ผู้เขียน | ปดิวลดา บวรศักดิ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ทุกยุคสมัยล้วนมีค่านิยมเรื่องความงามที่แตกต่างกัน เช่น จีนโบราณ หญิงสาวต้องมีผิวขาวจัดจึงจะได้เรียกได้ว่าเป็น “หญิงงาม” ที่แท้จริง เป็นสาเหตุของการนำวัตถุดิบที่เราอาจนึกไม่ถึงอย่าง กระดูกแข้งแพะ ขาหมู เขากวาง และอีกมากมาย มาทำเป็น “ครีมทาหน้า” หรือเครื่องประทินผิว เพื่อบำรุงให้คงความงามและความอ่อนเยาว์ไว้อยู่เสมอ
ครีมทาหน้า เป็นเครื่องประทินผิวซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ในประเทศจีนปรากฏหลักฐานตั้งแต่สมัย ราชวงศ์โจว (1046–256 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ในคัมภีร์ซือจิง คัมภีร์ที่รวบรวมบทกวีอันเก่าแก่ที่สุดของจีน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจวตะวันตก (1046-771 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ไว้ว่า “ผิวพรรณเหมือนทาครีม” และ “ครีมมีไว้ใช้ทาหน้า” จากข้อความดังกล่าวจึงอาจพอคาดคะเนได้ว่าครีมทาหน้าน่าจะมีจุดเริ่มต้นในราชวงศ์นี้
เมื่อเข้าสู่ช่วง ราชวงศ์จิ้น (ค.ศ. 265-420) เป็นต้นมา มีการจดบันทึกสูตรความงามเหล่านี้ไว้มากมาย โดยเฉพาะส่วนประกอบอันแปลกตา ซึ่งคนยุคปัจจุบันอ่านเข้าก็อาจตกใจกับส่วนประกอบเหล่านี้ แต่ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ช่วยบำรุงความงามได้อย่างดี
ประเดิมด้วยสูตรของราชวงศ์จิ้น ในหนังสือ “ตำรับฉุกเฉินฉบับพกพา” เล่มที่ 1 ของเก่อหง ซึ่งบันทึกสูตรบำรุงผิวหน้าไว้สารพัด แต่จะขอยกตัวอย่างมาสัก 2 ตำรับที่น่าสนใจ
ตำรับแรกคือ การรักษาใบหน้าดำคล้ำผิวหยาบกร้านไม่น่าดู โดยใช้ “กระดูกแข้งแพะ” และ “ตับหมู” เป็นส่วนประกอบหลัก
“กระดูกแข้งแพะบดละเอียด ผสมกับจีจื่อไป๋ ใช้พอกหน้า ปล่อยให้แห้ง ล้างออกด้วยน้ำซาวข้าวไป๋เหลียง 3 วันใบหน้าขาวผ่องอย่างน่าอัศจรรย์ อู๋จิงจื่อ 2 ตำลึง ซิ่งเหริน 1 ตำลึง บดให้ละเอียดพร้อมกัน แกะผลกวาโหลวเอาเม็ดออก นำตับอ่อนหมู 5 อันแช่ในเหล้า ทิ้งไว้ค้างคืน ใช้ทามือและหน้าในฤดูหนาว ลดรอยเหี่ยวย่น ทำให้ใบหน้าขาว อาจเติมรากมันแกว 1 ตำลึง พุทราจีน 7 ผล ใช้แล้วใบหน้าขาวขึ้นทุกวัน”
