
ผู้เขียน | วิภา จิรภาไพศาล |
---|---|
เผยแพร่ |
การทำอาหาร, งานเย็บปักถักร้อย, การประดิษฐ์ดอกไม้เครื่องหอม ฯลฯ ที่เรียกรวมๆ ว่า “วิชาของลูกผู้หญิง” เดิมมี “วัง” ของเจ้านายเป็นเสมือนสถาบันหรือสำนักถ่ายทอดวิชา แต่หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ก็เปลี่ยนมาเป็นการเรียนที่ “โรงเรียน” แทน
วิชาของลูกผู้หญิงเริ่มที่ “วัง”
พระตำหนักต่างๆ ของพระมเหสี, พระชายา, เจ้าจอมมารดา ฯลฯ ในเขตพระราชฐานชั้นใน มีความโดดเด่นในวิชาต่างๆ แตกต่างกันไป เช่น ตำหนักพระวิมาดาเธอฯ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ทรงมีพระอัจฉริยภาพด้านการปรุงอาหาร ตำหนักของพระองค์ก็ขึ้นชื่อเรื่องอาหาร

แม้วิชาการสำหรับลูกผู้หญิงจะเริ่มสอนกันตั้งแต่ในบ้าน แต่เทียบไม่ได้กับการสอนใน “วัง” ที่มีความประณีต, ใช้เวลา, มาตรฐานที่สูงกว่าทั่วไป ฯลฯ เพราะทำถวายเจ้านาย ที่สำคัญสิ่งที่ร่ำเรียนยังได้รับรองคุณภาพว่าเป็นอย่าง “ชาววัง” เช่น อาหารชาววัง
อาหารชาววังมีลักษณะพื้นฐานทั่วไปใกล้เคียงกับอาหารของชาวบ้าน แต่มีอัตลักษณ์สำคัญอยู่ที่ความหลากหลายและสดใหม่ของวัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหาร, วิธีทำที่ซับซ้อนประณีตต้องใช้เวลาและผู้คนจำนวนมาก, มีลักษณะแปลกตาและวิจิตรบรรจง, มีรสชาติกลมกล่อมเป็นหลัก
จาก “วัง” สู่ “โรงเรียน”
หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 การเรียนวิชาของลูกผู้หญิงได้เปลี่ยนสถานที่เรียนมาเป็นโรงเรียนแทน แต่ไม่ใช่โรงเรียนทั่วไป หากเป็น “โรงเรียนการเรือน”
โรงเรียนการเรือนแห่งแรกของประเทศ เกิดขึ้นเมื่อ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 ใช้ชื่อว่า “โรงเรียนมัธยมวิสามัญการเรือน” สังกัดกระทรวงธรรมการ โดยใช้วังกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ถนนลูกหลวง เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอน โดยมีคุณหญิงเพชรดา ณ ป้อมเพ็ชร เป็นอาจารย์ใหญ่
มีการเสนอข่าวการเปิดโรงเรียนอย่างคึกคักว่า “โรงเรียนสำหรับคุณหญิงคุณนาย”
ระยะแรกมีการเปิดการสอน 2 แบบ คือ 1. หลักสูตร 4 ปี ประกอบด้วยวิชาอาหารและโภชนการ, ศิลปะประดิษฐ์, การตัดเย็บเสื้อผ้า, การเลี้ยงดูเด็ก และการจัดและตกแต่งบ้าน สำหรับนักเรียนที่จบชั้นมัธยมต้น 2. หลักสูตรพิเศษ 1 ปี สำหรับอบรมครูจากจังหวัดต่างๆ โดยจุดมุ่งหมายยังไม่ใช่เพื่อประกอบอาชีพเช่นปัจจุบัน แต่เป็นการสอนให้เป็นแม่บ้านที่ดี
ปี 2480 โรงเรียนย้ายมาอยู่ที่วังจันทรเกษม (กระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน) และเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนการเรือนวังจันทรเกษม”

ปี 2484 ย้ายจากวังจันทรเกษมมาตั้งอยู่ในบริเวณสวนสุนันทา (พระราชอุทยานที่รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นด้านหลังพระที่นั่งอัมพรสถานในเขตพระราชวังดุสิต) เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนการเรือนพระนคร” บ้างเรียกโรงเรียนการเรือนสวนดุสิต (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต) นอกจากโรงเรียนการเรือนพระนครแล้ว ยังมีการขยายไปสู่โรงเรียนสายปัญญา
ทศวรรษ 2490 เกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อมีการสอนวิชา “คหกรรมศาสตร์” แบบอเมริกันในระดับอุดมศึกษา เริ่มที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในปี 2491 มีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเป็นผู้สอน และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างประเทศ เช่น มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ จนกลายเป็นสมาคมคหเศรษฐศาสตร์ ที่มีบทบาทส่งเสริมโภชนาการ, การครัว และการดูแลจัดการบ้าน
อ่านเพิ่มเติม :
- ที่มาของอาหารชาววัง “สายเยาวภา” สู่ตำราอาหารของพระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท
- ตำรับอาหารของท่านผู้หญิงกลีบ มหิธร จากอิทธิพลอาหารชาววัง คลุ้งกลิ่นอาย ไทย จีน แขก ฝรั่ง
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
สุนทรี อาสะไวย์. “กำเนิดและพัฒนาการของอาหารชาววัง กับการเป็นทุนวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยวบนตัวเกาะรัตนโกสินทร์” ใน, ศิลปวัฒนธรรม พฤษภาคม 2554.
ผู้เขียน (ไม่ได้ระบุ). สวนดุสิต จากอดีด ถึงปัจจุบัน, มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (ไม่ได้ระบุปีพิมพ์)
ชาติชาย มุกสง. “2475 กับการปฏิวัติรสชาติอาหาร: จากการกินเพื่ออยู่สู่การกินเพื่อชาติ และการต่อสู้ทางวัฒนธรรมของรสชาติในสังคมไทยร่วมสมัย” ใน, จาก 100 ปี ร.ศ. 130 ถึง 80 ปี ประชาธิปไตย, สถาบันนโยบายการศึกษา 2556
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 23 เมษายน 2568