2 พฤษภาคม 2011 “บิน ลาดิน” หัวหน้ากลุ่มอัลกออิดะฮ์ถูกทหารสหรัฐฯ สังหาร

อุซามะฮ์ บิน ลาดิน ผู้ก่อตั้ง อัลกออิดะฮ์ และ หัวหน้ากลุ่มอัลกออิดะฮ์
ภาพถ่ายไม่ระบุวันที่ของ อุซามะฮ์ บิน ลาดิน ผู้ก่อตั้งองค์กรทหารรวมอิสลาม อัลกออิดะฮ์, AFP PHOTO/HO

อุซามะฮ์ บิน ลาดิน (Osama bin Laden) หัวหน้ากลุ่มอัลกออิดะฮ์ เกิดในกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อ ค.ศ. 1957 เป็นหนึ่งในบุตรจำนวนกว่า 50 คนของ มูฮัมหมัด บิน ลาดิน (Muhammad bin Laden) ชาวเยเมนที่อพยพมาขายแรงงานในซาอุดีอาระเบีย จนสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐี ดูแลโครงการก่อสร้างมากมายให้กับราชวงศ์ซาอุด

บิน ลาดิน เข้าศึกษาด้านบริหารธุรกิจในมหาวิทยาลัยคิงอับดุลอาซิซในเมืองญิดดะฮ์ ซึ่งเขาน่าจะได้รับการศึกษาด้านศาสนาจาก มูฮัมหมัด คูทุบ (Muhammad Qutb) น้องชายของ ซายยิด คูทุบ (Sayyid Qutb) นักเขียนชาวอียิปต์ และหนึ่งในผู้นำของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ซึ่งมีแนวคิดต่อต้านการปกครองที่แยกศาสนาออกจากอาณาจักรแบบตะวันตก

Advertisement

งานเขียนของเขากลายมาเป็นรากฐานสำคัญของกลุ่มติดอาวุธนิกายซุนนี ก่อนถูกประหารฐานเป็นกบฏ และ บิน ลาดินก็น่าจะได้รู้จักและเรียนรู้จาก อับดุลลฮ์ อัซซาม (Abdullah Azzam) นักการศาสนา และนักรบชาวปาเลสไตน์นิกายซุนนี จากสถานศึกษาแห่งนี้เช่นกัน

หลังโซเวียตเข้ารุกรานอัฟกานิสถานในปี 1979 ได้ไม่นาน บิน ลาดินเดินทางไปพบกับผู้นำกลุ่มติดอาวุธชาวอัฟกัน และช่วยหาเงินอุดหนุนการต่อต้านการยึดครองของโซเวียต นับแต่ปี 1984 บิน ลาดินดำเนินกิจกรรมส่วนใหญ่ในอัฟกานิสถานและปากีสถาน มีส่วนสำคัญในการหาอาสาสมัครชาวอาหรับเพื่อต่อสู้กับทหารโซเวียต ด้วยเงินทุนและชื่อเสียงในความเคร่งศาสนา บวกกับความกล้าหาญในสนามรบช่วยเสริมสถานะของเขาในฐานะผู้นำทางทหาร

ในปี 1988 เขาได้สร้างฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ รวบรวมรายชื่ออาสาสมัครผู้ร่วมรบในสงครามอัฟกานิสถาน ซึ่งกลายมาเป็นฐานข้อมูลของเครือข่ายทางทหารกลุ่มใหม่ในชื่อ “อัลกออิดะฮ์” (al-Qaeda, ในภาษาอาหรับแปลว่า ฐาน) แม้ว่ากลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้จะยังไม่มีวัตถุประสงค์หรือวาระในการปฏิบัติการที่ชัดเจนเป็นเวลาหลายปีก็ตาม

ปี 1989 หลังโซเวียตถอนทัพออกจากอัฟกานิสถาน บิน ลาดินเดินทางกลับซาอุดีอาระเบียในฐานะวีรบุรุษ แต่ไม่นานก็ถูกรัฐบาลหมายหัวในฐานะพวกหัวรุนแรงและอาจเป็นภัยต่อความมั่นคง ในปี 1990 รัฐบาลซาอุดีอาระเบียปฏิเสธคำร้องขออนุญาตให้เครือข่ายนักรบของเขาร่วมปกป้องซาอุดีอาระเบียจากภัยคุกคามของ ซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำอิรักในสมัยนั้น เนื่องจากซาอุดีอาระเบียหวังพึ่งกองทัพสหรัฐฯ เป็นกำลังหลัก คำปฏิเสธสร้างความไม่พอใจให้กับ บิน ลาดินอย่างรุนแรง เขาเดินทางออกจากซาอุดีอาระเบียไปตั้งหลักอยู่ที่ซูดานในปี 1991

