ผู้เขียน | กันตพงศ์ ก้อนนาค |
---|---|
เผยแพร่ |
อีกไม่นานนี้เราจะได้รับชมความยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์เรื่อง Mulan 2020 ได้นักแสดงที่มีชื่อเสียง เช่น หลิวอี้เฟย รับบทเป็น มู่หลาน หญิงสาวชาวบ้านตระกูลฮัวที่ปลอมตัวเป็นชายไปออกรบแทนพ่อ เจ็ทลี รับบทเป็น องค์จักรพรรดิ กงลี่ รับบท แม่มดตัวร้าย1 และนักแสดงอื่น ๆ อีกคับคั่ง
ก่อนหน้าที่ภาพยนตร์เรื่องมู่หลานฉบับคนแสดงของวอลต์ ดิสนีย์จะผลิตขึ้นมา เรื่องราวของมู่หลานได้ถูกนำมาผลิตเผยแพร่หลายครั้งในรูปแบบต่าง ๆ เช่น สื่อละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ วรรณกรรม เป็นต้น โดยเฉพาะมู่หลาน ฉบับการ์ตูนของวอลต์ ดิสนีย์ เมื่อปี 1998 ทำให้เรื่องราวของมู่หลานเป็นที่รู้จักของคนไปทั่วโลกและได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ชมที่เป็นเด็ก ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่บริษัทวอลต์ ดิสนีย์ให้ความสำคัญและพยายามผลิตภาพยนตร์การ์ตูนให้เด็ก ๆ ทั่วโลกยอมรับและรู้จักบริษัท
หากรับชมภาพยนตร์การ์ตูนของดิสนีย์อย่างผิวเผิน ผู้ชมจะได้รับความสนุกสนาน การผจญภัยต่าง ๆ ที่ตัวละครได้พบเจอ และลุ้นไปกับการพยายามแก้ไขปัญหาพร้อมทั้งจบลงอย่างมีความสุข แต่ถ้ารับชมอย่างวิเคราะห์พิจารณาจะพบว่า ภาพยนตร์การ์ตูนของดิสนีย์ได้แฝงแนวคิด สตรีนิยม หรือ Feminism ลงไปด้วย โดยแนวคิดดังกล่าวต้องการสร้างความเท่าเทียมระหว่างเพศหญิงและเพศชายเป็นสำคัญ ผู้หญิงควรได้รับอนุญาตให้มีสิทธิและโอกาสเช่นเดียวกับผู้ชาย และได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมเช่นเดียวกัน ซึ่งแนวคิดนี้ปรากฎอย่างแนบเนียนในภาพยนตร์การ์ตูนมู่หลาน ปี 1998
เนื่องในโอกาสครบรอบการสร้างภาพยนตร์การ์ตูนมู่หลาน ครบ 20 ปี ของบริษัทวอลต์ ดิสนีย์ เมื่อปี 2018 ได้มีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ คือ Tony Bancroft ถึงความประทับใจในการกระบวนการผลิตและภูมิใจ ที่จะทำให้เด็กผู้หญิงทุกคนที่รับชมให้กล้าหาญและมีความเป็นตัวของตัวเองในการเผชิญโลกกว้างเช่นเดียวกับมู่หลาน
“มู่หลานเป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงชาวจีนคนหนึ่งที่พยายามช่วยชีวิตพ่อด้วยการปลอมตัวเป็นชายเข้าร่วมในกองทัพเพื่อต่อสู้กับศัตรู เธอเป็นคนร่าเริงและมีความเป็นตัวของตัวเองในโลกที่มองว่าผู้หญิงเป็นแค่คนรับใช้และด้อยค่า…..ผมมีลูกสาวสามคน ผมภูมิใจมากที่ได้ทำภาพยนตร์การ์ตูนเจ้าหญิงรูปแบบใหม่ที่เป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นเขาเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งต่อไปได้”3
สิ่งที่ Tony Bancroft ได้บอกผ่านบทสัมภาษณ์นี้ทำให้ทราบว่ามู่หลานไม่ใช่การ์ตูนที่เด็ก ๆ รับชมได้เท่านั้น แต่ผู้ใหญ่เองก็รับชมได้เช่นกัน และนำไปต่อยอดในวงการวิชาการด้านภาพยนตร์ได้อีกด้วย
งานวิจัยเรื่อง ‘Disney’s Damsels’ A representation of femininity in Disney’s animated movies Snow White, Mulan, and Brave. ของ Maddy Salden ได้ทำการวิเคราะห์การนำเสนอความเป็นผู้หญิงผ่านตัวละครของดิสนีย์ กรณีศึกษาเรื่อง สโนไวท์, มู่หลาน และเบรฟว ไว้อย่างน่าสนใจในงานเขียนนี้จะกล่าวถึงมู่หลานเพียงกรณีศึกษาเดียว
