
ผู้เขียน | นิติพัฒน์ บุญชู |
---|---|
เผยแพร่ |
น้ำตกที่รัชกาลที่ 5 โปรดในการเสด็จประพาสมีอยู่หลายแห่งในสยาม แต่หนึ่งในนั้นมีน้ำตกที่พระองค์โปรดที่สุดถึงขั้นตรัสว่า “ไม่มีที่ไหนงามกว่าที่นี่” คือที่ไหน?
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเป็นกษัตริย์ที่โปรดปรานการเสด็จประพาสหัวเมืองต่าง ๆ ในสยามเป็นอย่างมาก ซึ่งการเสด็จประพาสแต่ละครั้ง นอกจากจะเป็นการตรวจราชการแล้ว ยังเป็นโอกาสที่พระองค์จะได้สัมผัสกับธรรมชาติตามหัวเมืองต่าง ๆ ไปด้วย
หนึ่งในสถานที่ทางธรรมชาติที่พระองค์มักเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรคือ “น้ำตก” อาทิน้ำตกธารมะยมที่เกาะช้าง, ธารเสด็จที่เกาะพงัน, ไทรโยคใหญ่ที่เมืองกาญจนบุรี ฯลฯ แต่ในบรรดาน้ำตกเหล่านี้ มีน้ำตกแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกที่พระองค์โปรดมากที่สุด นั่นคือ “น้ำตกพลิ้ว” ณ เมืองจันทบุรี
“น้ำตกพลิ้ว” ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาสระบาป ปัจจุบันอยู่ในอำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น โอบล้อมด้วยป่าไม้นานาพันธุ์ที่อุดมสมบูรณ์ และมีสายน้ำใสสะอาด 2 สาย ไหลลงจากหน้าผาสูง 20 เมตร คอยสร้างความชุ่มฉ่ำให้ผู้พบเห็น
รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสน้ำตกแห่งนี้ถึง 4 ครั้ง จากทั้งหมด 13 ครั้ง ในการเสด็จประพาสหัวเมืองจันทบุรี (ระหว่าง พ.ศ. 2401-2450)
แล้ว “พลิ้ว” คืออะไร ทำไมจึงเป็นชื่อนี้?
คำว่า “พลิ้ว” มาจากคำในภาษาชอง ซึ่งเป็นภาษาของกลุ่มชนดั้งเดิมในพื้นที่ มีความหมายว่า ทราย หรือหาดทราย จึงมีข้อสันนิษฐานว่าชื่อ น้ำตกพลิ้ว คงมาจากชื่อของ “ต้นพลิ้ว” ที่ชอบขึ้นในที่ดินปนทราย มีลักษณะเป็นไม้เถา ดอกเป็นช่อ ผลเล็กคล้ายลูกเกด สีเหลืองอมแดง ซึ่งพบมากในบริเวณนี้นั่นเอง
น้ำตกพลิ้ว กับอนุสรณ์สถานแห่งรักและความทรงจำในรัชกาลที่ 5
รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2417 คราวนั้น สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี (พระอิสริยยศหลังเสด็จสวรรคต) พระภรรยาเจ้าในรัชกาลที่ 5 โดยเสด็จด้วย
ทั้งสองพระองค์ทรงพอพระทัยในธรรมชาติอันงดงามของน้ำตกแห่งนี้เป็นอย่างมาก จนรัชกาลที่ 5 ถึงขั้นมีพระราชดำรัสว่า
“เราได้เห็นน้ำตกอย่างนี้มาสองแห่งสามแห่ง คือที่ปีนัง เกาะช้างและสีพยา เห็นไม่มีที่ไหนงามกว่าที่นี่เลย ถ้าจะให้เรานั่งดูทั้งวันยังค่ำก็แทบจะได้ด้วยเย็นสบายจริง”
ใน พ.ศ. 2419 พระองค์เสด็จประพาสเมืองจันทบุรีอีกครั้ง เพื่อเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ จึงทรงมีโอกาสเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วเป็นครั้งที่ 2 คราวนี้พระองค์มีพระราชดำริให้สร้างเจดีย์ทรงกลมแบบลังกาขึ้น และพระราชทานนามว่า “อลงกรณ์เจดีย์” เพื่อเป็นที่ระลึกในความประทับใจของพระองค์ที่มีต่อน้ำตกแห่งนี้

