ชีวิตสาวชาววัง “พระตำหนักพระวิมาดาเธอฯ” ใน 1 วันทำอะไรกันบ้าง?

พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ ชีวิตสาวชาววัง พระตำหนักพระวิมาดาเธอฯ ห้องเครื่อง พระราชวังดุสิต เจ้าจอมรัชกาลที่ 5 อาหารชาววัง 4 วังขึ้นชื่อ สายสกุลรัชกาลที่ 3
พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ฯ ทรงเป็นสายสกุลในรัชกาลที่ 3 ทรงฉายภาพพร้อมบรรดาเจ้าจอมในรัชกาลที่ 5 ภายในห้องเครื่องพระราชวังดุสิต

“ท่านหญิงพูน” ทรงเล่าประสบการณ์ชีวิตสาวชาววัง “พระตำหนักพระวิมาดาเธอฯ” สมัยรัชกาลที่ 5 ใน 1 วันต้องทำอะไรบ้าง?

หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล หรือ “ท่านหญิงพูน” ทรงเป็นพระธิดาใน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (พระราชโอรสในรัชกาลที่ 4 ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาชุ่ม) กับ หม่อมเฉื่อย เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2438 ที่วังสามยอด ริมถนนเจริญกรุง เชิงสะพานดำรงสถิต

พระองค์ทรงเป็นนักเขียนสตรีที่มีผลงานเด่น อาทิ “สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น” บันทึกเรื่องราวในวัง วิถีชีวิต วัฒนธรรม และเหตุการณ์สำคัญต่างๆ โดยเฉพาะเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ในมุมมองของเจ้านาย เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าชิ้นหนึ่งมาถึงทุกวันนี้

พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา อาหารชาววัง 4 วังขึ้นชื่อ อาหารฝรั่งสมัยรัชกาลที่ 5 ทรง ชุบเลี้ยง หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล ชีวิตสาวชาววัง พระตำหนักพระวิมาดาเธอฯ
พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา

ท่านหญิงพูนทรงมีพี่น้องที่เกิดแต่หม่อมเฉื่อย รวมพระองค์ด้วยแล้วทั้งสิ้น 8 พระองค์ ได้แก่ หม่อมเจ้าจุลดิศ หม่อมเจ้าอิทธิดำรง หม่อมเจ้าทรงวุฒิภาพ หม่อมเจ้ารัชลาภจิรฐิต หม่อมเจ้าพูนพิศมัย หม่อมเจ้าพิลัยเลขา หม่อมเจ้าบันดาลสวัสดี และหม่อมเจ้าดิศศานุวัติ และยังทรงมีพี่น้องต่างมารดาอีกกว่า 30 พระองค์ จากหม่อมในกรมดำรง 6 คน

ปี 2445 ขณะพระองค์ทรงมีพระชันษา 7 ปี หม่อมเฉื่อยก็ถึงแก่อนิจกรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ หม่อมเฉื่อยได้สั่งเสียกับกรมดำรงไว้ว่า ให้นำท่านหญิงพูนเข้าถวายตัวในสำนัก พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา พระภรรยาเจ้าในรัชกาลที่ 5 ผู้ทรงเลื่องลือเรื่องฝีมือการทำอาหารเป็นยอด

เหตุที่เป็นพระตำหนักนี้ เนื่องจาก เจ้าจอมมารดาจีน พระมารดาของพระวิมาดาเธอฯ รับเป็น “แม่รับ” ในวันแรกประสูติของท่านหญิงพูน และให้เรียกท่านว่า “คุณแม่แก่” ทั้งยังมอบของเล่นให้ท่านหญิงพูน จนพระวิมาดาเธอฯ ทรงชวนให้ไปอยู่ด้วย

สมเด็จฯ เจ้าฟ้านิภานภดล พระราชธิดา รัชกาลที่ 5 กับ พระวิมาดาเธอฯ ตำหนักพระวิมาดาเธอฯ ชีวิตสาวชาววัง
สมเด็จฯ เจ้าฟ้านิภานภดล (ภาพ : Wikimedia Commons)

เวลานั้นท่านหญิงพูนทรงอ่านออกเขียนได้แล้ว เป็นผลจากการที่กรมดำรงทรงปลูกฝังเรื่องการศึกษาแก่พระโอรสและพระธิดา เมื่อทรงเข้าไปเป็นสาวชาววังก็ทรงได้รับการดูแลเอาใจใส่จากพระวิมาดาเธอฯ และ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล วิมลประภาวดี กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี (พระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 ประสูติแต่พระวิมาดาเธอฯ) เป็นอย่างดี ซึ่งต่อมา หม่อมเจ้าพัฒนายุคุณวรรณ ดิศกุล พระธิดาในกรมดำรงกับหม่อมลำดวน ก็ทรงถวายตัวในสำนักนี้ด้วยเช่นกัน