ซึ่งมู่หลานตามงานดังกล่าวได้อธิบายว่า การนำศักดิ์ศรีมาสู่วงศ์ตระกูลของผู้หญิงหมายความว่า ผู้หญิงซึ่งแสดงออกในการ์ตูนเรื่องนี้จะต้องสุภาพ อ่อนหวาน พูดน้อย เป็นช้างเท้าหลังคอยช่วยเหลือสามีอันเป็นขนบธรรมเนียมการปฏิบัติของผู้หญิงในวัฒนธรรมของเอเชียที่เราคุ้นเคยกันดี ซึ่งแนวทางการปฏิบัตินี้ปรากฎในส่วนแรกของภาพยนตร์การ์ตูนมู่หลาน
มู่หลาน : ดอกไม้งามของดิสนีย์
นิสัยที่สดใส ร่าเริง มีความเป็นตัวของตัวเอง และที่แสดงออกอย่างตั้งใจ คือการมีความกตัญญูต่อพ่อของมู่หลาน จนทำให้เธอมีความกล้าที่จะฝ่าฝืนทำผิดกฎระเบียบของสังคม การปลอมตัวจากหญิงเป็นชาย เพื่อออกไปรบแทนพ่อนั้นเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไปจากการ์ตูนของดิสนีย์เรื่องอื่น ๆ ที่มักนำเสนอภาพของผู้หญิงที่อ่อนหวาน น่าทะนุถนอม ต้องมีสุภาพบุรุษรูปงามคอยออกมาปกป้องจากสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ เช่น สโนไวท์ ซินเดอเรลล่า เจ้าหญิงออโรร่า เป็นต้น
แต่มู่หลานเป็นตัวละครหญิงเพียงไม่กี่ตัวของดิสนีย์ที่พยายามสร้างความแตกต่างไปจากตัวละครหญิงอื่น ๆ สิ่งที่มู่หลานมี คือ ความกล้าหาญ จะเห็นได้จากบทภาพยนตร์ที่ปรากฎในบทสนทนาหลายช่วงที่พยายามสื่อออกมา เช่น เมื่อมู่หลานผิดหวังในการทดสอบจากการปฏิบัติตนจากแม่สื่อ เพื่อจะหาสามีที่ดีให้แก่หญิงสาวตามแนวทางค่านิยมที่ทุกคนต่างมองว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่มู่หลานไม่สามารถปฏิบัติได้ ไม่ใช่เพราะเธอต่อต้าน แต่เธอมีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่ไม่ยอมรับธรรมเนียม เพียงแต่เธอคือหญิงสาวที่กำลังอยู่ในวัยค้นหาต้นเองและพร้อมที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้พ่อยอมรับในการกระทำของเธอ
ซึ่งพ่อของมู่หลานรักและเข้าใจในความพยายามของลูกที่จะนำศักดิ์ศรีมาให้วงศ์ตระกูลปลอมใจลูกสาวใต้ต้นท้อในสวนว่า “ปีนี้ดอกท้อบ้านเราบานสะพรั่งกว่าทุกปี ดูนั่นสิ ดอกนั้นยังไม่บาน แต่พ่อมั่นใจว่าวันใดที่มันบาน มันจะเป็นดอกท้อที่งดงามกว่าดอกใด ๆ” หรือ ฉากที่องค์จักรพรรดิตรัสกับนายกองชาง หลังจากที่มู่หลานได้ช่วยเหลือองค์จักรพรรดิจากศัตรูได้แล้วนั้น ทรงชื่นชมมู่หลาน “บุปผาที่ผลิบานในยามยาก คือดอกไม้งามที่หายากเหนือมวลไม้ใด”
มู่หลาน คือดอกไม้งามที่ผลิดอกในยามยากของดิสนีย์ และแตกต่างไปจากดอกไม้งามดอกอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ แสดงออกมาให้เด็กผู้หญิงทั่วโลกชื่นชมความกล้าหาญของตัวละครอย่างมู่หลาน และแฝงนัยยะสำคัญคือการให้ผู้หญิงทั่วโลกกล้าหาญที่จะทำตามความฝันของตัวเอง โดยที่คนรอบข้างต้องเข้าใจและให้กำลังใจ เช่น พ่อของมู่หลาน
การมองคุณค่าของเพศหญิงผ่านความกตัญญู
นอกจากประเด็นความกล้าหาญในการค้นหาตัวเองของมู่หลานแล้ว ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ยังสอดแทรกค่านิยมในการมองคุณค่าของเพศหญิงผ่านความกตัญญู ในสังคมจารีตโบราณที่มองหญิงสาวเป็นเพียงผู้ตามที่ดีไม่ล้ำหน้าเพศชาย แบ่งแยกชัดเจนเรื่องหน้าที่ของชายและหญิง มู่หลานได้ทำหลายอย่างที่เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำในสังคมที่ชายเป็นใหญ่ กล้าที่จะพูดในสิ่งที่ตนคิด แต่ขัดหลักปฏิบัติของสังคม เช่น