เวลาต่อมา พ.ศ. 2423 เกิดเหตุสลด เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์เสด็จสวรรคต จากเหตุเรือล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะเสด็จทางเรือไปพระราชวังบางปะอิน เหตุการณ์สะเทือนใจครานั้นกลายเป็นโศกนาฏกรรมแห่งแผ่นดิน และทิ้งความอาลัยลึกไว้ในพระราชหฤทัยของรัชกาลที่ 5
ในปีถัดมา พ.ศ. 2424 พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการท้องถิ่นในจันทบุรี สร้างสุนันทานุสาวรีย์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อนุสาวรีย์พระนางเรือล่ม” ขึ้นที่น้ำตกพลิ้ว เพื่อเป็นที่ระลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งเคยเสด็จประพาสน้ำตกแห่งนี้ และมีความทรงจำร่วมกันครั้ง พ.ศ. 2417
ภายในอนุสาวรีย์บรรจุพระอังคารของสมเด็จพระนางเจ้าเอาไว้ และรัชกาลที่ 5 ทรงเลือกออกแบบให้เป็นรูปทรงพีระมิด ทรงให้เหตุผลว่า “หากทำเป็นรูปอื่นจะไม่คงทนถาวร”
ที่อนุสาวรีย์ยังมีจารึกถึงความอาลัยว่า
“ที่ระลึกถึงความรักแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีอรรคมเหษีซึ่งเสด็จทิวงคตแล้ว ด้วยเธอได้มาถึงที่นี่เมื่อจุลศักราช ๑๒๓๖ (พ.ศ. ๒๔๑๗) โดยความยินดีชอบใจมาก อนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นโดยจุฬาลงกรณ์บรมราชผู้เป็นพระราชสวามี อันมีความทุกข์เพราะเธอเป็นอย่างยิ่ง ในจุลศักราช (พ.ศ. ๒๔๒๔)” (เว้นวรรคใหม่โดยผู้เขียน)
ก่อนที่ใน พ.ศ. 2427 รัชกาลที่ 5 จะเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วอีกครั้ง เพื่อทอดพระเนตรเจดีย์และอนุสาวรีย์ที่พระองค์โปรดให้สร้างไว้
จากนั้น พ.ศ. 2432 พระองค์เสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วเป็นครั้งสุดท้าย ครั้งนี้ทรงจารึกพระปรมาภิไธยไว้บนหินยอดน้ำตกด้วย ซึ่งภายหลังรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 ก็เสด็จฯ เยือน และทรงจารึกพระปรมาภิไธยไว้ ณ ที่แห่งนี้เช่นเดียวกัน

ปัจจุบัน น้ำตกพลิ้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในการพักผ่อนหย่อนใจและการศึกษาประวัติศาสตร์ ชาวจันทบุรีและจังหวัดอื่นๆ นิยมเดินทางมาสัมผัสความร่มรื่นของป่าเขา และระลึกถึงสถานที่ซึ่งเคยเป็นที่เสด็จประพาสของกษัตริย์ ผู้ทรงฝากร่องรอยแห่งความรักและความทรงจำไว้ในสถานที่แห่งนี้ให้คนรุ่นหลังได้จดจำ
อ่านเพิ่มเติม :
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ. (2542). หนังสือเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญาจังหวัดจันทบุรี. กรุงเทพมหานครฯ: กรมศิลปากร
กระทรวงมหาดไทย. (2523). ประวัติมหาดไทยส่วนภูมิภาค จังหวัดจันทบุรี. เรียกใช้เมื่อ 11 มิถุนายน 2568. เข้าถึงได้จาก https://www.finearts.go.th/chantaburilibrary/view
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 13 มิถุนายน 2568