การ “สัก” เพื่อรักษาโรค

หลายคนคงเคยได้ยินและเคยเห็นถึงการสักลาย ซึ่งในปัจจุบันมีการสักอย่างแพร่หลายในเกือบทุกเพศทุกวัยการสักลายแต่ละคนมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็สักเพื่อความสวยงาม สักตามความเชื่อ สักเพื่อลงอาคม สักเพื่อแสดงสังกัดหรือเพื่อความเป็นหมู่พวกเดียวกัน ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน

แต่ถ้าเป็นการสักเพื่อ “รักษาโรค”? การสักเพื่อรักษาโรคหลายคนคงไม่คุ้นและไม่เคยได้ยินการสักแบบนี้ มาก่อน นิตยสารศิลปวัฒรธรรม ฉบับ ธันวาคม ๒๕๒๗ มีบทความเรื่อง “จิตรกรรมบนความเจ็บปวด” โดย สมชาย นิลอาธิ ในบทความตอนหนึ่งพูดเรื่องการสักเพื่อ “รักษาโรค” ไว้ว่า

การสักเพื่อรักษาโรคพบหลักฐานในอีสานทราบมาว่ามีการสักเพื่อรักษาโรคคือ “รักษาโรคปะดง” การสักดังกล่าวผู้สักจำเป็นจะต้องมีความรู้ความสามารถในด้านการรักษาโรคตามแผนโบราณด้วยจึงจะทำการสักได้ ซึ่งจะนิยมใช้น้ำมันที่เชื่อว่าจะเป็นยารักษาโรคดังกล่าวได้แทนหมึกดำและหมึงแดง ฉะนั้นเมื่อสักแล้วเสร็จรอยแผลสักจะหายจะไม่มีรอยอย่างการสักหมึกอยู่เลย

หมอจะให้ผู้ป่วยนอนลงเพื่อตรวจดูแนวปะดง แล้วจึงใช้เหล็กแหลมปลายเดียวที่เสียบกับปลายด้ามไม้จุ่มน้ำมันสักไล่ปะดงเป็นระยะ ๆ ตามความรู้และความเข้าใจของหมอเท่านั้น และจะสักกันสด ๆ โดยไม่ต้องเคี้ยวฝิ่นหรือผูกมัดกันเลย

ปัจจุบันการสักลายเพื่อรักษาโรคคงไม่มีให้เห็นแล้ว ด้วยยุคสมัยและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปการรักษาก็คงเปลี่ยนไป แต่การสักลายยังคงได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน ด้วยค่านิยมที่แตกต่างกันออกไป ทั้งด้านความเชื่อ ลวดลาย ล้วนขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้สักเอง