เปิดสูตรเด็ดความงาม ดูแล “ผิวหน้า-ผิวกาย” ของสาวไทยในอดีต ใช้อะไรกัน?

สุขภาพผิว
จิตรกรรมฝาผนังภายในอุโบสถ วัดภูมินทร์ (ภาพจาก www.finearts.go.th)

“สุขภาพผิว” ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก เมื่อเทียบกับอวัยวะอื่น แต่ถ้าผิวหนัง ที่เป็นเสมือนเปลือกบางๆ ที่ห่อหุ้มร่างกายเกิดเจ็บป่วยเสียหาย แม้ไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ก็สร้างความเดือดร้อนกวนใจ จนเสียความปกติสุขของชีวิตได้เช่นกัน

แล้วในอดีตที่ไม่มี สบู่, โฟมล้างหน้า, คลีนซิ่งออยล์, ครีมกันแดด ฯลฯ เขาใช้อะไรดูแล “สุขภาพผิว” 

เริ่มที่ สาวภาคกลาง การ “อาบน้ำ” ชำระร่างกาย ส่วนใหญ่ที่รับรู้กันคือใช้ “ขมิ้น” ถูตัวแทนสบู่ ใช้ “ส้มมะขาม” หรือ “น้ำมะขามเปียก” ขัดผิวแทนสครับ ใช้ “ดินสอพอง” แทนแป้งฝุ่น ที่ภาคอื่นๆ ใช้กันอยู่ ถ้าชาวบ้านทั่วไปแค่นี้ก็จบแต่งตัวได้

แต่ไม่ใช่สำหรับสาวชาววัง ที่ต้องบอกว่า “ยังไม่พอ” เพราะพวกเธอจะละลายน้ำปูนใสผสมกับน้ำขมิ้นสดถูกตัว จากนั้นเอาหม้อที่มีผลมะกรูด, ผลประคำดีควาย, เกลือ ที่ใส่น้ำต้มให้เดือดจัด มาตั้งในกระโจมอบให้เหงื่อออก พอหมดไอน้ำเป็นแค่น้ำอุ่นก็ผสมน้ำอาบ บ้างก็ล้างน้ำขมิ้นกับปูนแล้วชโลมน้ำส้มมะขามอีกพักใหญ่ ตามด้วยฝนแก่นจันทน์ชโลมตัว

ส่วนสาวภาคอื่นๆ ของไทยใช้อะไรกัน ขอยกตัวอย่างบางส่วนเฉพาะที่ต่างออกไปดังนี้

สาวใต้ ใช้ “เถาสะบ้า” มาทุบให้แผ่ออก แล้วตากแดดให้แห้ง เมื่อจะใช้ก็นำมาขยำกับน้ำให้เปียกและอ่อนตัว ใช้ถูตัวแทนสบู่ มีฟองและกลิ่นหอมอ่อนๆ สามารถใช้ล้างหน้าได้ด้วย

พวกเธอยังใช้ “น้ำมันปลิงทะเล” ที่ทำจากปลิงทะเลมาต้มกับน้ำมันมะพร้าว, น้ำมันมะรุม หรือน้ำมันมะกอก จนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน น้ำมันปลิงทะเลนี้ใช้ประหนึ่ง “ครีมกันแดด” คือ ทาก่อนออกแดด หรือรักษาผิวหน้าที่ถูกแสงแดด นอกจากนี้ยังใช้รักษาแผลที่หน้า เช่น แผลที่เกิดจากสิวอักเสบ, แผลหกล้ม, ถูกไฟลวก ฯลฯ ได้ด้วย

นอกจากนี้ ยังใช้ “ข้าวสาร” มาทำ “แป้งผัดหน้า” หรือ “หัวบุก” ที่ฝนผสมน้ำทาหน้า ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและฝ้าให้แลดูจางลง

ส่วน สาวเหนือ การอาบน้ำของพวกเธอจะใช้ “เสื้อมะขาม” หรือเส้นใยที่หุ้มเนื้อมะขาม มาขัดผิวขัดขี้ไคล บ้างก็ใช้ “ใบไคร้น้ำ” ขัดผิวก็มี นอกจากนี้มีบางคนเชื่อว่าการดื่มน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่นๆ จะทำให้ผิวสวย

ขณะที่ สาวอีสาน “อบไอน้ำ” ที่มีส่วนผสมของใบมะขาม, ใบมะกรูด, ใบพลับพลึง, ใบตองกล้วยน้ำว้าแห้ง, ขมิ้นทั้งต้นและหัว ใส่หม้อต้มให้เดือด อบทั้งผิวหน้าและผิวกาย ส่วนสมุนไพรที่ใช้ทาผิวก็มี จันทน์หอม, น้ำมันจันทน์ ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมีการ “ขัดผิว” โดยใช้ ว่านนางคำ, ใบบัวบก, ขมิ้นชัน, ขมิ้นอ้อย, เปลือกมังคุด, ชะเอมเทศ นำไปตากแห้งแล้วบดเป็นผง เวลาใช้ก็ผสมน้ำขัดผิวให้ทั่ว พอกทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออก ซึ่งนอกจากผิวจะขาวใสลดริ้วรอยแล้ว ยังลดสิวและผื่นคันอีกด้วย

ที่กล่าวมาข้างต้นก็แค่ส่วนเล็กๆ จากสูตรเด็ดเคล็ดลับและไม่ลับของแต่ละท้องถิ่นที่มีอีกมากเกี่ยวกับ “สุขภาพผิว” ถึงตรงนี้คงไม่ต้องห่วงแล้ว เพราะถึงจะไม่มี สบู่, โฟมล้างหน้า, คลีนซิ่งออยล์, ครีมกันแดด ฯลฯ แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับ “ผิวสวย” ของเธอแต่อย่างใด

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

ศาสตราจารย์สุกัญญา สุจฉายา บรรณาธิการ. สารานุกรมความงามด้วยภูมิปัญญาไทย, มูลนิธิสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ พิมพ์ครั้งที่ 1 มีนาคม 2559.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 7 พฤษภาคม 2567