ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
ไข้ทรพิษ โรคระบาดที่หมดไปจากโลก แต่ก่อนหน้า จอร์จ วอชิงตัน, พระนเรศวร, พระยาพหลฯ เคยเจ็บป่วยด้วยโรคนี้มาทั้งนั้น ในไทยเองเคยระบาดจนมีผู้ป่วยกว่า 3 หมื่นคน และเมื่อ 9 ธันวาคม 2522 คณะกรรมการนักวิทยาศาสตร์องค์การอนามัยโลกรับรองการหมดไปทั่วโลกของโรคฝีดาษ นับเป็นโรคติดต่อในมนุษย์ชนิดเดียวจนปัจจุบันที่ถูกกำจัดไปจากธรรมชาติอย่างสมบูรณ์
ไข้ทรพิษ หรือ ฝีดาษ เกิดขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16 เมื่อคนผิวขาวจากตะวันตกเดินทางไปยังโลกใหม่ในอเมริกา ได้นำโรคฝีดาษไปแพร่ระบาดแก่คนพื้นเมืองชาวอินเดียแดงที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคเลยต้องตายเป็นจำนวนมาก ก่อนที่โรคจะบาดไปยังพื้นที่อื่นๆ ในเวลาต่อมา
ประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ได้บันทึกว่า จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ ในวัยหนุ่มเคยเป็นโรคฝีดาษ เขาจึงต้องต่อสู้กับโรคร้ายและทหารอังกฤษไปพร้อมกัน และเมื่อรู้ตัวว่าเป็นโรคเขาก็สั่งให้ทหารทุกคนในกองทัพเข้ารับการปลูกฝีทันที ซึ่งมีผลทำให้กองทัพของเขารบชนะข้าศึกในที่สุด
การป้องกันไข้ทรพิษเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2339 เอดเวิร์ด เจนเนอร์ (Edward Jenner) ได้คิดค้นวิธีการสร้างภูมิต้านทาน (vaccination) และใช้ป้องกันการติดเชื้อโรคฝีดาษ ทำให้ทั่วโลกต่อสู้กับโรคร้ายนี้ได้ หลังจากที่ เจนเนอร์ พบวัคซีนฝีดาษแล้ว สถิติการระบาดและการเสียชีวิตของผู้คนด้วยโรคฝีดาษก็ลดลงเรื่อยๆ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2521 มีรายงานว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคฝีดาษเป็นคนสุดท้ายในโซมาเลียและก็ได้รับการรักษาจนหาย
สำหรับประเทศไทย มีบุคคลสำคัญ ป่วยเป็นไข้ทรพิษหลายท่าน เช่น สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาทรงประชวรด้วยไข้ทรพิษสวรรคต, สมเด็จพระนเรศวรเองก็เคยทรงประชวรด้วยไข้ทรพิษ โดยเมื่อครั้งที่สมเด็จสมเด็จพระมหาธรรมราชา พร้อมด้วยพระนเรศวร ยกกองทัพไปช่วยพระเจ้าหงษาวดีตีลานช้าง เมื่อ พ.ศ. 2117 พระนเรศวรประชวรด้วยไข้ทรพิษ พระเจ้าหงษาวดีจึงอนุญาตให้พระองค์ยกทัพกลับ,พระยาพหลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของไทยเมื่ออายุ 2 ปี ฯลฯ
มีการระบาดรุนแรงหลายครั้ง เช่น ช่วงสงครามเอเชียมหาบูรพา ใน พ.ศ. 2488 มีผู้ป่วยถึง 36,394 คน เสียชีวิต 8,606 คน เนื่องจากเชลยพม่าที่กองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์มาใช้แรงงานที่กาญจนบุรีเริ่มป่วยเป็นไข้ทรพิษ ก่อนจะแพร่กระจายไปสู่กรรมกรไทยที่มารับจ้างทำงานและนำเชื้อโรคกลับไปแพร่กระจายในชุมชนตัวเองอีก
ส่วนการป้องกันนั้น ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2446 กระทรวงธรรมการได้ส่งพระบำบัดสรรพโรค หรือ หมอแฮนซ์ อดัมเซ็น (Hans Adamsen) แพทย์ใหญ่ผู้ตรวจการในกรมพยาบาลและหลวงวิฆเนศน์ประสิทธิวิทย์ (อัทย์ หสิตะเวช) แพทย์ผู้ช่วยออกไปศึกษาวิธีผลิตวัคซีนป้องกันโรคระบาดสัตว์พาหนะที่ประเทศฟิลิปปินส์ บังเอิญนายแพทย์ทั้งสองได้ไปเห็นวิธีการผลิต “พันธุ์บุพโพไข้ทรพิษ” จึงได้ศึกษาวิธีการผลิตมาด้วย
เมื่อกลับมาถึงประเทศไทย ก็ทำรายงานขึ้นเสนอต่อพระยาวุฒิการบดี (เจ้าพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร) เสนาบดีกระทรวงธรรมการแนะนำให้รัฐบาลจัดตั้ง “กอเวอนเมนต์ซีร่ำแลโบแร็ตโตรี” สำหรับผลิตพันธุ์หนองฝีขึ้นใช้ปลูกป้องกันไข้ทรพิษภายในประเทศ ในที่สุดรัฐบาลก็ตั้งสถานผลิตพันธ์หนองฝีขึ้นในบริเวณร้านขายยาของพระบำบัดสรรพโรคสี่กั๊กพระยาศรี เมื่อ พ.ศ. 2448
ต่อมาใน พ.ศ. 2449 จึงได้ย้ายสถานผลิตพันธุ์หนองฝีไปตั้งที่ ตำบลห้วยจรเข้ จังหวัดนครปฐม (ภายหลังเมื่อ พ.ศ. 2456 ได้ย้ายกลับมารวมอยู่ในปัสตุรสภา ถนนบำรุงเมือง จังหวัดพระนคร) ใน พ.ศ. 2465 เมื่อได้ตั้งสถานเสาวภาขึ้นในสภากาชาดไทยก็ได้ย้ายไปผลิตที่นี่แทน
อ่านเพิ่มเติม :
- ไข้ทรพิษ (ฝีดาษ) โรคห่าอันแท้จริงของประเทศสยาม ระบาดทุกปีไม่มีเว้น
- 3 โรคระบาดสำคัญของสยาม อหิวาต์, ไข้ทรพิษ, กาฬโรค ทำแสบกับเราอย่างไรบ้าง
ข้อมูลจาก :
นายแพทย์ประเมิน จันทวิมล “ประวัติการควบคุมโรคติดต่ออันตรายในประเทศไทย” อนุสรณ์กระทรวงสาธารสุข 20 ปี พ.ศ. 2485-2505
หนังสือประวัติครู (16 มกราคม 2505) จัดพิมพ์โดยคุรุสภา
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 9 ธันวาคม 2561