กล้าที่จะพูดกับพ่อของตนเองว่าไม่ควรไปออกรบ เพราะเธอมองว่าพ่อชรามากแล้ว การออกรบจะทำให้พ่อเสียชีวิต สิ่งที่มู่หลานพูดไม่ใช่เพราะเธอโกรธพ่อ หรือชิงชังโครงสร้างทางสังคมที่ทำให้เรื่องราววุ่นวายต่าง ๆ เกิดตามมา เธอพร้อมจะแหกกฎระเบียบบางอย่าง เพื่อให้พ่อของเธอไม่ต้องโทษฐานหนีทัพ เพราะมู่หลานไม่สามารถปฏิบัติสิ่งใด ๆ ได้ดีไปกว่าหญิงสาวคนอื่น ๆ เพราะเธอยังไม่ค้นพบว่า ตนเองมีความสามารถถนัดด้านใดที่จะช่วยครอบครัวได้
แต่เนื้อหาส่วนนี้ไม่ได้ลงลึกรายละเอียดที่แท้จริงของสังคมจีนยุคโบราณว่า ถ้ามีหญิงที่ประพฤติเช่นมู่หลานจะได้รับการลงโทษอย่างไร ในความเป็นจริงอาจต้องโทษทั้งครอบครัวก็เป็นได้ ความสมจริงจุดนี้ได้ขาดหายไป เพื่อที่จะให้มู่หลานได้ปลอมตัวเป็นชายไปรบแทนพ่อ ซึ่งเป็นจุดสำคัญของเรื่อง
งานเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์การ์ตูนมู่หลาน ปี 1998 บางชิ้นได้แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากข้อความข้างต้นไว้ด้วย และมองว่าการกระทำของมู่หลานไม่ใช่ความกล้าหาญอย่างแท้จริง แต่เป็นเพราะสังคมที่เธออยู่เป็นสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ซึ่งผู้ชายที่ปรากฎในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้มัก “อ่อนแอ” จึงเป็นโอกาสที่ทำให้ผู้หญิงอย่างมู่หลานแสดงออกทางความคิดและความสามารถด้านต่าง ๆ ออกมาได้อย่างชัดเจนมากกว่าผู้ชายได้4
ความรักย่อมลงเอยด้วยการแต่งงาน…แต่ไม่ใช่สำหรับมู่หลาน
งานเขียนของ Maddy Salden อธิบายเรื่องราวความรักของมู่หลานที่แตกต่างออกไปจากตัวละครหญิงคนอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ของดิสนีย์ด้วย ความรักและการแต่งงานของมู่หลานเริ่มต้นจากความกล้าหาญที่กล้าเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่เป็นธรรมที่ครอบครัวเธอได้รับ ซึ่งผิดจากหญิงสาวทั่วไปที่สงบเสงี่ยมเรียบร้อยไม่แสดงทัศนคติใด ๆ ให้ใครล่วงรู้
การที่มู่หลานรับชัยชนะจากศัตรูของจักรวรรดิและได้รับดาบของศัตรูนำกลับมาให้พ่อ ทำให้พ่อภูมิใจในความสามารถของมู่หลาน ยายได้บอกแม่ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันว่า “ถ้าเจ้าถามข้า ข้าว่าจะดีกว่านี้ ถ้ามู่หลานนำผู้ชายกลับมาด้วย” บทสนทนานี้เป็นประโยคพูดติดตลกของยายมู่หลานที่งานเขียนของ Maddy Salden อธิบายว่า บทสนทนาดังกล่าวสะท้อนความสำคัญของการแต่งงานในวัฒนธรรมจีนโบราณ ที่ภาพยนตร์การ์ตูนมู่หลานได้แสดงออกให้ชัดเจนตั้งแต่ 5 นาทีแรกของการเปิดเรื่อง ตั้งแต่พ่อมู่หลานสวดอ้อนวอนให้วิญญาณบรรพบุรุษช่วยลูกสาวของตนในการได้คู่ครองที่เหมาะสมคู่ควร “ขอดวงวิญญาณของบรรพบุรุษช่วยให้มู่หลานต้องใจแม่สื่อที่ช่วยหาคู่ในวันนี้ด้วย” คำขอต่อบรรพบุรุษที่มีต่อลูกสาวไม่ได้หวังเพียงจะให้มู่หลานมีสามีที่ดี แต่ยังอยากให้ลูกสาวมีสุขภาพที่ดีและมีความสุข5
