
ผู้เขียน | วิภา จิรภาไพศาล |
---|---|
เผยแพร่ |
“ช้างไทย” ในอดีตมีอยู่ชุกชุมในป่าทั่วประเทศ ช้างที่มีลักษณะมงคลตามตำราคชลักษณ์จะเลือกให้เป็นช้างทรงหรือช้างต้นของพระมหากษัตริย์ ตัวที่คุณสมบัติด้อยลงมาพระราชทานให้เจ้านาย/ขุนนาง ช้างลักษณะดีจึงมักถูกเลี้ยงอยู่ในเมืองหลวงหรือหัวเมืองสำคัญๆ โดยมีกฎระเบียบระบุจำนวนช้างในครอบครองตามฐานะไว้อย่างเข้มงวด

เพราะช้างมีประโยชน์ครบเครื่อง ในการสงคราม ช้างศึกใช้เป็นพาหนะของแม่ทัพนายกองและออกรบ ส่วน ช้างป่าจะได้รับการฝึกปรือเพื่อใช้ลากปืนใหญ่ ขนสัมภาระและเสบียงอาหาร นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ราชสำนักเข้ามาควบคุมการค้าช้างอย่างเข้มงวด
ช้างไทยสินค้าส่งออก
การค้าช้างมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย แต่ยังเป็นการค้าในวงจำกัด ระหว่างชุมชนหรือเมืองที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกันนัก ด้วยเป็นสัตว์ใหญ่การขนส่งลำเลียงจึงค่อนข้างยุ่งยาก แต่สมัยอยุธยาการค้าช้างได้ขยายตัวกลายเป็นสินค้าส่งออกข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังดินแดนที่ห่างไกลออกไป
การค้าขายช้างน่าจะเริ่มมีขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถหรือรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ซึ่งเป็นช่วงเวลาบ้านเมืองสงบสุขปราศจากศึกสงครามใหญ่ และเจริญถึงขีดสุดในสมัยราชวงศ์ปราสาททอง

แต่สมัยอยุธยาช้างไม่ใช่สินค้าที่ใครจะใคร่ค้าได้ เพราะพระมหากษัตริย์ทรงสงวนสิทธิ์การค้าช้างเพียงพระองค์เดียว และไม่ทรงอนุญาตให้ผู้ใดทำการค้านี้
หนังสือ “สำเภากษัตริย์สุไลมาน” บันทึกการเดินทางของคณะทูตอิหร่านที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กล่าวว่า “ช้างเป็นสินค้าส่งออกสำคัญอย่างหนึ่งของสยาม ทุกปีพระมหากษัตริย์จะทรงจัดให้มีการคล้องช้าง โดยแต่ละครั้งจะจับช้างได้ราว 200-400 ตัว ช้างส่วนหนึ่งจะถูกฝึกให้เชื่องเพื่อใช้งานและส่งขาย”
นอกจากราชสำนักจะจับช้างเองแล้ว ยังอนุญาตให้ชาวบ้านจับช้างป่ามาใช้งานได้ แต่ต้องอยู่ในความควบคุมของทางราชการ ช้างบางเชือกยังถูกส่งมาเป็นค่าภาคหลวงแทนภาษีของราษฎรที่จ่ายให้แก่ราชสำนัก ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้ราชสำนักได้ช้างมาไว้ใช้และส่งออก โดยกรมคชบาลมีการฝึกช้าง ก่อนที่จะส่งออกไปจำหน่าย เพื่อไม่ให้ช้างตื่นระหว่างการขนส่ง
ตลาดค้าช้าง
ตลาดค้าช้างใหญ่ที่สุดคือบริเวณรอบอ่าวเบงกอล ส่วนเมืองท่าหลักที่ส่งออกช้างจากสยามมีอยู่ 2-3 จุด คือ เมืองทวาย, มะริด, ตะนาวศรี และตรัง จากเมืองท่าเหล่านี้ ช้างจะถูกลำเลียงไปยังเมืองท่าฝั่งตะวันออกของอินเดีย โดยมีตลาดรับซื้อใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ เมืองท่าของอาณาจักรเบงกอล และเมืองท่าแถบชายฝั่งโคโรแมนเดล

คุณลักษณะพิเศษของช้างจากสยามเป็นที่ถูกใจของลูกค้า เพราะฉลาด, ฝึกฝนง่าย, แข็งแรงอดทน, บรรทุกสัมภาระได้มาก ทั้งยังเหมาะกับภูมิอากาศของแคว้นต่างๆ ในอินเดีย เช่นป่าฝนเขตร้อนของเบงกอลเป็นต้น
ข้อมูลจาก “สำเภากษัตริย์สุไลมาน” ระบุว่า ราคาช้างในสยามตกอยู่ราวเชือกละ 20-25 ปอนด์อังกฤษ แต่ถ้าหากช้างรอดชีวิตจากการเดินทางและนำไปขายยังต่างประเทศจะได้ราคาถึง 100 ปอนด์ โดยสมัยสมเด็จพระนารายณ์ปีหนึ่งส่งออกช้างไทยราว 300 เชือก
อ่านเพิ่มเติม :
- “สุสานช้างหลวง” นิวาสสถานสุดท้ายของพระยาช้างสมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ที่ไหน?
- วัฒนธรรม “เข้าป่าล่าสัตว์” มาจากไหน? ย้อนรอยกำเนิดคติ “ลูกผู้ชายผจญภัย(ในป่า)”
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
ดร. จุฬิศพงศ์ จุฬารัตน์. “ช้างเป็นสินค้า ค้าช้างสมันอยุธยา” ใน, ศิลปวัฒนธรรม มกราคม 2547
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 16 พฤษภาคม 2568