ผู้เขียน | บดินทร์ธร เสนพรัตน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ใครจะคิดว่าศิลปะการเกล้าผมจากแดนอาทิตย์อุทัย จะกลายมาเป็นแฟชั่นยอดนิยมและเป็นภาพที่เห็นได้ทั้งในราชสำนักและหมู่ไพร่ฟ้าจากการริเริ่มของ “พระราชชายาเจ้าดารารัศมี”
จากหลักฐานรูปถ่ายที่มีอยู่เราจะเห็นการเกล้าผมอันเป็นภาพจำของพระราชชายาฯ อยู่เสมอ หลาย ๆ คนคงคิดว่าเป็นธรรมเนียมการเกล้าผมแบบทั่วไปในสยามหรือล้านนา แต่ความเป็นจริงแล้ว “ทรงผมพระราชชายา” นี้มีที่มาอันลึกซึ้งจากต่างชาติ นั่นคือ “ญี่ปุ่น”
ล้านนาช่วงก่อนก่อร่างสร้างรัฐชาติสมัยใหม่เป็นดินแดนที่มีเอกลักษณ์ และมีรากเหง้าวัฒนธรรมเป็นของตัวเองอย่างเด่นชัด รวมไปถึง เสื้อ ผ้า หน้า ผม ของผู้คน
โดยเฉพาะการไว้ผมยาวของหญิงล้านนา ซึ่งถือเป็นค่านิยมที่ปฏิบัติกันรุ่นสู่รุ่นในทุกช่วงวัย จึงจำเป็นต้อง “เกล้าผม” เพื่อความสะดวกเรียบร้อยในการดำเนินชีวิต
รูปแบบการมวยผมจะเป็นไปอย่างเรียบง่าย คือรวบไว้เหนือศีรษะ และประดับประดาด้วยดอกไม้ที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น หรือเครื่องประดับตามสถานะของหญิงสาวแต่ละคน
กรมศิลปากร และ สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคเหนือ เล่ม 1 ให้ข้อมูลถึงลักษณะ และรูปแบบการมวยผมของผู้หญิงล้านนาแบบดั้งเดิมเอาไว้ว่า แรกเริ่มเดิมทีนั้น “แม่ญิงเมือง” มีวัฒนธรรมการมวยผมอย่างหลากหลายแต่เรียบง่ายสวยงาม เช่น การเกล้าวิดว้อง การเกล้ามวยแบบชักหงีบ การเกล้าผมเหวิ้น การเกล้าผมอั่วช้อง ฯลฯ ซึ่งแต่ละแบบเป็นที่นิยมแตกต่างกันไปตามพื้นที่

เมื่อเข้าสู่ยุค “เจ้าดารารัศมี” พระธิดาใน “พระเจ้าอินทวิชยานนท์” เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7 ธรรมเนียมการเกล้าผมแบบใหม่ก็เกิดขึ้น และเป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่หญิงล้านนา
แม้ว่าเจ้าดารารัศมีจะต้องเข้ามาประทับอยู่ต่างบ้านต่างเมืองในกรุงเทพฯ เพื่อถวายตัวเป็นบาทบริจาริกา ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ด้วยพระชันษาเพียง 13 ปี แต่พระองค์ยังทรงทำนุบำรุง พัฒนาและต่อยอดศิลปวัฒนธรรม อัตลักษณ์ของล้านนาให้ดำรงอยู่ต่อไปอย่างเข้มแข็ง
กระนั้น พระองค์ก็มิทรงปิดกั้นวัฒนธรรมอื่น ๆ ทั้งยังทรงเปิดรับ และทรงนำมาประยุกต์ให้เข้ากับวิถีชีวิตอีกด้วย เช่น การเกล้าผมแบบ “อี่ปุ่น” (ญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นหนึ่งในการผสมผสานทางวัฒนธรรมอย่างลงตัว จากการที่พระราชชายาฯ ได้ทอดพระเนตรทรงผมอันวิจิตรของภริยาทูตจากญี่ปุ่น ที่เข้ามาในสยามพร้อมกับสามีเพื่อดำเนินนโยบายระหว่างประเทศในสมัยรัชกาลที่ 5
พระราชชายาฯ เกิดความประทับใจ กระทั่งทรงนำศิลปะการเกล้าผมนี้มาปรับใช้กับพระองค์เอง และเหล่านางข้าหลวงในพระตำหนัก โดยทรงผสมผสานกับวัฒนธรรมการแต่งกายแบบล้านนาได้อย่างมีอัตลักษณ์
ใน สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคเหนือฯ ให้ลักษณะของการทำผมในทรงนี้ไว้ว่า “เป็นการมวยผมที่คล้ายคลึงกับการมวยผมในลักษณะอื่นๆ แต่ทว่ามีความพิเศษจากการจัดแต่งผมในด้านหน้า ให้ยกขึ้นเป็นกรอบกระบังเพียงเล็กน้อย และเกล้ามวยไว้ผมไว้ด้านหลัง”

