศักราช 2231 ออกพระเพทราชา ผู้ยึดอำนาจการปกครองกรุงศรีอยุธยาไว้แล้วก่อนหน้านี้ ได้ออกคำสั่ง ประหารฟอลคอน หรือเจ้าพระยาวิชเยนทร์ ว่าที่สมุหนายก ผู้ถืออำนาจสูงสุดในการปกครองรองจากพระบาทบรมนาถนารายณ์ราชบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว ที่วัดซาก ใกล้พระตำหนักทะเลชุบศร เมืองลพบุรี ถึงแก่อนิจกรรมอย่างทารุณ
สืบเนื่องจากเหตุการณ์เดือนกุมภาพันธ์ ก่อนการยึดอำนาจของออกพระเพทราชา หลังจากพระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนัก ออกพระเพทราชาซึ่ีงไม่ไว้วางใจเจ้าพระยาวิชเยนทร์ (ฟอลคอน) ว่าเป็นต้นเหตุชักศึกเข้าบ้าน ทำให้กรุงศรีอยุธยาตกอยู่ภายใต้อำนาจของฝรั่งเศส จึงคิดแผนยึดอำนาจขึ้น
ด้านเจ้าพระยาวิชเยนทร์ไหวตัว จึงออกคำสั่งเรียกตัวนายพล เดส์ฟาร์จมายังเมืองลพบุรี เพื่อเตรียมการรับมือและวางแผนกำจัดออกพระเพทราชา โดยมี นายพันตรีเดอ โบ ช็องป์ อาสาจะจับตัวออกพระเพทราชาและสังหารด้วยตนเอง
แต่เมื่อนายพล เดส์ฟาร์จพร้อมทหารฝรั่งเศส 80 นาย เดินทางมาถึงกรุงศรีอยุธยา ได้ส่งนายร้อยโท เลอรัว ขึ้นไปสืบความจริงที่ลพบุรี ก็พบว่าเหตุการณ์ยังปกติอยู่ พระพุทธเจ้าอยู่หัวยังไม่ได้สวรรคตตามข่าวลือ จึงยกกองกำลังกลับไปตั้งหลักที่ป้อมบางกอก ไม่ได้ไปตามนัดเจ้าพระยาวิชเยนทร์
แหล่งข่าวกล่าวว่า นายพล เดส์ฟาร์จไม่ต้องการจะเข้าข้างฝ่ายใด นอกจากจะรักษาผลประโยชน์แห่งราชสำนักฝรั่งเศสในกรุงศรีอยุธยาเท่านั้น
ด้านเจ้าพระยาวิชเยนทร์ได้กราบบังคมทูลว่า ออกพระเพทราชาจะทำการกบฏต่อแผ่นดิน แนะนำให้มีพระบรมราชโองการเรียกตัวเข้าเฝ้าเป็นการด่วน แล้วจับตัวลงพระราชอาญา
ฝ่ายออกพระเพทราชารู้ตัวดังนี้ จึงไปหาสมเด็จพระสังฆราช เล่าความเรื่องเจ้าพระยาวิชเยนทร์คิดจะยกแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาอยู่ใต้คนต่างชาติ สมเด็จพระสังฆราชและบรรดาภิกษุจึงเรียกชุมนุมราษฎร ให้จับอาวุธขึ้นเพื่อรักษาองค์พระมหากษัตริย์และแผ่นดิน ก่อนจะบุกเข้ายึดวังหลวงเมืองลพบุรี
ออกพระเพทราชาจับตัวเจ้าพระยาวิชเยนทร์ได้ และควบคุมพระพุทธเจ้าอยู่หัวไว้ในพระราชวังลพบุรี ในวันที่ 18 พฤษภาคม พุทธศักราช 2231 นับเป็นการตีฆ้องปฏิวัติตั้งแต่บัดนั้น ส่วนทหารฝรั่งเศสในเมืองลพบุรีถูกจับและควบคุมตัวไว้ที่พระตำหนักทะเลชุบศร
2 วันต่อมา คือ 20 พฤษภาคม ออกพระเพทราชาจึงมีคำสั่งประหารพระปีย์ ราชบุตรบุญธรรมในพระพุทธเจ้าอยู่หัวด้วยการตัดศีรษะ
จากนั้นออกพระเพทราชาจึงให้โกษาปานซึ่งอยู่ในฝ่ายปฏิวัติ เดินทางไปเจรจากับนายพล เดส์ฟาร์จ ที่ป้อมบางกอก เพื่อเชิญขึ้นมายังเมืองลพบุรี หากไม่มาพบจะถือว่ากรุงศรีอยุธยาและฝรั่งเศสขาดความสัมพันธ์กัน ในที่สุดนายพล เดส์ฟาร์จก็ยอมไปเมืองลพบุรี ในวันที่ 31 พฤษภาคม ออกพระเพทราชาขอให้ส่งกองทหารฝรั่งเศสที่เมืองบางกอกไปช่วยสยามรบกับลาว นายพล เดส์ฟาร์จตอบตกลงตามนั้น แต่ออกอุบายขอไปสั่งการที่เมืองบางกอก ออกพระเพทราชาจึงยึดตัวบุตรชาย 2 คน ของนายพล เดส์ฟาร์จไว้เป็นประกัน ครั้นเมื่อกลับถึงบางกอก ก็จัดการเตรียมการรับมือกับฝ่ายออกพระเพทราชาที่ป้อมบางกอกนั้นอย่างเข้มแข็ง
จนกระทั่งคืนวานนี้ที่ 5 มิถุนายน ออกพระเพทราชา มีคำสั่งให้ประหารชีวิตเจ้าพระยาวิชเยนทร์ที่วัดซาก ใกล้พระตำหนักทะเลชุบศร ขณะมีอายุได้ 41 ปี ถือเป็นการยุติอำนาจเมืองฝรั่งเศสในกรุงศรีอยุธยานับแต่บัดนั้น
แหล่งข่าวระดับสูงยังอ้างอีกว่านับแต่วันที่เจ้าพระยาวิชเยนทร์ถูกจับตัวมานั้น ก็ถูกทรมานต่างๆ นานา จนเมื่อมีการประหารพระปีย์ราชบุตรบุญธรรม จึงมีการเอาศีรษะของพระปีย์ซึ่งลือว่าฝักใฝ่อยู่ทางฝรั่งนั้นมาแขวนคอเจ้าพระยาวิชเยนทร์ก่อนจะนำไปประหารชีวิตดังกล่าว
และเช้าวันที่ 6 มิถุนายน ข่าวแจ้งว่า นายพล เดส์ฟาร์จได้เดินทางกลับไปยังบางกอกแล้ว คาดว่าจะไปเตรียมตัวรับมือกับออกพระเพทราชา เพื่อรักษาป้อมบางกอกและผลประโยชน์ของฝรั่งเศสไว้จนนาทีสุดท้าย
อ่านเพิ่มเติม :
- พระเพทราชา กับตำนาน “ชายนอนหลับ” ชื่อ “สิงห์” และ “เสลี่ยง” วัดกุฎีทอง สุพรรณบุรี
- เล่าเรื่อง พระเพทราชา ตกกระไดพลอยโจน
- พระเพทราชาเถลิงราชย์ ชาวบ้านพลูหลวงปีติ “นายเรามีบุญ” กินเหล้าร้องเพลงฉลองในวัง
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
หมายเหตุ : คัดเนื้อหาจาก เอกสารประกอบการเสวนาของ สโมสรศิลปวัฒนธรรมเสวนา 18 กันยายน 2557
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 11 เมษายน 2561