ผู้เขียน | ปดิวลดา บวรศักดิ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
หลังจากสิ้นรัชสมัย “สมเด็จพระไชยราชาธิราช” “ขุนวรวงศาธิราช” ก็เถลิงอำนาจขึ้นแทน โดยมี “ท้าวศรีสุดาจันทร์” เป็นผู้สนับสนุนสำคัญ ทว่าครองราชย์ได้เพียงไม่นาน ก็เกิดการลอบปลงพระชนม์ขึ้น ก่อนจะเสียบศพประจานไว้ที่ “วัดแร้ง”
เหตุการณ์ที่วัดแร้ง
เหตุที่ทำให้เกิดการลอบปลงพระชนม์เป็นเพราะเหล่าขุนนางต่างไม่พอใจที่ ขุนวรวงศาธิราช ขึ้นเป็นกษัตริย์แบบไม่ชอบธรรม (อ่านเหตุการณ์ก่อนหน้าที่นี่) จึงทำให้ข้าหลวงต่างไม่พอใจ มองว่าแผ่นดินกำลังลุกเป็นไฟ ขุนพิเรนทรเทพ ขุนอินทรเทพ หมื่นราชเสน่หา หลวงศรียศ จึงตัดสินใจจะนำตัวขุนวรวงศาธิราชไปประหารชีวิตและคิดแผนกัน…
ในที่สุดก็ปรากฏว่าจะให้พระเทียรราชา (พระเจ้าอาของพระยอดฟ้า) ที่ขณะนั้นกำลังบวชอยู่ขึ้นแทน ก่อนจะเริ่มหาหนทางในการปฏิบัติการใหญ่และทำพิธีเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย
วันหนึ่งขุนวรวงศาธิราชทรงตัดสินพระทัยจะไปคล้องช้าง จึงทำให้เหล่าขุนนางใช้เหตุการณ์นี้ในการปลงพระชนม์พระองค์…
“ครั้นประมาณ ๑๕ วัน กรมการเมืองลพบุรี บอกลงมาว่าช้างพลายสูง ๖ ศอก ๔ นิ้ว หูหางสรรพต้องลักษณะติดโขลง สมุหนายกกราบทูลตรัสว่าเราจะขึ้นไปจับ อยู่อีก ๒ วันจะเสด็จ แล้วสั่งให้มีตราขึ้นไปว่าให้กรมการจับเสียเถิด ครั้นอยู่มาประมาณ ๗ วัน โขลงชักปกเถื่อนเข้ามาทางวัดแม่นางปลื้มเข้าเพนียดวัดซอง
สมุหนายกกราบทูล ตรัสว่าพรุ่งนี้เราจะไปจับ ครั้นเวลาค่ำขุนพิเรนทรจึงสั่งหมื่นเสน่หานอกราช ให้ออกไปคอยทำร้ายมหาอุปราชอยู่ที่ท่าเสื่อ สั่งแล้วพอพระยาพิชัย พระยาสวรรคโลกลงมาถึง ขุนพิเรนทรเทพจึงให้ไปบอกโดยความลับ
พระยาพิชัย พระยาสวรรคโลก ดีใจ จึงไปซุ่มซ่อนอยู่ที่คลองบางปลาหมอ กับด้วยขุนพิเรนทรเทพหลวงศรียศ หมื่นราชเสน่หาในราชการ ขี่เรือคนละลำ พลพายมีสาตราครบมือ ฝ่ายหมื่นราชเสน่หานอกราชการถือปืนไปแอบคอยอยู่ ทำอาการดุจหนึ่งทนายเลือก
ครั้นเห็นมหาอุปราชขึ้นช้างจะไปเพนียด หมื่นราชเสน่หาก็ยิงถูกมหาอุปราชตกช้างลงตาย ครั้งเช้าตรู่ขุนวรวงศาธิราชกับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ และราชบุตรที่เกิดด้วยกันนั้น ทั้งพระศรีสินก็ลงเรือพระที่ลำเดียวกัน มาตรงคลองสระบัว ขุนอินทรเทพก็ตามประจำมา
ฝ่ายขุนพิเรนทรเทพ พระยาพิชัย พระสวรรคโลก หลวงศรียศ หมื่นราชเสน่หาในราชการครั้นเห็นเรือพระที่นั่งมา ก็พร้อมกันออกสกัดขุนวรวงศาธิราชร้องไปว่า เรือใครตรงเข้ามา ขุนพิเรนทรเทพก็ร้องตอบไปว่า กูจะมาเอาชีวิตเองทั้งสอง
ฝ่ายขุนพิเรนทรเทพก็เร่งให้พายรีบกระหนาบเรือพระที่นั่งขึ้นมาแล้วช่วยกันเข้ากลุ้มรุมจับขุนวรวงศาธิราชกับนางอยู่หัวศรีสุดาจันทร์ และบุตรซึ่งเกิดด้วยกันนั้นฆ่าเสีย แล้วให้เอาศพไปเสียบประจานไว้ ณ วัดแร้ง แต่พระศรีสินนั้นเอาไว้ ขุนวงวรศาธิราชอยู่ในราชสมบัติ 5 เดือน”
ปัจจุบัน วัดแห่งนี้ อยู่ใน ต. คลองสระบัว อ. พระนครศรีอยุธยา จ. พระนครศรีอยุธยา และกลายเป็นวัดร้าง ไม่เหลือซากโบราณสถานใด ๆ ที่บ่งบอกถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเลย…
หมายเหตุ : หลักฐานแต่ละชิ้นกล่าวถึงเวลาที่ขุนวรวงศาธิราชครองราชย์ไม่เท่ากัน บางหลักฐานกล่าวว่า 42 วัน ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) กล่าวว่า 5 เดือน ส่วนคำให้การชาวกรุงเก่า กล่าวว่า 2 ปี
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
ประชุมพงศาวดาร เล่ม 38 (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 64) พงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม). องค์การค้าของคุรุสภา: กรุงเทพฯ, 2512.
https://www.matichon.co.th/entertainment/news_4472826
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 31 ตุลาคม 2567