ช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 เขาและเครือข่ายอัลกออิดะฮ์เริ่มวางรูปแบบการต่อต้านด้วยความรุนแรงต่อภัยคุกคามจากอิทธิพลของสหรัฐฯ ในโลกมุสลิม เขาออกมาแสดงความชื่นชมอย่างเปิดเผยต่อการโจมตีสหรัฐฯ ของกลุ่มหัวรุนแรงต่างๆ รวมถึงเหตุโจมตีด้วยระเบิดต่ออาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในกรุงนิวยอร์กเมื่อปี 1993

ปีถัดมา บิน ลาดินเริ่มขยายโครงสร้างของกลุ่มในซูดาน เพื่อรองรับการฝึกฝนนักรบอิสลามเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมในความขัดแย้งทั่วโลก ไม่นานซาอุดีอาระเบียก็ประกาศถอนสัญชาติและยึดทรัพย์สินของเขาทำให้เขาจำเป็นต้องอาศัยแหล่งเงินทุนจากภายนอก

ในปี 1996 หลังถูกกดดันจากนานาชาติอย่างหนัก ซูดานมีคำสั่งเนรเทศบิน ลาดิน เขาจึงเดินทางไปยังอัฟกานิสถานอีกครั้ง โดยได้รับความคุ้มครองจากรัฐบาลตาลีบัน ปีเดียวกันเขาออกฟัตวา (คำวินิจฉัยทางศาสนา) ชุดแรก ประกาศสงครามศักดิ์สิทธิ์ต่อสหรัฐฯ กล่าวหาว่าสหรัฐฯ ปล้นทรัพยากรธรรมชาติจากโลกมุสลิม ยึดครองคาบสมุทรอาระเบีย ซึ่งรวมถึงศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม

เป้าหมายของบิน ลาดิน ค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการยกระดับการทำสงครามของสหรัฐฯ กับโลกมุสลิม และหวังให้ประเทศมุสลิมรวมตัวเป็นรัฐอิสลามหนึ่งเดียว (รัฐเคาะลีฟะฮ์, Caliphate)

นับแต่นั้นมา บิน ลาดิน และอัลกออิดะฮ์ ได้ฝึกฝนนักรบ และให้ทุนสนับสนุนการโจมตีในวงกว้างอย่างต่อเนื่องอย่างที่พวกเขาไปเคยทำมาก่อน พวกเขาถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีสถานทูตสหรัฐฯ หลายแห่ง

ถึงปี 2001 กลุ่มติดอาวุธ 19 คน ซึ่งเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะฮ์ ได้วางแผนโจมตี “11 กันยายน” (การยึดเครื่องบินพานิชย์พุ่งชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และเพนตากอน) ทำให้สหรัฐฯ และพวกตัดสินใจใช้กำลังเข้าล้มล้างรัฐบาลตาลีบัน พร้อมกับตามล่าบิน ลาดิน

นับแต่ปลายปี 2001 บิน ลาดิน หัวหน้ากลุ่มอัลกออิดะฮ์ ได้หลบหนีการจับกุมของสหรัฐฯ และหายหน้าหายตาไปจากความรู้เห็นของสาธารณะ จนถึงเดือนตุลาคม 2004 ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพียงสัปดาห์เดียว เขาได้ปรากฏตัวในบันทึกวิดีโอ อ้างตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตี 11 กันยายน หลังจากนั้นเขาก็ได้ออกบันทึกเสียงเป็นระยะ

จนกระทั่งสหรัฐฯ สามารถระบุพื้นที่หลบซ่อนตัวของเขาในปากีสถานได้สำเร็จ ก่อนบุกสังหาร บิน ลาดินได้ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2011 ซึ่งร่างของเขาและดีเอ็นเอได้รับการยืนยันอัตลักษณ์ก่อนนำไปทำพิธีศพ จากนั้นประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ออกมาประกาศการเสียชีวิตของ บิน ลาดินอย่างเป็นทางการด้วยตนเอง และภายหลังอัลกออิดะฮ์ ก็ได้ออกแถลงการณ์ยอมรับการเสียชีวิตของ บิน ลาดินเช่นกัน พร้อมปฏิญาณว่าจะตามล้างแค้นให้กับผู้นำของตน

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

“Osama bin Laden”. Encyclopædia Britannica. Encyclopædia Britannica Online.
Encyclopædia Britannica Inc., 2016. Web. 30 Apr. 2016
<https://global.britannica.com/biography/Osama-bin-Laden>.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 2 พฤษภาคม 2559