ผู้เขียน | ปดิวลดา บวรศักดิ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
สงสัยไหม ทำไม “อโยธยา” ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น “อยุธยา” เกี่ยวข้องอะไรกับความไม่เป็นมงคลอย่างที่เคยเชื่อกันมาหรือไม่?
เรื่องการเปลี่ยนชื่อจาก “อโยธยา” เป็น “อยุธยา” ที่จริงแล้วอาจไม่ได้เปลี่ยนเพราะเหตุผลความไม่เป็นมงคลของชื่อก็เป็นได้ แต่เปลี่ยนมาตั้งแต่สมัย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือพระเจ้าอยู่ทอง ปฐมกษัตริย์แห่งอยุธยา ซึ่งพระองค์ทรงย้ายพระราชวัง
ข้อสันนิษฐานนี้เป็นของ “รศ. ดร. รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล” อาจารย์ประจำสาขาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ให้ความเห็นถึงการเปลี่ยนชื่อเมืองจากอโยธยาเป็นอยุธยา ไว้ในหนังสือ “อโยธยาก่อนสุโขทัย ต้นกำเนิดอยุธยา” (สำนักพิมพ์มติชน) ว่า…
การเปลี่ยนชื่อไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับนามที่ไม่เป็นมงคล ตามที่ ศาสตราจารย์ ประเสริฐ ณ นคร อดีตนายกราชบัณฑิตยสถาน และนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ พ.ศ. 2531 สันนิษฐานไว้ใน บทความ “ประวัติศาสตร์สุโขทัยจากจารึก” (จากปาฐกถาที่จุฬาฯ พ.ศ. 2531) ที่พิมพ์รวมในหนังสือ ประวัติศาสตร์เบ็ดเตล็ด พ.ศ. 2549
ว่า… ชื่ออโยธยาได้เปลี่ยนมาเป็นอยุธยา ใน พ.ศ. 2112 ที่เกิดเหตุการณ์เสียกรุงครั้งที่ 1 เนื่องจากชื่อเดิมไม่เป็นมงคล ทำให้ต้องเสียดินแดนไป
แต่เกิดจากการที่กษัตริย์อยุธยาต้องการย้ายพระราชวัง
อาจารย์รุ่งโรจน์ได้อธิบาย รวมถึงยกตัวอย่างไว้ ดังนี้…
“ประเสริฐ ณ นคร (อดีตนายกราชบัณฑิตยสถาน และนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ พ.ศ. 2531-ผู้เขียน) ได้เคยเสนอว่า กรุงอโยธยาได้เปลี่ยนมาเป็นกรุงศรีอยุธยา เพราะชื่อ ‘อโยธยา’ ไม่เป็นมงคลนาม เนื่องจากเมืองแห่งนี้กรุงหงสาวดี สามารถยึดครองได้แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนมีความเห็นที่แตกต่างดังประเด็นต่อไปนี้
ประเด็นที่ 1 ถ้าเชื่อว่าเปลี่ยนชื่อเพราะกองทัพกรุงหงสาวดีตีเมืองได้ ชื่อเก่าไม่เป็นมงคล เมื่อสงครามใน พ.ศ. 2310 เนเมียวสีหบดีสามารถกรีธาพลเข้ากรุงศรีอยุธยากวาดต้อนเชื้อพระวงศ์บ้านพลูหลวงไปกรุงอังวะได้ แต่เหตุใดเอกสารสมัยต้นรัตนโกสินทร์ก็ยังออกพระนามพระนครแห่งใหม่ที่บางกอกว่ากรุงศรีอยุธยา
ประเด็นที่ 2 จากหลักฐานเอกสารหมิงสือลู่ ชิงสือลู่ (บันทึกเรื่องจริงแห่งราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง-ผู้เขียน) ได้บันทึกพระนามพระนครศรีอยุธยาไว้ต่อดังนี้
1. วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 1987 ว่า ‘ต้าหมิงหวางตี่มีพระราชโองการไปยังกู่หรงโหยวตี่เซี่ย’
2. วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2025 ว่า ‘มีพระราชโองการแต่งให้ให้กั๋วหลงป๋อลาลู่คุนสี่โหยวตี่ [ยา] พระราชโอรสของพระเจ้ากรุงสยามเป็นกษัตริย์’
3. วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2030 ว่า ‘พระเจ้ากรุงสยาม กั๋วหลงโป่ลาลู่คุนซี่โหยวลียา’
4. วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2102 ว่า ‘พระเจ้ากรุงสยามปอเลี่ยคุนสีหลี่โหยวจีหยา’
5. วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2208 ว่า ‘เซินเลี่ยไพล่าเจ้ากู่หลงไพล่าหม่าฮูคุนซือโหยวถียาผูอาย’