ฉากต่อมาของภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ได้แสดงการตระเตรียมการให้หญิงสาวทำความสะอาด แต่งกายด้วยผ้าแพรพรรณงดงาม ใช้เครื่องประทินผิวให้หน้าตาสวยสดเป็นที่ประทับใจแก่แม่สื่อผู้ที่จะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเธอและว่าที่สามีในอนาคต หากปฏิบัติดีเป็นที่ถูกใจแก่แม่สื่อก็นับได้ว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะพาเธอไปพบว่าที่สามีที่ดีได้ ถ้าไม่ผลที่ตามมาก็ย่อมเป็นตรงกันข้าม
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย หญิงสาวที่ต้องเข้าพบแม่สื่อนั้นไม่ต่างกับตุ๊กตาเซรามิคที่งดงามราวกับตั้งบนหิ้งได้ แต่กระบวนทั้งหมด Maddy Salden อธิบายว่าวิธีการต่าง ๆ ที่ตระเตรียมมาทั้งหมดเพื่อให้หญิงสาวงดงามเช่นนี้ได้ ไม่ใช่วิธีการที่ดีที่จะทำให้หญิงสาวพบความรักได้ วิธีการที่ปฏิบัตินี้เพื่อให้ฝ่ายชายพึงใจเพียงฝ่ายเดียวและได้หญิงสาวที่งามที่สุดไปเป็นคู่ครอง
ในเพลง “Honour To Us All” หรือชื่อภาษาไทยว่า “นำศักดิ์ศรีให้เรา” ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ที่เนื้อเพลงบรรยายขั้นตอนต่าง ๆ ที่ต้องปฏิบัติก่อนเข้าพบแม่สื่อ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำศักดิ์ศรีมาสู่วงศ์ตระกูลของหญิงสาว6 และแสดงให้เห็นด้วยว่าผู้ชายมีความกังวลต่อรูปร่างหน้าตาของผู้หญิง การเตรียมตัวของหญิงสาวจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งไม่มีส่วนใดเลยที่เกี่ยวข้องกับความรัก7 และยังแสดงให้เห็นถึงสังคมที่ชายเป็นใหญ่มีสิทธิ์เหนือผู้หญิง ผู้ชายมีสิทธิ์เลือก ขณะที่ฝ่ายหญิงต้องปฏิบัติตนเพื่อให้ถูกเลือก มู่หลานจึงเป็นตัวละครหญิงที่ดิสนีย์พยายามทำให้ต่างไปจากตัวละครหญิงอื่น ๆ
ตัวละครหญิงอื่น ๆ ของดิสนีย์มักได้ครองคู่กันจากการพบกันเพียงครั้งเดียวหรือไม่กี่ครั้ง ฝ่ายหญิงมักได้รับการช่วยเหลือจากฝ่ายชายเสมอ แต่มู่หลานคือตัวละครที่ช่วยฝ่ายชายให้พ้นภัยและรักกับนายกองชางจากการเผชิญความยากลำบากช่วงสงครามมาด้วยกัน การแต่งงานมักเป็นจุดลงเอยของตัวละครชายหญิงของดิสนีย์ สำหรับมู่หลานและนายกองชางช่วงสุดท้ายของภาพยนตร์การ์ตูนทั้งคู่อยู่ในช่วงเปิดใจเพื่อคบหากันเท่านั้น
เผชิญหน้าต่อความไม่เป็นธรรมและสู้ต่อไปด้วยใจที่กล้าหาญ
ภาพยนตร์การ์ตูนมู่หลานเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กผู้หญิงทั่วโลกที่ได้รับชมมีความมุ่งมั่นต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมที่พวกเธอได้รับ เช่น การแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ถึงภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้
“ฉันมาจากประเทศจีน ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความหมายกับฉันมาก ฉันเป็นลูกคนเดียวในครอบครัว ซึ่งหมายความว่าฉันต้องรับผิดชอบทุกอย่างในครอบครัวเพียงคนเดียว เมื่อพ่อแม่ของฉันชรามากขึ้น ขณะเดียวกันฉันต้องต่อสู้กับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้หญิงเป็นครั้งคราว มู่หลานเป็นตัวอย่างที่ดีของฉัน เธอไม่ใช่เจ้าหญิง แต่เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาที่เหมือนฉันและคุณ…..ฉันคิดว่านี่อาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเรื่องราวของมู่หลานเผยแพร่ไปทั่วโลกและคงอยู่ได้มานับพันปี”8
