โขนเรือพระราชพิธี รูปครุฑ และนาค สัญลักษณ์แสดงความยิ่งใหญ่ของพระมหากษัตริย์

โขนเรือพระราชพิธี

“เรือพระราชพิธี” เป็นพระราชพาหนะของพระมหากษัตริย์ไทยที่ใช้สำหรับเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค เพื่อประกอบพระราชกรณียกิจต่างๆ  จำเพาะเจาะจงไปที่ส่วน “โขนเรือพระราชพิธี” มีความสอดคล้องกับคติเรื่องโลกและจักรวาล ที่รับอิทธิพลมาจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดู โดยที่ “ครุฑ” และ “นาค” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนเทพเจ้า นำมาสร้างเป็นโขนเรือพระราชพิธี เพื่อใช้เป็นเรือที่ประทับของพระมหากษัตริย์

“ครุฑ” ในภาษาสันสกฤตออกเสียงว่า คะ-รุ-ฑะ คัมภีร์ฤคเวทหลักฐานเก่าแก่ที่สุดกล่าวถึงครุฑในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูว่า เป็นนกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า “ครุตมัน” ซึ่งน่าจะเป็นที่มาของชื่อ “ครุฑ” ในภายหลัง ถือว่าเป็นเทพพาหนะของพระวิษณุ หรือพระนารายณ์ และไทยก็รับเอาคติความเชื่อนี้มาใช้เช่นกัน

สมัยอยุธยา “ครุฑ” ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ เปรียบดั่ง “พระนารายณ์” อวตารมาเป็น “พระราม” กษัตริย์แห่งสูรยวงศ์ผู้ครองเมืองอโยธยาในคัมภีร์มหากาพย์รามายณะ

ด้วยเหตุนี้ “ครุฑ” ในฐานะสัญลักษณ์แห่ง “พระนารายณ์” จึงใช้เป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระมหากษัตริย์แห่งอยุธยา ปรากฏในรูปเชิงสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ในตราพระราชลัญจกร ธง โขนเรือพระที่นั่งรูปครุฑ

สมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง “เรือพระที่นั่งมงคลสุบรรณ” ครั้งถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างรูปพระนารายณ์ประดิษฐานไว้เหนือโขนเรือพระที่นั่งมงคลสุบรรณ แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า “เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ” ต่อมาได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในรัชกาลที่ 9 โดยกองทัพเรือเมื่อ พ.ศ. 2539 และได้รับพระราชทานนามจากรัชกาลที่ 9 ว่า “เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9”

กล่าวได้ว่าโขนเรือพระราชพิธีที่เป็น “ครุฑ” เป็นการรับเอาคติมาจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ซึ่งแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของผู้ประทับ คือ พระมหากษัตริย์ ที่เปรียบเสมือนพระนารายณ์ประทับครุฑ

สำหรับ “พญานาค” ตามคติของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ปรากฏในคัมภีร์ปุราณะต่างๆ หลายคัมภีร์ เช่น คัมภีร์ภาควัตปุราณะ คัมภีร์วิษณุปุราณะ กล่าวถึงเรื่องราวของพญานาค โดยเฉพาะ “พญาเศษนาค” หรือ “พญาอนันตนาคราช” ซึ่งถือกันว่าเป็นเจ้าแห่งนาคทั้งหลาย เป็นใหญ่เหนือบาดาล ทั้งเป็นบัลลังก์ที่บรรทมพักของพระนารายณ์ระหว่างการสร้างโลก อีกทั้งเป็นบัลลังก์ที่ประทับของพระนารายณ์กลางทะเลน้ำนมหรือเกษียรสมุทร นอกจากนี้พญานาคยังเกี่ยวข้องกับการอวตารของพระนารายณ์ในปางต่างๆ

“นาค” ตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ในฐานะบัลลังก์ของพระนารายณ์ ด้วยเหตุนี้ “พญานาค” จึงถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์อยุธยา

ตั้งแต่สมัยอยุธยาจึงมีการนำ “พญานาค” มาสร้างเป็นโขนเรือพระที่นั่ง เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งพระนารายณ์ เพราะพระนารายณ์ประทับอยู่บนพญานาคที่ชื่อ “พญาอนันตนาคราช” ดังนั้น พระมหากษัตริย์อยุธยาที่ประทับบนเรือพระที่นั่งนาค จึงมีฐานะเป็น “พระนารายณ์” ดังปรากฏหลักฐาน “เรือนาค” ซึ่งเป็นเรือพระราชพิธีในบทเห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร มีความตอนหนึ่งว่า

นาคาหน้าดังเป็น  ดูขะเม่นเห็นขบขัน

มังกรถอนพายผัน  ทันแข่งหน้าวาสุกรี

ในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง “เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช” ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง “เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์” โดยโขนเรือแกะสลักเป็นรูปพญานาค อันเป็นลักษณะของ “พญาอนันตนาคราช” ผู้เป็นบัลลังก์ของพระนารายณ์ ดังนั้น การใช้ “นาค” มาสร้างโขนเรือ จึงสอดคล้องกับคติของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

กล่าวได้ว่า “ครุฑ” และ “นาค” เป็นเทพในคติความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ที่เกี่ยวข้องกับ “พระนารายณ์” โดย “ครุฑ” เป็นพาหนะ และ “นาค” เป็นบัลลังก์ประทับ ทั้งนี้กษัตริย์เปรียบเสมือนร่างอวตารของ “พระนารยณ์”

เมื่อคติความเชื่อนี้ส่งอิทธิพลเข้าสู่ไทย ทำให้ “โขนเรือพระราชพิธี” อันเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ จึงมักทำโขนเรือเป็นรูป “ครุฑ” และ “นาค”


อ้างอิง

ศานติ ภักดีคำ. พระเสด็จโดยแดนชล เรือพระราชพิธีและขบวนพยุหยาตราทางชลมารค. สำนักพิมพ์มติชน, 2562.

ศานติ ภักดีคำ. “ครุฑ นาค และหงส์ สัญลักษณ์เทพเจ้าศาสนาพราหมณ์ฮินดู ในโขนเรือพระที่นั่ง”. ใน ศิลปวัฒนธรรม ตุลาคม 2562.