| ผู้เขียน | สุทธาสินี จิตรกรรมไทย เจียจันทร์พงษ์ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ช่วงเวลาที่หลายคนเผชิญวิกฤตในชีวิต นอกจากสมองและสองมือ บวกความมุ่งมั่นที่จะทำให้สามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ ขวัญและกำลังใจก็สำคัญไม่แพ้กัน อย่าง “การบินไทย” ที่ช่วงโควิดเป็นหนี้กว่าแสนล้านบาท แต่ด้วยทักษะและประสบการณ์ของผู้นำอย่าง ชาญศิลป์ ตรีนุชกร อดีตซีอีโอ ปตท. ที่งัดทุกกลยุทธ์มาใช้ บวกกับการผสานความร่วมมือของชาวการบินไทย พร้อมๆ กับการมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเสริมสร้างกำลังใจ คือ พระพุทธมิ่งมงคลปสิทธิผลธาดา ศูนย์รวมศรัทธาของชาวการบินไทย ทำให้ปัญหาและความหนักอึ้งต่างๆ ค่อยๆ คลี่คลายไปได้ในที่สุด
“พระพุทธมิ่งมงคลปสิทธิผลธาดา” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งการบินไทย
ชาญศิลป์ ตรีนุชกร อดีตรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย เล่าไว้ใน “พลิกฟ้า ฝ่าวิกฤต การบินไทย” ที่เขากลั่นทุกประสบการณ์การทำงานในการบินไทย เขียนออกมาเป็นหนังสือว่า
ช่วงที่เป็นผู้นำการบินไทยฝ่าวิกฤตทั้งหลาย สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือขวัญและกำลังใจของบุคลากรทุกคน เพราะฉะนั้นนอกจากการทำงานโดยวางกลยุทธ์อย่างรัดกุม สิ่งที่จำเป็นต้องเสริมสร้างคือเรื่องพลังใจ-พลังศรัทธา
เขาเล่าว่า ด้านหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ของการบินไทย บนถนนวิภาวดี มีการสร้างศาลาขนาดใหญ่ไว้ และมีแผนจะอัญเชิญพระพุทธรูปปางมารวิชัย ลักษณะเดียวกับพระพุทธชินราช มาประดิษฐาน แต่ก็มีคนเชื่อซินแส เลยนำพระไปเก็บไว้บนอาคารสำนักงาน อาคาร 5 ชั้น 27 แทน
ก่อนหน้านั้นก็มีแผนจะอัญเชิญลงมาถึง 3 ครั้ง 3 คราว แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครทำได้ ต้องล้มเลิกไปทุกครั้งเพราะเชื่อซินแส
อยู่มาวันหนึ่ง พละ สุขเวช อดีตผู้ว่าการ ปตท. มาที่สำนักงานใหญ่พร้อมซินแส เมื่อพละเห็นว่าศาลาใหญ่ด้านหน้าอาคารไม่มีพระ มีแต่ศาลาเปล่าๆ จึงทักชาญศิลป์ว่า “ทำไมศาลาด้านหน้าไม่มีพระ มีอาจารย์บอกว่าศาลาถ้าไม่มีพระ เดี๋ยวผีจะมาอยู่แทนนะ”
อดีตรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) ที่พลิกการบินไทยจากขาดทุนมาเป็นกำไรได้ในที่สุด เล่าอีกว่า ในเมื่อการบินไทยมีพระพุทธชินราชองค์ใหญ่ที่รับมานานแล้ว แต่เก็บไว้บนอาคาร ก็ควรจะอัญเชิญลงมาให้ชาวการบินไทยได้สักการบูชาที่ศาลาหน้าอาคาร เพื่อเป็นพระประจำสำนักงานใหญ่
“เขาว่าศักดิ์สิทธิ์มากนะครับองค์นี้ เพราะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธฯ ทรงประกอบพิธีเบิกเนตร และมีพระบรมสารีริกธาตุ เถ้าอัฐิพระพุทธเจ้าอยู่ในเศียร” ชาญศิลป์เล่าในหนังสือ “พลิกฟ้า ฝ่าวิกฤต การบินไทย”