ที่กล่าวมาเป็นเพียงบางส่วนที่สามารถพบได้ในภาพยนตร์การ์ตูนมู่หลาน ปี 1998 อาจเป็นความจงใจของดิสนีย์ที่พยายามสอดแทรกค่านิยมสมัยใหม่ที่เห็นว่าถูกและควรลงไปในภาพยนตร์การ์ตูนที่บริษัทได้สร้าง ประเด็นต่าง ๆ ที่ภาพยนตร์การ์ตูนก่อนหน้านี้ของดิสนีย์ไม่ได้ใส่ไว้หรือมีแต่น้อยก็ได้ถูกนำมาถ่ายทอดและแสดงออกอย่างชัดเจนในมู่หลาน ปี 1998 นับได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีที่กระตุ้นให้เด็กผู้หญิงทั่วโลกกล้าหาญที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง กล้าที่จะตัดสินใจทำสิ่งที่ตนต้องการ ค้นหาความเป็นตัวตนอย่านำกฎระเบียบหรือความไม่เป็นธรรมในสังคมมาเป็นอุปสรรคในการพัฒนาความสามารถของตนเอง
เชิงอรรถ :
1 Imdb. (2020). Mulan (2020). (Online).
2 Cambridge dictionary. (2020). Feminism. (Online).
3 Kurt Manwaring. (2018). ‘Mulan’ turns 20: Director talks Donny Osmond and making a new type of Disney princess. (Online).
4 Kate Bellmore. (2020). Who Is This Girl I See?: Reflecting on Female Representation in Disney’s MULAN. (Online).
5 Maddy Salden. (2019). Disney’s Damsels’ A representation of femininity in Disney’s animated movies Snow White, Mulan, and Brave. p. 35
6 Youtube. (2563). นำศักดิ์ศรีให้เรา Honour To Us All (Thai) – มู่หลาน | Mulan. (Online).
7 lbid. p. 35
8 Youtube. (2563). Disney’s Mulan – Reflection (Original and Full Version). (Online).
บรรณานุกรม :
Cambridge dictionary. (2020). Feminism. Retrieved April 8; 2020, from https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/feminism
Imdb. (2020). Mulan (2020). Retrieved April 8; 2020, from https://www.imdb.com/title/tt4566758/
Kate Bellmore. (2020). Who Is This Girl I See?: Reflecting on Female Representation in Disney’s MULAN. Retrieved April 10; 2020, from https://reelclub.wordpress.com/2014/06/22/who-is-this-girl-i-see-reflecting-on-female-representation-in-disneys-mulan/
Kurt Manwaring. (2018). ‘Mulan’ turns 20: Director talks Donny Osmond and making a new type of Disney princess. Retrieved April 10; 2020, from https://www.heraldmailmedia.com/deseret/entertainment/mulan-turns-director-talks-donny-osmond-and-making-a-new/article
Maddy Salden. (2019). Disney’s Damsels’ A representation of femininity in Disney’s animated movies Snow White, Mulan, and Brave. Master thesis. Creative Industries Radboud University Nijmejen.
Youtube. (2020). Disney’s Mulan – Reflection (Original and Full Version). Retrieved April 10; 2020, from https://www.youtube.com/watch?v=J0lG8YorBsU.
Youtube. (2020). นำศักดิ์ศรีให้เรา Honour To Us All (Thai) – มู่หลาน | Mulan. Retrieved April 8; 2020, from https://www.youtube.com/watch?v=_ew7e6NT2LQ.
ปรับปรุงเนื้อหาในระบบออนไลน์ล่าสุดเมื่อ 15 เมษายน 2563