เพียงปฏิบัติตามสูตรนี้ก็จะมีใบหน้าสดใส ไร้ความหมองคล้ำและผิวหยาบกร้าน
ตำรับที่สอง มีสูตรเด็ดอยู่ที่ “มันหมู” และ “น้ำมันหมู” ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวหมองคล้ำ และลดรอยเหี่ยวย่นได้ชะงัด
“ซี่ซิน เหว่ยหรุย หวงฉี สู่อวี้ ไป๋ฟู่จื่อ ซินอี๋ ชวนซุง ไป๋จื่อ อย่างละ 1 ตำลึง กวาโหลว เปลือกมู่หลาน อย่างละ 1 เฟิน มันหมูเคี่ยว 2 เซิง หั่นส่วนผสมทั้งหมด ใส่ถุงผ้าแช่เหล้า 1 คืน นำมาต้มในน้ำมันหมู ต้มเดือด 7 ครั้ง ใส่ไป๋จื่อ 1 แผ่น ให้ไป๋จื่อกลายเป็นสีเหลืองก็ใช้ได้ คัดกากทิ้ง คั้นเอาแต่น้ำ ใช้พอกหน้า สาวน้อยเก็บตำราไว้เป็นความลับ ครีมนี้ยังช่วยรักษาฝีหนองได้”
ไม่เพียงแค่ผลิตภัณฑ์ประเภททา แต่ยากินที่อาจเปรียบได้กับกลูตาในปัจจุบันก็ยังปรากฏในหนังสือดังกล่าวว่า “ตำรับยากินตระกูลเก๋อทำให้ผิวขาว”
“หนี่ว์หว่าน 3 เฟิน เชียนตาน (ตะกั่วออกไซด์) 1 เฟิน บดเป็นผงละเอียด ละลายด้วยน้ำส้ม กินครั้งละ 1 เตากุย วันละ 3 ครั้ง กิน 10 วันอุจจาระดำ 18-19 วันผิวแดงเหมือนลงรัก 21 วันจะขาวผ่องทั้งตัวแล้วหยุดยา ถ้ากินต่อจะขาวเกินไป ถ้าอายุเกิน 30 รักษายาก ขณะกินยางดกินผักรสเผ็ด 5 อย่าง”
จบสูตรราชวงศ์จิ้น ก็ต่อด้วยสูตรต้นตำรับความสวยของ ราชวงศ์เป่ยเว่ย หรือราชวงศ์เว่ยเหนือ (คริสต์ศักราช 420-589) จากหนังสือ “ฉีหมินเย่าซู่” เล่ม 5 โดยเจี่ยซูเสีย การทำครีมของราชวงศ์นี้จะเน้นส่วนประกอบอย่าง “ไขกระดูกวัว” หากมีไขกระดูกน้อยก็จะใช้ไขมันวัวผสม แต่ถ้าไม่มีเลยก็จะใช้ไขมันวัวแทน
เมื่อได้วัตถุดิบหลักแล้ว ก็จะอุ่นเหล้าแล้วเติมกานพลู รวมถึงพิมเสน แช่ เคี่ยว และเติมชิงเฮา (ต้นโกฐจุฬาลัมพา) เพื่อให้เกิดสี กรองด้วยผ้า ก่อนจะใส่ในภาชนะกระเบื้องเคลือบหรือเครื่องเขิน ตั้งไว้ให้แข็งตัว เป็นอันเสร็จสิ้น
ส่วน ราชวงศ์ถัง อาจเรียกได้ว่าเป็นราชวงศ์ที่บันทึกความงามของใบหน้าไว้อย่างมากมาย เพราะเพียงแค่ในหนังสืองามเพราะแต่ง ประวัติศาสตร์การประทินโฉมตำรับจีน (สำนักพิมพ์มติชน) เขียนโดยหลี่หยา แปลไทยโดยเรืองชัย รักศรีอักษร ยังมีถึง 16 เล่ม เช่น สื้อสือจ่วนเย่า เซียนจินอี้ฟาง แต่ในบทความนี้จะขอยกมาเป็นบางสูตร