ท่านหญิงพูนทรงใช้ชีวิตในวังราว 8 ปี คือตั้งแต่พระชันษา 7-15 ปี เริ่มต้นที่พระบรมมหาราชวัง แล้วทรงย้ายตามพระวิมาดาเธอฯ ไปประทับยังพระตำหนักสวนสุนันทา พระราชวังดุสิต จวบจนปี 2453 เมื่อรัชกาลที่ 5 สวรรคต จึงทรงย้ายไปประทับในพระบรมมหาราชวังอีกครั้งราวปีเศษ เพื่อทรงร่วมจัดงานพระบรมศพ

หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล บันทึก พระราชโอรสในรัชกาลที่ 1 ชีวิตสาวชาววัง พระตำหนักพระวิมาดาเธอฯ
หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล (ภาพ : Wikimedia Commons)

พระธิดากรมดำรงทรงบันทึกไว้ใน “สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น” ถึงเรื่องชีวิตชาววัง พระตำหนักพระวิมาดาเธอฯ ในแต่ละวันไว้ว่า (จัดย่อหน้าใหม่โดยผู้เขียนบทความออนไลน์)

“ข้าพเจ้าอ่านออกเขียนได้แต่ ๖ ขวบแล้ว เข้าไปอยู่ในพระบรมมหาราชวังกับพระวิมาดาเธอเมื่อแม่ตาย พระวิมาดาเธอทรงจ้างครูผู้หญิงมาสอนที่ตำหนักทุกวันแต่เวลาเช้า ๙ นาฬิกาจนถึง ๑๖ นาฬิกา เลิกเรียนแล้วไปทำขนมของกินที่ห้องเครื่องราว ๑ ชั่วโมง จึงอาบน้ำแต่งตัวขึ้นไปอยู่กับท่านจนถึงเวลานอน

บางวันก็มีงานทำดอกไม้ ถ้านั่งเฉยๆ ก็ต้องเย็บหรือถักของต่างๆ เวลากินอาหารก็กินกับสมเด็จหญิง (สมเด็จฯ เจ้าฟ้านิภานภดล กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี) หรือพระองค์ท่านเองทุกครั้ง ถ้าเสด็จในงานการพระราชพิธีหรือแม้เที่ยวเล่นก็ต้องตามเสด็จไปด้วย

เมื่ออายุได้ราว ๑๒ ปี เสด็จไปประทับอยู่ที่พระราชวังสวนดุสิต ในตอนนี้พระวิมาดาเธอทรงจ้างครูแหม่มจากโรงเรียนวังหลัง (วัฒนาวิทยาลัย) มาสอนภาษาอังกฤษ และครูผู้ชายที่เป็นข้าราชการอยู่ในกรมราชเลขาธิการมาสอนภาษาไทย โปรดให้พวกเราออกไปเรียนที่สวนผักริมประตูนกร้อยทุกวัน

ในส่วนภาษาไทยนั้นเรารู้ได้ดีเพราะได้ครูดีๆ มาสอน และเมื่อกลับจากโรงเรียนแล้วสมเด็จหญิงนิภาฯ ก็ทรงสอบและสอนข้าพเจ้าอีกด้วย นอกจากจะทรงให้เขียนลายมือตามลายพระหัตถ์ท่านแล้ว ยังต้องอ่านหนังสือเล่มๆ ถวายให้ทรงฟังในเวลาทรงพัก

ส่วนภาษาอังกฤษนั้นพออ่านเขียนได้เพียง Longman’s ship เล่ม ๓ ก็ต้องหยุดเรียนเพราะสวรรคต (ทรงหมายถึงรัชกาลที่ 5) และเจ้านายในสวนดุสิตก็เสด็จกลับเข้าไปอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ในตอนนี้มีงานทำแต่เรื่องพิธีพระบรมศพอยู่ปีเศษ จนข้าพเจ้ากลับออกมาอยู่วังกับเสด็จพ่อแล้วจึงได้กลับตั้งต้นเรียนใหม่เมื่ออายุได้ ๑๕ ปี (ราว พ.ศ. ๒๔๕๒-๕๓)”

สำนักพระวิมาดาเธอฯ ในประสบการณ์ของหม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล ไม่เพียงสะท้อนถึงชีวิตชาววังตามขนบ คือ เรียนรู้เรื่องงานบ้านงานเรือน โดยเฉพาะการทำอาหารและขนมหวาน ซึ่งพระตำหนักนี้เลื่องชื่อเป็นอันดับหนึ่ง แต่ยังแสดงถึงการเปิดรับวิถีแบบตะวันตก คือ ผู้หญิงก็สามารถเรียนหนังสือ ศึกษาหาความรู้ได้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

ฉัตรบงกช ศรีวัฒนสาร. “ประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ จากบันทึก ‘สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น’”. นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับมิถุนายน 2568


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 12 มิถุนายน 2568