ทำไมงูถึงมี “ลิ้นสองแฉก” ? และที่มาของ “พิษงู” จากตำนานอสรพิษในคัมภีร์ฮินดู

งูพิษ พิษงู ลิ้น 2 แฉก ลิ้นสองแฉก
(ภาพโดย Obaid Rehman ใน Pixabay)

ทำไมงูถึงมี “ลิ้นสองแฉก” ? และที่มาของ “พิษงู” จากตำนานอสรพิษในคัมภีร์ฮินดู

คำว่า อสรพิษ หมายถึงสัตว์ที่มีพิษในเขี้ยว มักหมายถึง งูพิษ แต่เคยสงสัยไหมว่า “พิษงู” ถูกบอกเล่าในเชิงเทวตำนานอย่างไรบ้าง? คัมภีร์วิษณุปุราณะเล่าถึงตำนานกำเนิดพิษร้ายในงู และที่มาของ “ลิ้นสองแฉก” ของสัตว์ชนิดนี้ ดังนี้

กาลก่อนเมื่อครั้งเหล่าเทพเทวดายังไม่เป็นอมตะ มีวันหนึ่งพระอินทร์ประทับมาบนหลังช้างเอราวัณ และได้พบกับฤๅษีทุรวาส ซึ่งเหาะไปเที่ยวกลับมา ฤๅษีผู้มีฤทธิ์จึงนำมาลัยที่นางฟ้าถวายให้ตนถวายให้กับพระอินทร์

พระอินทร์ทรงนำพวงมาลัยวางบนบ่าช้างเอราวัณ แต่กลิ่นหอมของดอกไม้สวรรค์ทำช้างเอราวัณเมาคลั่ง ชูงวงคว้าพวงมาลัยกระทืบทิ้ง ฤๅษีทุรวาสเห็นดังนั้นนึกโกรธแค้นเป็นกำลัง จึงสาปให้เทวดากำลังลดลงกึ่งหนึ่งเสมอเมื่อรบกับอสูร

ตั้งแต่นั้นมา เมื่อเทวดามีเรื่องกับอสูรทั้งหลายและเกิดการรบราฆ่าฟันกัน ฝั่งเทวดามักจะตกตายกันเป็นจำนวนมาก จึงพากันไปเฝ้าพระนารายณ์เพื่อแก้คำสาปดังกล่าว

พระนารายณ์ทรงแนะนำให้ทำพิธี “กวนเกษียรสมุทร” หรือการกวนทะเลน้ำนม ที่บรรทมของพระองค์ โดยให้เทวดาเก็บสมุนไพรต่าง ๆ ทิ้งลงในทะเลน้ำนม นำภูเขามันทรเป็นแกนกลาง ปักลงในทะเลน้ำนม ให้พญานาควาสุกรีต่างเชือก พันรอบภูเขา แล้วให้ 2 ฝ่าย เทวดาและอสูรช่วยกันดึงไปมา

กวนเกษียรสมุทร ทะเลน้ำนม
การกวนเกษียรสมุทรทะเลน้ำนม (ภาพจาก Wikimedia Commons)

การกวนเกษียรสมุทรดำเนินอยู่อย่างนั้นถึง 1,000 ปี จึงบังเกิด “ของทิพย์” 14 ประการ อาทิ นางอัปสร พระจันทร์ สังข์ น้ำอมฤต ฯลฯ ลอยขึ้นจากทะเลน้ำนม หนึ่งในนั้นคือ “พิษร้าย”

พระอิศวรเกรงว่าหากพิษนั้นแพร่ลงไปยังโลกมนุษย์ สัตว์โลกจะตายกันหมด จึงทรงกลืนพิษนั้นเอาไว้ 

แต่ขณะทรงวักพิษเข้าพระโอษฐ์ พิษส่วนหนึ่งได้ตกกระจายอยู่ตามยอดหญ้า แมงป่องมาพบเข้าก็เอาหางจิ้มลงในพิษ พิษก็ไปติดอยู่ที่หางแมงป่อง

ด้านงูมาพบพิษบ้าง ก็แลบลิ้นเลียเพื่อกลืนกินพิษนั้น ทำให้พิษติดอยู่ที่ลิ้นงู ขณะเดียวกันก็โดนใบหญ้าบาดลิ้นแยกเป็นสองแฉกนับแต่นั้น

อีกตำนานที่อธิบายว่าทำไมงูมีลิ้นสองแฉก เล่าถึงภารกิจช่วยมารดาของพญาครุฑ หลังจากนางหลงกลจนตกเป็นทาสมารดาของเหล่านาค (เจ้าของเหล่าอสรพิษ) พญาครุฑจึงอาสาไปเอา “น้ำอมฤต” มาให้พวกนาคดื่ม

เมื่อไถ่ตัวมารดาสำเร็จ พญาครุฑระบายความแค้นด้วยการออกอุบายให้เหล่านาคชำระกายก่อนดื่มน้ำอมฤต ระหว่างนั้นได้แอบเอาเท้าเขี่ยคนโท จนน้ำอมฤตหกกระจายอยู่ตามยอดหญ้า นาคมาพบเข้าเกิดนึกเสียดายก็ใช้ลิ้นเลียตามใบหญ้า จึงถูกบาดออกเป็นสองแฉก

นาค ครุฑ รอยพระพุทธบาท
“นาค” บนรอยพระพุทธบาทวัดเสด็จ จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (ภาพจาก เว็บไซต์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร)

ส่วนสำนวน ลิ้นสองแฉก ซึ่งเปรียบกับคนพูดสับปลับกลับกลอกและไว้ใจไม่ได้นั้น มาจากการที่ลิ้นเป็นอวัยวะไร้กระดูก ยากควบคุม เลยถูกเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของมนุษย์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ประกอบกับความเป็นอสรพิษที่พร้อมสร้างอันตรายแก่ผู้ไม่ระวังตนได้เสมอ ลิ้น (2 แฉก) ของงูจึงสะท้อนความร้ายกาจข้างต้นได้เด่นชัดที่สุด

อย่างไรก็ตาม สำนวนเกี่ยวกับ “ลิ้น” ยังอยู่แง่ดี ๆ อยู่ เช่น ลิ้นทูต หรือลิ้นทอง ที่เปรียบถึงคนมีศิลปะในการพูด พูดคล่องแคล่ว ไพเราะน่าฟัง ดังนกสาริกา

อ่านเพิ่มเติม : 

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :  

กรุงเทพธุรกิจ, กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร. อาศิรวิษนักษัตร เปิดตำนานอสรพิษรับปีมะเส็ง 2568. 6 มกราคม 2568. (ออนไลน์)

สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น. ภาพสลักการกวนเกษียรสมุทร. สืบค้นเมื่อ 6 มกราคม 2568. (ออนไลน์)

ไทยบันเทิง Thai PBS. เพียงคำเดียว “ลิ้น” ในสำนวนสื่อคำพูด. 14 สิงหาคม 2562. จาก https://www.facebook.com/watch/?v=2331117807206537


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 6 มกราคม 2568