“แม่โพสพ” ชื่อเทวดาหญิงผู้ดูแลข้าว มาจากไหน แท้จริงคือท้าวเวสสุวรรณ?

พระแม่โพสพ
แม่โพสพ (ซ้าย) ด้านข้างซ้าย  (กลาง) ด้านหน้า (ขวา) ด้านข้างขวา [ลายเส้นจากบทความเรื่อง “แม่โพสพ” ของ เสฐียรโกเศศ ใน ศิลปากร นิตยสารของกรมศิลปากร ปีที่ 3 เล่ม 1 (มิถุนายน 2492) หน้า 76-84]

“แม่โพสพ” ถือเป็นเทวดาหญิงที่มีความสำคัญกับการทำนาของไทยอย่างมาก เพราะชาวนาเชื่อว่าท่านเป็นผู้ปกปักรักษาดูแลให้ผลผลิตเจริญงอกงามอุดมสมบูรณ์ จนเกิดวลีที่ได้ยินกันทั่วไปว่า “อย่าทานข้าวเหลือ แม่โพสพจะเสียใจ”

แม่โพสพ
แม่โพสพ (ซ้าย) ด้านหน้า (กลาง) ด้านข้างขวา (ขวา) ด้านข้างซ้าย [ลายเส้นจากบทความเรื่อง “แม่โพสพ” ของ เสฐียรโกเศศ ใน ศิลปากร นิตยสารของกรมศิลปากร ปีที่ 3 เล่ม 1 (มิถุนายน 2492) หน้า 76-84]
แต่รู้หรือไม่ว่า ในอดีต “แม่โพสพ” ไม่ได้ถูกเรียกด้วยชื่อนี้ แต่คนเรียกว่า “แม่ข้าว” แล้วแม่โพสพมาจากไหน? ทำไมกลายมาเป็นชื่อใหม่ของแม่ข้าว

แม่โพสพ

ชื่อแม่โพสพ ปรากฏเก่าก่อนสมัยอยุธยาเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากพบในพระอัยการเบ็ดเสร็จ (มหาศักราช 1263) พ.ศ. 1884 (อยุธยาสถาปนาเมื่อ พ.ศ. 1893)

แม่โพสพ เป็นคำที่กลายมาจาก “พระไพศพ” พบในทวาทศมาส โคลงในสมัยต้นอยุธยา คำว่าไพศพนี้มีที่มาจากภาษาสันสกฤตอย่าง ไพศฺรพณะ (ไวศฺรวณะ) หรือในภาษาบาลีว่าเวสฺสวณฺ ซึ่งเป็นอีกชื่อหนึ่งของ “ท้าวเวสสุวรรณ” หรือ “ท้าวกุเวร” หลังจากได้รับการยกย่องให้เป็นเทพแห่งข้าวเปลือก

จึงทำให้ทราบว่า “โพสพ” มาจากชื่อ “พระไพศพ” หรือท้าวเวสสุวรรณ เทพแห่งความมั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์ ทั้งยังเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในหมู่อสูรและรากษส (ยักษ์ร้าย, ผีเสื้อนํ้า, อสูรชั้นต่ำ) อย่างที่ สุจิตต์ วงษ์เทศ กล่าวไว้ในบทความ “ท้าวเวสสุวรรณ คือ พระไพศพ ถูกยืมชื่อใช้เรียก ‘แม่โพสพ’ | สุจิตต์ วงษ์เทศ” ว่า…

“ท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวกุเวรเป็นเทพผู้พิทักษ์ทรัพย์ในดินสินในน้ำความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ ครั้นได้รับยกย่องเป็นเทพแห่งข้าวเปลือกจึงถูกเรียกพระไพศพ หรือพระไพศพราช พบข้อความในเอกสารโบราณของกัมพูชาว่ามีพระราชพิธีเดือน 3 บูชาพระไพศพด้วยการทำพิธีต่อข้าวเปลือกที่ถูกเทรวมเป็นกองโตเหมือนภูเขา”

กล่าวได้ว่าแม่โพสพ เป็นชื่อที่เพี้ยนมาจากคำว่า “พระไพศพ” ซึ่งก็คือ “ท้าวเวสสุวรรณ” นั่นเอง

รวงข้าวคือแม่โพสพที่ถูกชาวนาเกี่ยวขาดจากลำต้น (ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ)

อ่านต่อได้ที่นี่ :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

https://www.silpa-mag.com/history/article_126175

https://www.matichonweekly.com/column/article_528258


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 23 สิงหาคม 2567