“หุ่นพยนต์” มนตราแห่ง “ขุนช้างขุนแผน” ศาสตร์ไม้เด็ดเปลี่ยนหุ่นหญ้าเป็นกองทัพสุด OP

ขุนแผน
ภาพวาด "ขุนแผนทำพิธีตั้งจิตภาวนา นั่งย่างกุมารทอง" จิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน ที่ระเบียงคดรอบวิหารหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรี เขียนโดย เมืองสิงห์ จันทร์ฉาย

“หุ่นพยนต์” หมายถึง “รูปที่ผู้ทรงวิทยาคมเอาวัตถุมาผูกขึ้นแล้วเสกเป่าให้เป็นเหมือนรูปที่มีชีวิต” โดยคำว่า พยนต์ (อ่านว่าพะยน) หมายถึง “สิ่งที่ผู้ทรงวิทยาคมปลุกเสกให้มีชีวิตขึ้น”

หุ่นพยนต์ นับเป็นศาสตร์แห่งไสยอีกประการหนึ่ง โดยนำวัสดุประเภทต่าง ๆ มาขึ้นรูปเป็นหุ่น อาจเป็นคนหรือสัตว์ก็ได้ แล้วทำพิธีปลุกเสกให้มีคุณในด้านต่าง ๆ ตามปรารถนา 

ความเชื่อเรื่องหุ่นพยนต์พบในสังคมมาช้านานย้อนไปถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ดังปรากฏในเสภาเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน”

สำหรับหุ่นพยนต์ในเสภาขุนช้างขุนแผนนั้นจะเป็นการนำหญ้ามามัดเป็นรูปหุ่นเหมือนคน จากนั้นลงคาถาอาคมเสกให้มีชีวิต มีอาวุธ มีพละกำลัง ฟันแทงไม่เข้า ฯลฯ จุดมุ่งหมายที่ทำหุ่นพยนต์ขึ้นก็เพื่อใช้สู้รบ หรือส่งข่าวสาร โดยผู้ใช้ศาสตร์นี้คือ “ตระกูลพลาย” อันได้แก่ พลายแก้ว (ขุนแผน) พลายงาม และพลายชุมพล

  • พลายแก้ว

เมื่อตอนที่ขุนแผนยังเป็นเณรแก้ว ได้จากวัดป่าเลไลยมายังวัดแคเมืองสุพรรณบุรี แล้วได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับสมภารชื่อคง จากนั้นก็ร่ำเรียนวิชาต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือ การผูกพยนต์ หรือทำหุ่นพยนต์ ดังว่า 

“โบกปัดพัดวีพระอาจารย์   ให้สำราญรื่นจิตรพิสมัย
ปฏิบัติมิให้ขัดข้องเคืองใจ   สมภารแนะนำให้ไม่ช้าการ

สะกดทัพจับพลทั้งปลุกผี   ผูกพยนต์ฤทธีกำแหงหาญ
ปัถมังกำบังตนทนทาน   สะเดาะดาลโซ่กุญแจประจักษ์ใจ”

[ตอนที่ 5 ขุนช้างขอนางพิม]

หุ่นพยนต์ของขุนแผนได้ออกศึกครั้งแรกเมื่อตอนขุนแผนรบกับขุนช้าง โดยก่อนหน้านั้น ขุนแผนลักพาตัวนางวันทองจากเรือนของขุนช้างแล้วหลบหนีเข้าป่า ขุนช้างจึงนำกำลังพลราว 500 ออกติตตามไล่ล่า เมื่อขุนแผนทราบว่า ขุนช้างยกพลมาหมายชิงตัวนางวันทองคืน จึงทำหุ่นพยนต์ขึ้นมาต่อสู้ ดังว่า

“จึงสั่งพรายให้ถอนหญ้าแพรกส่ง   ปลงอารมณ์โอมอ่านพระคาถา
กลายเป็นคนพลันมิทันช้า   สาตราง้าวทวนก็ถ้วนตน”

[ตอนที่ 19 ขุนช้างตามนางวันทอง]

ขุนแผนสร้างกองทัพหุ่นพยนต์ขึ้นแล้วก็สั่งให้รั้งรอไว้ก่อน จากนั้นขุนแผนจึงบุกไปรบกับฝ่ายขุนช้าง เมื่อล่อไพร่พลขุนช้างมาได้แล้ว ขุนแผนจึงสั่งกองทัพหุ่นพยนต์เข้าโจมตี ทำให้ฝ่ายขุนช้างแตกพ่ายล้มตายไปมาก เพราะหุ่นพยนต์มีฤทธิ์เดชฟันแทงไม่เข้า ดังว่า

“ขุนแผนครั้นเห็นพวกละว้า   เกลื่อนกลุ้มกันมาเป็นหมู่ใหญ่
จึงเรียกหุ่นพลันทันใด   ให้ไล่พลขุนช้างกลางที่รบ