สูตรแรกปรากฏอยู่ในตำรา “เซียนจินอี้ฟาง” โดยซุนซือเหมี่ยว เป็นวิธีที่อาจเรียกได้ว่าต้องมีความอดทนสูงอย่างมาก เพราะไม่เพียงวัตถุดิบแสนหายากอย่าง “เขากวาง” แต่ต้องใช้เวลาถึง 100 วันกว่าจะผลิตเครื่องประทินโฉมเหล่านี้ออกมา ทว่ามันก็คุ้มค่าการรอคอย เพราะวิธีนี้ได้รับการยืนยันว่าหากทาแล้ว “คนแก่จะดูเหมือนหนุ่มสาว” เลยทีเดียว
“เขากวาง 1 กำ ชวนซุง ซี่ซิน ไป๋เหลี่ยน ไป๋ซู่ ไป๋ฟู่จื่อ เทียนเหมินตง (เอาไส้ออก) ไป๋จื่อ อย่างละ 2 ตำลึง ซิ่งเหริน 27 เม็ด เอาเปลือกออก นมวัว 3 เซิง แช่เขากวางในน้ำ 100 วันเพื่อให้นิ่ม ใส่ลงในน้ำนมพร้อมส่วนผสมอื่น ใช้ไฟอ่อน ต้มจนน้ำงวด เก็บเอาแต่เขากวางใส่ในถุงผ้า กลางคืนเอาเขากวางถูกับหิน เติมนมวัว ใช้ทาหน้า รุ่งเช้าล้างออกด้วยน้ำเจียงสุ่ย คนแก่จะดูเหมือนหนุ่มสาว อีกตำรับใช้เนย 3 ตำลึงแทนนมวัว”
แม้กระทั่ง “ขาหมู” อาหารแสนเอร็ดอร่อยที่เราคุ้นชินก็เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการคงผิวหน้าให้เรียบเนียน เต่งตึง กระจ่างใส
“ขาหมู 1 ข้าง เตรียมเหมือนทำอาหาร น้ำ 2 เซิง น้ำเจียงสุ่ยใส 1 เซิง ตุ๋นขาหมูจนเป็นเจล ใช้ล้างหน้า เอาผสมกับสบู่จ่าวโต้ว ทาหน้าตอนกลางคืน รุ่งเช้าล้างด้วยน้ำเจียงสุ่ย ทำให้ใบหน้าขาวผ่องเห็นผลเร็ว”
ด้าน ราชวงศ์ซ่ง จวบจนราชวงศ์สุดท้ายของจีนก็ยังปรากฏสูตรความงามเช่นกัน เช่น ตำรับครีมเน่ยเซวียนหวงฉี ที่นำหวงฉี ฝาเฟิง ฉื้อสาวเย่า เทียนหมา ตี้หวง มาคั่วด้วยไฟอ่อน เพื่อใบหน้าอันผุดผ่อง หรือผงฮั่วเซียงส่าน ที่มีคุณสมบัติทำให้ใบหน้าขาวกระจ่างใส
กว่าผิวหน้าจะผุดผ่องเป็นยองใย กระจ่างใส ไร้ริ้วรอยและความหยาบกร้าน ก็ต้องใช้เวลาและความอดทนเอาการทีเดียว
หมายเหตุ : 1 เซิง = 1 ลิตร, 1 ตำลึง = 30-60 กรัม
อ่านเพิ่มเติม :
- “หยางกุ้ยเฟย” สาวงามผู้นำเทรนด์การทาเล็บในจีน
- ความเป็นมาของการเขียน “คิ้ว” หนึ่งในประวัติศาสตร์ความสวยของสาวจีน
- เคล็ดลับ “หอมติดกระดาน” แบบหญิงจีนโบราณ กับวิธีสยบกลิ่นเต่า-กลิ่นตัวไม่พึงประสงค์
อ้างอิง :
หลี่หยา. งามเพราะแต่ง ประวัติศาสตร์การประทินโฉมตำรับจีน. แปลโดย เรืองชัย รักศรีอักษร. กรุงเทพฯ: มติชน, 2564.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 20 มีนาคม 2566