จากตัวอย่างพระนามพระนครตั้งแต่ช่วงก่อนสงคราม พ.ศ. 2112 จนถึงรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่ปรากฏในเอกสารจีน แม้ว่ารูปศัพท์ในภาษาจีนจะไม่ตรงกัน แต่ออกสำเนียงในภาษาปักกิ่ง ‘โหยวตี้ยา’ ทั้งหมด
แสดงว่าหลังจากสงคราม พ.ศ. 2112 หรือหลังสงครามคราวเสียกรุงครั้งที่ 1 ไม่มีการเปลี่ยนนามเมืองหลวงแต่ประการใด ไม่เช่นนั้นการเรียกนามพระนครใน พ.ศ. 2208 จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง…
แม้คำว่า ‘โหยวตี้ยา’ อาจจะใกล้เคียงเสียง อโยธยาก็ตาม หากแต่เสียง ‘โหยว’ เป็นสำเนียงจีนกลางปัจจุบันไม่ใช่เสียงในสมัยราชวงศ์หมิงตอนต้นที่ร่วมสมัยกรุงศรีอยุธยาก่อนเสียงกรุงครั้งที่ 1
อีกทั้งในหมิงสือลู่ ได้ระบุว่าคนที่แปลภาษาไทยเป็นภาษาจีนนั้นเป็นทางกวางตุ้งจัดหาให้แก่ทางราชสำนัก ดังเช่นถ้าเสียงของตัว 尤 และ 由 ในสำเนียงจีนตอนใต้จะออกเสียงว่า อิ่ว”
จากข้อความดังกล่าวจึงทำให้คาดได้ว่า ชื่อเดิมก่อนสงครามเสียกรุงครั้งที่ 1 ใน พ.ศ. 2112 คือ “อยุธยา”
แม้หลักฐานอื่น ๆ เช่น “จารึกลานทองวัดส่องคบ” และ “จารึกศรีสองรัก” จะเขียนไว้ว่า “อโยธยา” ก็ตาม แต่นั่นก็เป็นจารึกที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับราชสำนัก จึงทำให้บันทึกไว้เป็นชื่อเดิม เหมือนกับที่ราชสำนักพม่าสมัยราชวงศ์คองบองเรียกกรุงศรีอยุธยาว่า “โยเดีย” ที่มาจากคำว่าอโยธยา
แล้ว “อโยธยา” เปลี่ยนชื่อมาเป็น “อยุธยา” ตั้งแต่เมื่อใด?
เรื่องนี้เจ้าของบทความบันทึกไว้ว่า “นามกรุงเปลี่ยนจากอโยธยามาเป็นอยุธยาในสมัยใด จากหลักฐานที่เก่าที่สุดที่ออกนามพระนครว่า กรุงศรีอยุธยา ปรากฏในบทพระราชปรารภของ ‘พระไอยการลักษณภญาน’ ประกาศไว้เมื่อปีขาล พ.ศ. 1894 เชษฐมาส (เดือน 7)
และถ้าคิดว่าพุทธศักราชในสมัยนั้นเร็วกว่าปัจจุบัน 1 ปี พ.ศ. 1894 จะตรงกับ จ.ศ. 812 คือปีที่สถาปนากรุงศรีอยุธยา ประกอบกับพระไอยการฉบับนี้ประกาศในเดือน 7 หลังจากการสถาปนาพระนครในเดือน 5 เพียง 2 เดือนเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เชื่อว่าเพราะสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ปฐมกษัตริย์แห่งอยุธยา สถาปนาพระนคร ตั้งพระราชวังหลวงแห่งใหม่บริเวณหนองโสน จึงได้เปลี่ยนนามจาก ‘อโยธยา’ มาเป็น ‘อยุธยา’”
หากให้สรุปเข้าใจง่ายก็คือ รศ. ดร. รุ่งโรจน์ คาดว่า อโยธยาไม่ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นอยุธยา ใน พ.ศ. 2112 หลังเสียกรุงครั้งที่ 1 เนื่องจากนามเดิมไม่เป็นมงคล อย่างที่ ศ. ประเสริฐ ณ นคร เสนอไว้ แต่อยุธยาได้ชื่อนี้มาตั้งแต่สถาปนาเมืองหลวงใหม่ที่หนองโสนแล้ว
ทว่าเรื่องราวของ “อยุธยา” และ “อโยธยา” ไม่ได้มีเพียงแค่นี้เท่านั้น เพราะในการศึกษาประวัติศาสตร์ยังเชื่อว่ามี “เมืองอโยธยา” ที่เกิดมาก่อน “อยุธยา” ซึ่งสามารถอ่านต่อได้ในหนังสือเล่มเดิม นั่นคือ “อโยธยาก่อนสุโขทัย ต้นกำเนิดอยุธยา” (สำนักพิมพ์มติชน)
อ่านเพิ่มเติม :
- “กรุงอโยธยา” ศูนย์กลางอำนาจแห่งแรกของไทย
- ทำไม “อโยธยา” ถึงเป็นเมืองที่ถูกบังคับให้สูญหาย?
- “จีน” ลูกค้ารายใหญ่ ซื้อข้าวอยุธยา ยุค “พระเจ้าท้ายสระ-พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ”
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล. อโยธยาก่อนสุโขทัย ต้นกำเนิดอยุธยา. กรุงเทพฯ: มติชน, 2567.
https://www.matichonweekly.com/column/article_726807
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 16 พฤษภาคม 2567