ตอนนั้น ยังมีหลายคนกล้าๆ กลัวๆ เพราะยังเชื่อซินแสที่แนะนำให้ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์นี้ไว้ที่อื่นก่อน ชาญศิลป์จึงเดินหน้าเก็บข้อมูล จนได้ความว่า ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) หรือ “สมเด็จธงชัย” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร แนะนำให้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้มาอยู่ที่นี่ ซึ่งท่านได้ช่วยกำหนดทิศและกำหนดตำแหน่งสร้างศาลาไว้ให้แล้ว ซึ่งศาลาที่ทำไว้ก็หันหน้าไปทางทิศตะวันตก
ดังนั้น พระประจำศาลาแห่งนี้จะต้องเป็นพระพุทธชินราชองค์นี้เท่านั้น เพราะพระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปองค์เดียวที่หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก และพระพุทธชินราชที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จังหวัดพิษณุโลก ก็หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตกเช่นกัน
ชาญศิลป์จึงเริ่มปรับปรุงศาลาให้พร้อมสำหรับการประดิษฐานพระพุทธรูปอีกครั้ง และปรึกษา ปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย เมื่อปิยสวัสดิ์ไม่ขัดข้อง เขาจึงลุยเต็มที่
ส่วนพระสงฆ์ที่จะนิมนต์มาประกอบพิธี ต้องนิมนต์ “สมเด็จธงชัย” เท่านั้น
เสริมพลังใจด้วยพลังศรัทธา
ชาญศิลป์ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า
“ให้ใครไปนิมนต์ก็ไม่มีใครยอมไปครับ เพราะได้ข่าวว่าก่อนหน้านี้การบินไทยนิมนต์ท่านมาทำพิธีอัญเชิญแล้ว 3 ครั้งแต่ก็ยกเลิกท่านไปทั้ง 3 ครั้ง ผมจึงส่งคุณหนึ่ง-กิตติพงษ์ (กิตติพงษ์ สารสมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้าและการตลาด) ผู้ใกล้ชิดกับวัดและคุยกับพระและรู้เรื่องแบบนี้มากที่สุดเพราะเป็นศิษย์วัดบวรฯ ไปนิมนต์สมเด็จธงชัยฯ อีกครั้งครับ
คุณหนึ่งหายไป 2 วันครับ กลับมาบอกผมว่า ‘ผมแย่เลยครับท่านชาญศิลป์ ถูกสมเด็จธงชัยฯ เทศนาสั่งสอนอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมงว่าไม่เชื่อพระไปเชื่อซินแส ผมก็ได้แต่ยอมสารภาพมอบตัวทุกอย่าง และบอกท่านว่าหลวงพ่อชินราชองค์นี้ท่านเจ้าพระคุณกรุณาแนะนำการบินไทยไว้ ช่วยกรุณาไปทำต่อให้เสร็จเถอะครับท่าน”
สุดท้าย สมเด็จธงชัยก็ให้ความเมตตา และรับนิมนต์มาทำพิธีให้ชาวการบินไทย
วันที่ 13 กรกฎาคม 2564 เป็นวันมงคลของชาวการบินไทย เพราะเป็นวันประกอบพิธีอัญเชิญและสมโภช “พระพุทธมิ่งมงคลปสิทธิผลธาดา” สมเด็จธงชัยเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ชาญศิลป์เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมด้วยสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการ DD และฝ่ายบริหารฯ ร่วมพิธี ที่ศาลาด้านหน้าอาคารสำนักงานใหญ่การบินไทย ถนนวิภาวดี
“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่ออีกเช่นกันครับ หลังจากที่เราอัญเชิญพระพุทธชินราชลงมาประดิษฐานบนศาลาด้านหน้าอาคารสำนักงานใหญ่แล้ว เราก็มีแต่เรื่องที่เป็นสิริมงคล สถานการณ์ของการบินไทยของเราก็ปรับตัวดีขึ้นเป็นระยะ พนักงานและผู้บริการเราก็มีขวัญและกำลังใจมากขึ้นครับ” ชาญศิลป์สรุป
อ่านเพิ่มเติม :
อ้างอิง :
ชาญศิลป์ ตรีนุชกร. พลิกฟ้า ฝ่าวิกฤต การบินไทย. กรุงเทพฯ : มติชน, 2567.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 11 ตุลาคม 2567
