ผู้เขียน | ปดิวลดา บวรศักดิ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ถ้าช่วงนี้ใครเป็นสายละครไทย แล้วได้ชม “คุณพี่เจ้าขาดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์” ที่ฉายผ่านทางช่อง 3 ละครย้อนยุคโรแมนติก อิงประวัติศาสตร์ จะเห็นว่า “โบว์ เมลดา” ที่รับบทเป็นบุญตาหรือนิทรา มักเรียก “ภณ ณวัสน์” ว่า “คุณหลวง” อยู่เสมอ ซึ่งก็มาจาก “หลวงทุกขราษฎร์”

แล้วสงสัยไหมว่า “ทุกขราษฎร์” นี้คืออะไร ใช่ชื่อไหม แล้วมีที่มาจากไหน?
ราชทินนาม “ทุกขราษฎร์” เป็นราชทินนามหนึ่งที่แปลก เพราะมีกันแทบจะทุกเมือง ยังไม่พบหลักเกณฑ์ว่าเป็นตำแหน่งที่ขึ้นกับใคร เท่าที่พบเก่าที่สุดในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีตำแหน่งพระยาทุกขราษฎร์ ที่เมืองพิษณุโลก ซึ่งต่อมาในรัชกาลที่ 1 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเจ้าพระยามหาเสนาบดีศรีสมุหพระกลาโหม
(ในหนังสือมหามุขมาตยานุกูลวงศ์ของ ก.ศ.ร. กุหลาบ กล่าวว่า ครั้งกรุงธนบุรีมีตำแหน่งเจ้าพระยาทุกขราษฎร์ [พยอม] เมืองนครศรีธรรมราช)
ในพงศาวดารเมืองนครศรีธรรมราชเล่าว่า เมื่อครั้งรัชกาลที่ 1 พม่าลงไปตีเมืองชุมพร เมืองสงขลา เมืองนครศรีธรรมราช เจ้าเมืองกรมการเมืองพัทลุงได้ข่าวว่าเมืองทั้งสามเสียแก่ข้าศึกแล้ว ก็ปรึกษากันว่าจะยกครอบครัวหนี แต่มีพระรูปหนึ่งชื่อมหาช่วย เป็นเจ้าอธิการวัดในแขวงเมืองพัทลุง ไม่ยอมหนี สำแดงวิชาเวทมนตร์ลงเลขยันต์ตะกรุดประเจียดมงคลให้แก่กรมการนายบ้านชาวเมืองทั้งปวง
คนเหล่านั้นก็นิยมยินดี ถือมั่นเอาสิ่งนั้นเป็นเครื่องป้องกันศาสตราวุธ พาให้ใจกล้าขึ้นถึงอาจสู้รบด้วยพม่าได้ กรมการจึงจัดพลได้พันเศษ แล้วเชิญท่านมหาช่วยอาจารย์ขึ้นคานหาม (นัยหนึ่งว่าขี่ช้างมาในกองทัพด้วย) ยกกองทัพออกมาตั้งคอยรบทัพพม่าอยู่กลางทางห่างเมืองพัทลุง พระมหาช่วยมีปืน 2 กระบอก ยัดดินส่งให้ศิษย์เดินยิงมาหน้าช้าง พม่าข้าศึกดูเห็นกองทัพใหญ่ยกมาก็แตกหนีไป
กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท วังหน้าในรัชกาลที่ 1 ทรงพระราชดำริเห็นว่า พระมหาช่วยเป็นผู้ที่ได้รับราชการมีความชอบมาก แต่ถ้าจะพิจารณาไปข้างหน้าที่สมณะก็เห็นว่ามัวหมองอยู่ จึงให้สึกออกจากบรรพชิต แล้วตั้งให้เป็น “พระยาทุกขราษฎร์” ผู้ช่วยราชการเมืองพัทลุง ทำราชการฝ่ายฆราวาส
นอกจากนี้ ในพงศาวดารเมืองล้านช้างกล่าวว่า เมื่อ พ.ศ. 2371 เมื่อคราวตีเมืองเวียงจันทน์ ก็ออกชื่อ พระยาทุกขราษฎร์ เมืองนครราชสีมา

ราชทินนาม “ทุกขราษฎร์” นี้ คงจะได้แต่งตั้งต่อๆ กันมาอีกหลายคนและหลายเมือง ได้ตรวจดูในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 ตอนที่ทรงพระกรุณาโปรดตั้งแต่งข้าราชการ มีข้อความตอนหนึ่งว่า “แล้วได้ตั้งตำแหน่งทุกขราษฎร์หัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายเหนือด้วยทั้งสิ้น”
ดังนี้แสดงว่าตำแหน่งทุกขราษฎร์มีทั้งใต้และเหนือ บางทีตำแหน่งนี้จะมีฐานะเป็นกรมการเมือง เพราะได้พบในพระราชพงศาวดารกรุงสยามหน้า 734 สมัยกรุงธนบุรีได้ออกนาม “พระยาทุกขราชกรมการ” ซึ่งเข้าใจว่าจะเป็น “พระยาทุกขราษฎร์” นั่นเอง
แต่ต่อมาในสมัยหลัง ตำแหน่งนี้ดูจะลดความสำคัญลง เพราะเหลือเพียงบรรดาศักดิ์หลวงเท่านั้น และปรากฏว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ไม่โปรดราชทินนามนี้ ดังมีหลักฐานว่าเมื่อ พ.ศ. 2396 วันหนึ่งเสด็จออก ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งเฉพาะพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นภูบาลบริรักษ์ว่า
“ชื่อหลวงทุกขราษฎร์ที่เรียกมาแต่ก่อนๆ นั้นหาชอบกลไม่ฟังดูเป็นทีประหนึ่งกระทำทุกข์ให้แก่อาณาประชาราษฎรให้ได้รับความเดือดร้อน”
รัชกาลที่ 4 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขนานนามใหม่ ด้วยพระราชหฤทัยจะมิให้นักปราชญ์ผู้มีปัญญาวิชารู้ภาษามคธสันสกฤตตริตรองละเอียด ตำหนิติเตียนคนโบราณได้ จึงเปลี่ยนราชทินนามใหม่เป็น “หลวงบรรเทาทุกขราษฎร์” หรือจะว่าแต่ “หลวงบรรเทาทุกข์” เท่านั้นก็พอจะฟังได้…
ทั้งหมดนี้คือที่มาของราชทินนาม “ทุกขราษฎร์” ของพระเอกนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม :
- ราชสกุลรัชกาลที่ 3 มีราชสกุลใดบ้าง?
- พระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่ 3 มีพระองค์ใดบ้าง ประสูติวันไหน?
- ทัศนะ “จอห์น ครอว์ฟอร์ด” ต่อราชอาณาจักรสยามในสมัยรัชกาลที่ 3
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
หนังสือ ขุนนางสยาม ประวัติศาสตร์ “ข้าราชการ” ทหารและพลเรือน. สนพ. มติชน, 2559
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 30 มกราคม 2568