พวกหุ่นโห่ฮึกสะอึกจับ   รบรับชุลมุนฝุ่นตรลบ
ละว้าตายก่ายมอญลงนอนซบ   บ้างตลบลุกแทงเข้าแย้งรับ

แทงหุ่นหยุ่นหยุ่นไม่ยักเข้า   หุ่นกลับฟันเอาดังฉาดฉับ
พวกขุนช้างแตกพ่ายกระจายยับ   ขุนช้างกลับช้างขี่หนีออกมา”

[ตอนที่ 19 ขุนช้างตามนางวันทอง]

ต่อมา ขุนช้างกลับมาฟ้องต่อพระพันวษา ใส่ความว่าขุนแผนซ่องสุมพรรคพวกไว้ในป่าเป็นการเหิมเกริมอันตราย พระพันวษาจึงมอบหมายให้ทหารนำกำลังราว 5,000 ไปตามจับขุนแผน ซึ่งครั้งนี้ขุนแผนก็ต้องทำกองทัพหุ่นพยนต์ขึ้นมาสู้อีกครั้งหนึ่ง ดังว่า

“ถอนหญ้ามามัดเป็นหุ่นพลัน   ถ้วนพันวางเรียงเคียงกันไป

แล้วเสกบริกรรมสำทับ   เกิดเป็นไฟวับวับดังจะไหม้
เอานํ้ามนตร์ประหุ่นลงทันใด   ไฟดับหุ่นหายกลายเป็นคน

มีอาวุธครบมือถือประจำ   แต่งตัวกำยำอย่างพหล
ต่างเคารพนบนอบยอบตน   ขุนแผนสั่งหุ่นพลไปทันที

คอยอยู่ต่อกูเรียกให้รบ   จึงตลบไล่พลให้ป่นปี้
ว่าแล้วก็ขับพาชี   เร็วรี่เร่งออกนอกพนา ฯ

……..

ว่าพลางทางร่ายพระคาถา   เรียกหุ่นหนุนมาเป็นหมู่หมู่
ออกจากดงรังสะพรั่งพรู   โห่ร้องก้องกู่เป็นโกลา

ขุนแผนขับม้าเข้าถาโถม   จู่โจมห้ำหั่นฟันทัพหน้า
พวกหุ่นวิ่งกลมดังลมพา   แซงสองข้างม้ามาทันใด

ฤทธิมนตร์บนฟ้าเวหาพยับ   มืดกลุ้มคลุ้มคลับสะท้านไหว
แผ่นดินดังจะควํ่าคะมำไป   เพราะพระมนตร์ดลให้บันดาลเป็น

อาสาหกเหล่าเข้าต้านต่อ   หอบหืดขึ้นคอสู้เต็มเข็ญ
ดังฟันหินบิ่นหักกักกระเด็น   ไม่เข้าหุ่นหมุนเผ่นเข้าฟาดฟัน

ดาบหอกตอกป่ายประกายวาบ   หอกดาบหักร่นจนถึงกั่น
ปืนจังกาง่านกยกยิงยัน   โผงถูกลูกนั้นกระดอนมา

ปืนตับกลับซ้ำเข้าต้ำตึง   ไม่หวาดไหวไล่อึงเข้ามาหา
จนสิ้นสุดอาวุธแลสาตรา   พวกอาสาย่นแยกแตกกระจุย”

[ตอนที่ 20 ขุนช้างฟ้องว่าขุนแผนเป็นขบถ สมเด็จพระพันวษา]

หอกหรือดาบก็ฟันแทงไม่เข้า แม้แต่กระสุนปืนนั้นเล่าก็ไม่อาจระคายผิวหุ่นพยนต์ได้ ฝ่ายขุนช้างจึงพ่ายแพ้ขุนแผนอีกครา

ภาพประกอบเนื้อหา – ภาพขุนแผน พลายงามไปทัพ จากจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน ที่ระเบียงคดรอบวิหารหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรี เขียนโดย เมืองสิงห์ จันทร์ฉาย เมื่อ พ.ศ.2548
  • พลายงาม

นอกจากขุนแผนจะเป็นผู้ทำหุ่นพยนต์ได้แล้ว บุตรชายคือ พลายงาม ที่เกิดแต่นางวันทอง ก็ได้ร่ำเรียนศาสตร์นี้มาจากทองประศรี (แม่ของขุนแผน) อีกด้วย ดังว่า

“อันเรื่องราวกล่าวความพลายงามน้อย   ค่อยเรียบร้อยเรียนรู้ครูทองประศรี
ทั้งขอมไทยได้สิ้นก็ยินดี   เรียนคัมภีร์พุทธเพทพระเวทมนตร์

……..

