“ท้าวจตุโลกบาล” เทวดารักษาทิศทั้ง 4 (อีกเวอร์ชัน) ที่ต่างจากคตินิยม มีใครบ้าง?

พระวรุณ ท้าวจตุโลกบาล จาตุมหาราช

“ท้าวจตุโลกบาล” เทวดารักษาทิศทั้ง 4 (อีกเวอร์ชัน) ที่ต่างจากคตินิยม มีใครบ้าง?

เมื่อกล่าวถึง “ท้าวจตุโลกบาล” หรือท้าวจาตุมหาราช เทพ-เทวดาผู้รักษาทิศทั้ง 4 ตามคติความเชื่อแบบพราหมณ์-ฮินดู และโหราศาสตร์ไทยโบราณ โดยทั่วไปจะประกอบด้วย ท้าวกุเวร ผู้รักษาทิศอุดร (ทิศเหนือ) ท้าวธตรฐ ผู้รักษาทิศบูรพา (ทิศตะวันออก) ท้าววิรูปักษ์ ผู้รักษาทิศประจิม (ทิศตะวันตก) และ ท้าววิรุฬหก ผู้รักษาทิศทักษิณ (ทิศใต้)

แต่ทราบหรือไม่ว่า ยังมีท้าวจตุโลกบาลอีกกลุ่ม จากสำนวนของ พระยาสัจจาภิรมย์ อุดมราชภักดี ในหนังสือ เทวกำเนิด ระบุถึงเทพเจ้า 4 องค์ ที่ต่างจากคตินิยมข้างต้นถึง 3 องค์ จะตรงกันก็เพียงท้าวกุเวรเท่านั้น ดังนี้

1. พระกุเวร ผู้รักษาทิศอุดร (ทิศเหนือ) ท้าวกุเวรหรือท้าวเวสสุวรรณ เป็นจอมยักษ์ เป็นเจ้าเหล่าอสูร รากษส ภูตผี เป็นผู้ดำรงอยู่ในสัตย์ธรรม รูปกายสีขาว ถือคฑา หน้าเป็นยักษ์ มีอาภรณ์ทรงมงกุฎอย่างงาม ทรงม้าขาว มเหสีชื่อ จารวี

ท้าวกุเวรกับทศกัณฐ์นับว่าเป็นลูกร่วมบิดาเดียวกัน (ท้าวลัสเตียน) และเป็นผู้ครองกรุงลงกามาแต่เดิม  ภายหลังถูกทศกัณฐ์น้องชายแย่งเมืองไป พระพรหมจึงสร้างเมืองให้ใหม่ ชื่อว่า อละกา หรือประภา อยู่ ณ เขาหิมาลัย ทั้งได้รับพรจากพรหมให้เป็นอมตะ และเป็นโลกบาลรักษาทิศอุดร

ท้าวกุเวร ท้าวเวสสุวรรณ
ท้าวกุเวร หรือเวสสุวรรณ เทพผู้เป็นใหญ่ในหมู่ยักษ์ รักษาทิศอุดร (เหนือ)

2. พระอินทร์ ผู้รักษาทิศบูรพา (ทิศตะวันออก) เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีรูปโฉมงดงาม ผิวคล้ำ (เขียว) โปรดการถือวัชระหรือสายฟ้าเพื่อใช้ปราบพฤตาสูร ผีร้ายแห่งความแห้งแล้ง พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ชอบเสวยน้ำโสม (สุรา) และมีมเหสีในเทวภูมิ 4 นาง ได้แก่ สุธรรมา สุชาดา สุนันทา และสุจิตรา ทั้งยังมีชายาและนางบำเรออีกนับล้านคอยปรนนิบัติ

แม้จะเป็นผู้มักมากในกาม แต่พระอินทร์ยังได้ชื่อว่าเป็นเทพผู้คอยปกปักษ์พระพุทธศาสนา และมีเมตตากรุณาช่วยเหลือมนุษย์อยู่บ่อยครั้ง

พระอินทร์ ทรงช้าง เอราวัณ ฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
ภาพวาดพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

3. พระวรุณ ผู้รักษาทิศประจิม (ทิศตะวันตก) พระวรุณหรือพระพิรุณ เป็นพระเชษฐาองค์แรกของเหล่าพระอาทิตย์ทั้ง 8 โอรสพระกัศยปเทพบิดรกับนางอทิติเทพมารดา พระวรุณเป็นใหญ่ทั้งในน้ำ ทะเล และอากาศ แต่ยุคหลัง ๆ ไปข้องเกี่ยวกับน้ำเป็นส่วนใหญ่ มีอีกนามว่า สินธุปตี

พระวรุณเป็นเทพร่วมชนก-ชนนีกับพระอินทร์ มีเมืองชื่อ วสุธา สถิตบนบุษปคีรี นับเป็นเทพรูปงาม มี 4 กร ถืออาโภค (ร่ม) บาศ ผิวกายขาวนวล รัศมีกายขาว อาภรณ์อย่างเดียวกับพระอินทร์ มีพาหนะเป็นมังกร บ้างเป็นจระเข้

พระวรุณ
พระวรุณ ภาพเขียนด้านทิศตะวันตกของโดมภายในห้องพระบรรทม (ภาพจากหนังสือ Prince Naris a Siamese Designer โดย ผศ.ดร .ม.ล.จิตตวดี จิตรพงศ์ พระปนัดดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์)

4. พระยม ผู้รักษาทิศทักษิณ (ทิศใต้) พระยมหรือพระธรรมเทพ เป็นเทพเจ้าแห่งคนตาย ผู้ชั่งบุญ-บาปของวิญญาณมนุษย์ที่วายชนม์ พระยมมีสีกายเลื่อมประภัสสร (สีเหมือนพระอาทิตย์แรกขึ้น) รูปร่างใหญ่โต ตาแดงดุจไฟ เขี้ยวงอกแหลม ทรงภูษาแดง ถือพระขรรค์กับเขน บ้างว่าถือกระบองกับเชือกบาศ นั่งบนสิงหาสน์ หรือหลังมหิงสา (ควายป่า) มีชายา 13 นาง ซึ่งล้วนเป็นธิดาพระทักษปชาบดี

“นรกภูมิ” หรือยมโลก คือเมืองของพระยม เป็นดินแดนที่มีขนาดใหญ่โต มีเขตสำหรับทรมานสัตว์บาปทั้งหลาย ในทางไสยศาสตร์เชื่อว่าอยู่นอกขอบจักรวาลในทิศทักษิณ

พระยม ยมราช พระธรรมเทพ
พระยม ในคติอินเดีย ทรงกระบองยมทัณฑ์ บ่วงยมบาศ ทรงกระบือเป็นพาหนะ มียมทูตเป็นบริวาร (ภาพจาก British Museum)

อย่างไรก็ตาม แม้แต่ท้าวจาตุมหาราชตามคตินิยมเองก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่รู้จัก หรือทราบบทบาทจริง ๆ ของพวกท่านเทวตำนาน โอกาสหน้าจึงจะขอเล่าเรื่องราวท้าวมหาราชทั้ง 4 ในเวอร์ชันนี้ให้ได้ทราบกัน

อ่านเพิ่มเติม : 

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง : 

พระยาสัจจาภิรมย์ อุดมราชภักดี. (2474). เทวกำเนิด. อยุธยา : ไม่ระบุสำนักพิมพ์.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 10 มกราคม 2568