“พระแสงขรรค์ชัยศรี” สัญลักษณ์ที่แสดงพระราชอาญาสิทธิ์ในการปกครองแผ่นดิน

พระแสงขรรค์ชัยศรี

“พระแสงขรรค์ชัยศรี” เป็นหนึ่งในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์สำคัญ อันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงพระราชอํานาจ ความกล้าหาญ และพระราชอาญาสิทธิ์ในการปกครองแผ่นดิน

ตามประวัติกล่าวว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๗ ชาวประมงเมืองเสียมราฐทอดแหในทะเลสาบเขมร และได้พระแสงขรรค์นี้ขึ้นมา เห็นว่าเป็นของโบราณที่มีความประณีตงดงามมาก เกินกว่าจะเป็นของสามัญชน

กรมการเมืองเสียมราฐจึงได้นําพระขรรค์นี้ไปมอบให้กับเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) ผู้สําเร็จราชการเมืองพระตะบองและเสียมราฐในขณะนั้น ต่อมาเจ้าพระยาอภัยภูเบศรจึงได้นําขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

มีตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์อัศจรรย์ของ “พระแสงขรรค์ชัยศรี” ไว้ว่า เมื่อวันที่เชิญพระแสงขรรค์มายังพระบรมมหาราชวังนั้นได้เกิดพายุอย่างหนัก มีอสนีบาตหรือฟ้าผ่าลงที่ศาลาลูกขุนใน และกล่าวกันว่ามีอสนีบาตตกในพระนคร ตามเส้นทางที่อัญเชิญพระขรรค์มาถึง 7 แห่ง

แม้กระทั่งในพระบรมมหาราชวังก็เกิดอสนีบาตตกที่ “ประตูวิเศษชัยศรี” และ “ประตูพิมานชัยศรี” ขณะที่อัญเชิญพระแสงขรรค์ผ่านเข้าไป

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจึงพระราชทานนามพระแสงขรรค์องค์นี้ว่า “พระแสงขรรค์ชัยศรี” และเนื่องด้วย “เหตุอัศจรรย์” นี้ ประตูพระบรมมหาราชวังทั้ง 2 แห่งจึงมีสร้อยนามเหมือนพระแสงขรรค์ชัยศรี

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างหลวงทําด้ามและฝักของพระแสงขรรค์ชัยศรีขึ้นใหม่ ทําด้วยทองคําลงยาลายเทพพนมประดับอัญมณี โคนพระแสงขรรค์ที่ต่อกับด้ามสลักเป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑคร่ำทอง

พระแสงขรรค์องค์นี้เฉพาะส่วนที่เป็นองค์พระขรรค์ยาว ๖๔.๕ เซนติเมตร เมื่อประกอบด้ามแล้วยาว ๘๙.๙ เซนติเมตร หนัก ๑,๓๐๐ กรัม เมื่อสวมฝักแล้วยาว ๑๐๑ เซนติเมตร หนัก ๑,๙๐๐ กรัม


ข้อมูลจาก

ดร. นนทพร อยู่มั่งมี, ผศ. ดร. พัสวีสิริ เปรมกุลนันท์. เสวยราชสมบัติกษัตรา, สำนักพิมพ์มติชน ๒๕๖๒.