ผู้เขียน | ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย |
---|---|
เผยแพร่ |
“—ของใหญ่ของโตของกูดีๆ ของกูสร้าง ใครไม่ได้ช่วยเข้าทุนอุดหนุน กูสร้างขึ้นด้วยกำลังข้าเจ้าบ่าว นายของกูเอง นานไปใครไม่ใช่ลูกกู เข้ามาเป็นเจ้าของครอบครองขอผีสางเทวดาจงบันดาลอย่าให้มีความสุข—”
เป็นพระดำรัสของ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ขณะประชวรเสด็จประทับบนเสลี่ยงบรรทม พิงพระเขนย ให้มหาดเล็กเชิญเสด็จทอดพระเนตรรอบๆ พระราชวังบวรสถานมงคล ซึ่งพระองค์ทรงสร้างขึ้น ด้วยความคิดและเรี่ยวแรงของพระองค์เอง
กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราชในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬา โลกมหาราช ทรงร่วมกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกู้เอกราชของชาติจากพม่า และร่วมกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีใหม่
ขณะนั้นบ้านเมืองกำลังตกอยู่ในภาวะยุ่งยากและอันตราย เพราะทั้งต้องสร้างเมืองใหม่และทำสงครามกับพม่าซึ่งพยายามที่จะกลับมามีอำนาจเหนือไทยอีก ท่ามกลางความยากลำบากนั้น กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทในตำแหน่งพระมหาอุปราชได้โปรดสถาปนา “พระบวรราชวัง” ขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นพระนิเวศเดิมแต่ครั้งยังเสด็จดำรงพระยศเป็น เจ้าพระยาสุรสีห์ ทรงสร้างพระบวรราชวังนี้อย่างยิ่งใหญ่และประณีตบรรจง ด้วยหวังจะได้ทรงอยู่อย่างเป็นสุข ในบั้นปลายพระชนมชีพ
แต่การณ์ก็มิได้เป็นอย่างที่ทรงหวัง เพราะหลังจากดำรงพระยศกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ได้ ๒๑ ปี พระชนมายุได้ ๖๐ พรรษา ก็ประชวรพระโรคนิ่ว เล่ากันว่าทรงทั้งห่วงและหวงแหนพระบวรราชวังที่โปรด ให้สร้าง เมื่อเวลาประชวรหนักอยู่นั้นได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานต่อสมเด็จพระเชษฐา ให้พระโอรสธิดาของ พระองค์ได้ประทับอยู่ในวังหน้าต่อไป
แต่ก็มีเรื่องเล่าลือให้ถึงพระเนตรพระกรรณว่า กรมพระราชวังบวรฯ ได้ออกพระโอษฐ์ตรัสสาปแช่ง ขณะประชวร และเสด็จทอดพระเนตรรอบๆ วังว่า
“—ของเหล่านี้ กูอุตสาห์ทำด้วยความคิดและเรี่ยวแรงเป็นหนักหนา หวังจะอยู่ชมนานๆ ก็ไม่ได้ชม ของใหญ่ของโตของกูดีๆ ของกูสร้าง ใครไม่ได้ช่วยเข้าทุนอุดหนุน กูสร้างขึ้นด้วยกำลังข้าเจ้าบ่าวนายของกูเอง นานไปใครไม่ใช่ลูกกู เข้ามาเป็นเจ้าของครอบครองขอผีสางเทวดาจงบันดาลอย่าให้มีความสุข—”
(อ่านเพิ่มเติมได้ในหนังสือ วาทะเจ้านาย เล่าประวัติศาสตร์ จัดพิมพ์โดย สนพ.มติชน)