ช่วงนั้น ผมทรง “ดอกกระทุ่ม” เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในหมู่สตรีภาคกลาง ซึ่งมีความแตกต่างกับการเกล้าอี่ปุ่นอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากการเกล้าดอกกระทุ่มจำเป็นต้องตัดผมให้สั้นเตียน
ในขณะที่เกล้าแบบอี่ปุ่นเหมาะกับผมยาวที่ต้องมีการมวยผม สอดคล้องกับค่านิยมการไว้ผมยาวของหญิงล้านนาที่มีมาอย่างยาวนานอยู่พอดี
การเกล้าผมแบบอี่ปุ่นจึงเป็นหนึ่งสิ่งที่สะท้อนความสัมพันธ์และการไปมาหาสู่กันระหว่างสยามและญี่ปุ่นอย่างเหนียวแน่นในหลายมิติ ดังที่ได้มีปรากฏในงานเขียน “ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น 600 ปี” ของอิชิอิ โยเนะโอะ และ โยชิกาวะ โทชิฮารุ ไม่ว่าจะเป็นการทำสนธิสัญญาทางพระราชไมตรี การเข้ามาช่วยพัฒนาคุณภาพไหมไทย หรือแม้แต่การส่งข้าราชการของญี่ปุ่นเข้ามาเป็นที่ปรึกษาในทางกฎหมายของสยาม ฯลฯ
จากความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นดังกล่าว ประกอบกับการที่พระราชชายาฯ อยู่ในแวดวงชนชั้นปกครอง ที่ทรงมีโอกาสพบปะชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาในสยาม คงมิใช่เรื่องผิดแปลกหากจะมีการถ่ายทอด หรือแลกเปลี่ยนกันทางวัฒนธรรม สู่ธรรมเนียมการเกล้าผมแบบ “อี่ปุ่น”
เมื่อพระราชชายาฯ เสด็จกลับเชียงใหม่ บ้านเกิดเมืองนอนของพระองค์แบบถาวร ใน พ.ศ. 2457 พระองค์ยังทรงทำการเกล้าผมแบบอี่ปุ่นอยู่เสมอ การเกล้าผมลักษณะนี้จึงเริ่มเป็นที่นิยมในล้านนานับแต่นั้น

ครั้นมี “โอกาสพิเศษ” ที่จำเป็นจะต้องแต่งตัวให้สวยสดงดงาม หญิงล้านนาน้อยใหญ่ล้วนแล้วแต่เลือกการเกล้าผมแบบอี่ปุ่นเพื่อเสริมสร้างบุคลิกของตน จนกลายเป็นอัตลักษณ์อันเด่นชัดที่เราสามารถพบเห็นได้ผ่านสื่อต่าง ๆ มาจนถึงปัจจุบัน
กล่าวได้อย่างตรงไปตรงมาว่า วิธีมวยผมแบบญี่ปุ่นผ่านการผสมผสานเข้ากับการแต่งกายแบบล้านนาโดยพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ได้ส่งอิทธิพลต่อความเปลี่ยนแปลงของศิลปวัฒนธรรม “การเกล้าผม” ในภาคเหนืออย่างเห็นได้ชัด
อ่านเพิ่มเติม :
- เจ้าดารารัศมี “เมียโปลีซี” ของรัชกาลที่ 5
- “พระราชชายา” พระฐานันดรศักดิ์ที่รัชกาลที่ 5 ทรงสถาปนาให้ “เจ้าดารารัศมี” เพราะอะไร
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ (กรมศิลปากร). (2563). การเกล้าผมตามแบบฉบับแม่หญิงล้านนา. สืบค้นเมื่อ 21 เมษายน 2568, จาก https://www.finearts.go.th/promotion/view/34622-การเกล้าผมตามแบบฉบับแม่หญิงล้านนา
สมพล ไวโย และอุดม รุ่งเรืองศรี. (2542). การเกล้าผม. ใน สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคเหนือ (เล่ม 1). กรุงเทพฯ: มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์.
อิชิอิ, โยเนะโอะ และ โยชิกาวะ โทชิฮารุ. (2542). ความสัมพันธ์ไทย – ญี่ปุ่น 600 ปี. ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2. แปลโดย พลับพลึง คงชนะ, มารศรี มียาโมโต, และ อาทร ฟุ้งธรรมสาร. บรรณาธิการแปล ชาญวิทย์ เกษตรศิริ และ สายชล วรรณรัตน์. กรุงเทพฯ: มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 24 เมษายน 2568