ผู้เขียน | สุทธาสินี จิตรกรรมไทย เจียจันทร์พงษ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
จาก “เอ็ม” ในหนังเจมส์ บอนด์ สู่ “เมเทรเวลี” หัวหน้าหน่วยข่าวกรองลับอังกฤษ “MI6” ผู้หญิงคนแรกในรอบ 116 ปี
ใน ภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ (James Bond) นอกจากตัวเอกอย่าง เจมส์ บอนด์ หรือ “สายลับ 007” แล้ว อีกหนึ่งตัวละครที่คนดูรักและผูกพันก็คือ “เอ็ม” (M) รับบทโดย จูดี เดนช์ (Judi Dench) ซึ่งปรากฏตัวในภาพยนตร์ถึง 7 ภาค ไล่ตั้งแต่ GoldenEye (1995) มาจนถึง Skyfall (2012)

เอ็มเป็นหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับ MI6 มีบุคลิกความเป็นผู้นำที่เด็ดขาด กล้าตัดสินใจ เธอเป็นผู้บังคับบัญชาของสายลับ 007 มีหน้าที่มอบหมายภารกิจและมอบคำสั่งให้เขาไปปฏิบัติการในสถานการณ์สุดเสี่ยง
แม้บางครั้งความเห็นของทั้งคู่จะไม่ตรงกัน แต่สุดท้ายเอ็มก็ยังคงสนับสนุนและไว้วางใจความสามารถของสายลับ 007
ตัดมาในโลกความเป็นจริง ประวัติศาสตร์วงการสายลับมักมีผู้ชายโลดแล่นเป็นหลัก แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2025 หน่วยข่าวกรองลับอังกฤษ (Secret Intelligence Service-SIS) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ MI6 (Military Intelligence, Section 6) ได้ประกาศแต่งตั้ง เบลส เมเทรเวลี (Blaise Metreweli) วัย 47 ปี เป็นหัวหน้าหน่วยคนที่ 18

เมเทรเวลี เป็นผู้หญิงคนแรกที่นั่งเก้าอี้ผู้นำสูงสุดของหน่วยสืบราชการลับชั้นนำของโลกแห่งนี้ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1909 ท่ามกลางความท้าทายของภัยคุกคามแบบใหม่ๆ ที่พัฒนาไปตามเทคโนโลยีและนวัตกรรมของยุค
เคียร์ สตาร์เมอร์ (Keir Starmer) นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวถึงการแต่งตั้งเมเทรเวลีว่า “เป็นประวัติศาสตร์” ในช่วงเวลาที่ “การทำงานของหน่วยข่าวกรองของเรามีความสำคัญอย่างยิ่ง”
บีบีซีไทย ระบุว่า เมเทรเวลีศึกษาด้านมานุษยวิทยาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการของ MI5 ซึ่งเป็นหน่วยงานความมั่นคงภายในประเทศ มีประวัติการทำงานในตะวันออกกลางและยุโรปเป็นส่วนใหญ่
ปัจจุบัน เธอเป็นผู้อำนวยการใหญ่ “Q” (คิว) ซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สำคัญ หน่วยงานนี้มีหน้าที่รักษาข้อมูลสายลับให้เป็นความลับ และคิดค้นวิธีใหม่ๆ ในการหลบเลี่ยงศัตรูของชาติต่างๆ ก่อนจะรับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับ MI6 อย่างเป็นทางการในปลายปี 2025
“MI6 มีบทบาทสำคัญร่วมกับหน่วยข่าวกรอง ซึ่งรับหน้าที่สืบราชการลับภายในประเทศ หรือ MI5 และหน่วยข่าวกรองของสหราชอาณาจักร (GCHQ) ในการปกป้องความปลอดภัยของชาวอังกฤษ และส่งเสริมผลประโยชน์ของสหราชอาณาจักรในต่างประเทศ” เมเทรเวลีบอก

ประวัติของ MI6 ย้อนไปได้ถึงทศวรรษ 1900 เมื่อเยอรมนีเริ่มแผ่ขยายอิทธิพลมากขึ้น ทำให้สหราชอาณาจักรเกิดความกังวล นำสู่การก่อตั้ง Secret Intelligence Service (SIS) ในเดือนกรกฎาคม ปี 1909 แบ่งการบริหารจัดการเป็น 2 ส่วน คือ หน่วยภายในประเทศ (MI5) และ หน่วยต่างประเทศ (MI6)
ต่อมาในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน แมนสฟีลด์ คัมมิง (Mansfield Cumming) แห่งกองทัพเรือ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุด เมื่อต้องลงนามในเอกสารใดๆ เขามักเซ็นด้วยตัวอักษร “ซี” (C) เพียงตัวเดียวอยู่เสมอ
เป็นที่มาของการเรียกผู้นำสูงสุดของ MI6 ว่า “ซี” มานับแต่นั้น
ช่วงทศวรรษที่ 1930-1940 MI6 ได้รับการขนานนามว่าเป็นหน่วยสืบราชการลับที่มีประสิทธิภาพมากสุดในโลก และหลังจาก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) ผู้นำนาซีขึ้นสู่อำนาจ สายลับ MI6 ได้ออกปฏิบัติการจารกรรมทั้งในยุโรป ลาตินอเมริกา และอีกหลายประเทศในเอเชีย ทั้งยังช่วยฝึกสอนเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสังกัด Office of Strategic Services (OSS) ของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
แม้สังคมอาจรู้ภารกิจหลักของ MI6 อย่างการจารกรรมข้อมูล แต่หากเป็นชั้นรายละเอียดแล้วสังคมกลับรู้น้อยมาก เพราะปฏิบัติการของเหล่าสายลับเป็นไปอย่างเงียบเชียบ ไร้ร่องรอย และแทบไม่มีข่าวออกสู่สาธารณะ ตัวตนของพวกเขาก็เช่นกัน
อาจเรียกได้ว่า คนเดียวที่สังคมจะรู้จักก็คือ “หัวหน้าหน่วยข่าวกรองลับอังกฤษ” นั่นเอง ซึ่งก็เพิ่งเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณชนเมื่อไม่กี่ทศวรรษก่อนเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม :
- สายลับเขมร ช่วงวิกฤติ ร.ศ.112 คือใคร? มีบทบาทอย่างไรท่ามกลางความแตกแยกในราชสำนักเขมร
- เอลี โคเฮน สุดยอดสายลับ “มอสสาด” แห่งอิสราเอล ผู้ล้วงความลับซีเรียนานเกือบ 5 ปี
- ชะตาชีวิต “มาตา ฮารี” นักเต้นระบำเปลื้องผ้า และสายลับสองหน้า (ผู้บริสุทธิ์?)
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
“มารู้จัก ‘เบลส เมเทรเวลี’ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองลับ MI6 ผู้หญิงคนแรกในรอบ 116 ปีของอังกฤษ”.
https://www.sis.gov.uk/about-us/our-history
https://www.britannica.com/topic/MI6
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 17 มิถุนายน 2568