ทั้งเรียนธรรมกรรมฐานนิพพานสูตร   ร้องเรียกภูตพรายปราบกำราบผี
ผูกพยนต์หุ่นหญ้าเข้าราวี   ทองประศรีสอนหลานชำนาญมา”

[ตอนที่ 24 กำเนิดพลายงาม]

  • พลายขุนพล

บุตรชายอีกคนของขุนแผนคือ พลายชุมพล ที่เกิดแต่นางแก้วกิริยา ก็มีวิชาอาคมการทำหุ่นพยนต์เช่นกัน เมื่อตอนที่พลายชุมพลอาศัยอยู่ที่เมืองสุโขทัยก็หวนคิดถึงครอบครัว จึงมัดหญ้าเป็นรูปยักษ์ เสกคาถา ซัดข้าวสารใส่ จนร่างสูงใหญ่เทียมภูผา แล้วสั่งให้ถือหนังสือไปให้ขุนแผนผู้เป็นพ่อยังเมืองกาญจนบุรี

ตอนนั้น ขุนแผนกับพลายงาม (พระไวย) บาดหมางกันอย่างรุนแรง ขุนแผนจึงส่งหนังสือไปยังพลายชุมพลว่าให้ตระเตรียมกองทัพหุ่นพยนต์ลงมาทำศึกสู้รบกับพลายงาม ดังว่า

“เจ้าก็เรืองฤทธาวิชาการ   ถึงผูกหุ่นยักษ์มารใช้มาได้
จงคิดผูกหุ่นพลสกลไกร   ปลอมเป็นมอญใหม่ยกลงมา

……..

เห็นกับพ่อขอให้พลายชุมพล   เจ้ารีบผูกหุ่นยนต์ยกลงมา ฯ”

[ตอนที่ 39 ขุนแผนส่องกระจก]

พลายชุมพลได้รับหนังสือจากขุนแผนก็ทราบเรื่องราวปัญหาระหว่างบิดากับพี่ชาย จึงคิดช่วยขุนแผนทำศึก แล้วจึงเสกกองทัพหุ่นพยนต์ไว้เตรียมรบ ดังว่า

“ครั้นแล้วเกี่ยวหญ้ามาฉับพลัน   ผูกหุ่นถ้วนพันไว้กับที่
ซัดข้าวสารเสกประสิทธี   หุ่นก็มีชีวิตขึ้นเป็นคน

สองมือถือเครื่องสาตราวุธ   อุตลุดอึงป่าโกลาหล
ต่างนบนอบหมอบไหว้พลายชุมพล   เจ้าขึ้นนั่งยังบนหลังกะเลียว

แล้วสั่งหุ่นมนตร์พลไพร่   จะยกไปเป็นทัพขับเคี่ยว
ให้โห่เสียงมอญใหม่ให้กราวเกรียว   กำชับสั่งคำเดียวเป็นสำคัญ”

[ตอนที่ 39 ขุนแผนส่องกระจก]

  • ศึกหุ่นพยนต์

พลายชุมพลปลอมตัวเป็นแม่ทัพมอญยกมาทำศึก ฝ่ายพระพันวษาก็ส่งพลายงามออกมาสู้ แล้วจึงเกิดเป็นศึกหุ่นพยนต์ครั้งใหญ่ เพราะต่างก็ปลุกเสกทำหุ่นพยนต์มารบกันทั้งสองฝ่าย พลายชุมพลและพลายงามต่างใช้ศาสตร์แห่งไสยเข้าต่อสู้ พลายงามซัดข้าวสารใส่ กองทัพของพลายชุมพลก็กลับกลายเป็นหญ้าดังเดิม พลายชุมพลเป่ามนตราคาถาใส่บ้าง กองทัพของพลายงามก็กลับคืนสภาพเป็นหญ้า ดังว่า

“พวกหุ่นหมุนร่าเข้าฝ่าฟัน   คนขยั้นย่นย่อรอระอา

ฮึดฮัดขัดใจไล่พิฆาต   ไม่ไหวหวาดอ้ายมอญนี่หนักหนา
พระไวยเห็นพลร่นลงมา   มือขวาคว้าซัดข้าวสารไป

พอข้าวมนตร์หล่นต้องหุ่นชุมพล   กลายเป็นหญ้ายับป่นไม่ทนได้
ชุมพลชักม้าผ่าพลไกร   เป่าไปด้วยพระเวทวิทยา

ต้องพวกหุ่นมนตร์พลพระไวย   ก็ย่อยยับกลับไปเป็นฟ่อนหญ้า
สองนายบ่ายห้ามโยธา   ก็รั้งราหยุดรบประจัญบาน ฯ”

[ตอนที่ 40 พระไวยแตกทัพ]

และในการศึกครั้งนี้ พลายงามเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับพลายชุมพล

นอกจากเสภาขุนช้างขุนแผน หุ่นพยนต์ยังปรากฏในเรื่อง “พระอภัยมณี” และมีลักษณะคล้ายกันคือ หุ่นทำจากหญ้า ลงคาถาอาคมเสก และเอาไว้ใช้ในศึกสงคราม

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง : 

ห้องสมุดดิจิทัลวัชรญาณ. “เสภาขุนช้างขุนแผน ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ”, จาก https://bit.ly/3Lav52q


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 9 มีนาคม 2566