
ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
วัดลาบรัง (Labrang Monastery) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “สถาบันทิเบตศาสตร์แห่งโลก” เริ่มดำเนินโครงการบูรณะซ่อมแซมแบบกึ่งปิดครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี 2012 และยกระดับการปกป้องโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมด้วยวิธีการที่ทันสมัย ล่าสุด รายงานข่าวจากซินหัวเผยว่า จนถึงขณะนี้งานซ่อมแซมหลักของอุโบสถ 14 แห่ง อันรวมถึงอุโบสถเซี่ยปู่ตันและอุโบสถพระศรีอริยเมตไตรย เสร็จสิ้นลงแล้ว
ความคืบหน้าในรายงานข่าวเมื่อ 23 มีนาคม 2022 ระบุว่า กระบวนการขณะนี้อยู่ระหว่างรอตรวจรับโดยหน่วยงานบริหารโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมแห่งชาติ ขณะที่ภาพวาดสีน้ำมันและภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในสิ่งปลูกสร้างบางแห่งกำลังอยู่ระหว่างการซ่อมแซม

วัดลาบรัง ตั้งอยู่ในอำเภอเซี่ยเหอ แคว้นปกครองตนเองกานหนาน กลุ่มชาติพันธุ์ทิเบต มณฑลกานซู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เริ่มก่อสร้างในปี 1709 และถูกจัดให้เป็นหนึ่งในวัดขนาดใหญ่ที่สุดของพุทธศาสนาทิเบตนิกายเกลุก (Gelug) ก่อนจะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญระดับชาติในปี 1982
โจวหัวต้าวจี๋ หัวหน้าโครงการฯ จากสำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอำเภอเซี่ยเหอ เผยว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการบูรณะซ่อมแซมขนาดใหญ่ครั้งแรกของวัดในรอบกว่า 300 ปี ด้วยเงินลงทุนรวมกว่า 400 ล้านหยวน (ราว 2.1 พันล้านบาท) โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ การคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรม การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการท่องเที่ยว
โจวกล่าวว่า การซ่อมแซมยึดหลักบูรณะของเก่าให้คงสภาพเดิม โดยรักษาไว้ซึ่งลักษณะพิเศษของสถาปัตยกรรมทิเบตแบบดั้งเดิม ทั้งยังมีการประยุกต์ใช้วิธีการที่ทันสมัยในการซ่อมแซมโบราณวัตถุทางวัฒนธรรม การปรับปรุงระบบไฟฟ้า การป้องกันอัคคีภัย และระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ
การปกป้องตำราโบราณยังถือเป็นส่วนสำคัญของการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมของวัดลาบรัง เนื่องจากหอพระไตรปิฎกของวัดเป็นแหล่งเก็บรักษาตำราโบราณหายากกว่า 68,000 เล่ม
โดยเป็นเอกสารมากกว่า 10 ประเภท อาทิ ปรัชญา พุทธศาสนานิกายวัชรยาน ตำรายา ดาราศาสตร์ และประวัติศาสตร์ ตลอดจนคัมภีร์และหนังสือหายากอีกหลายเล่มที่เขียนด้วยน้ำแป้งล้ำค่า เช่น น้ำทองคำ น้ำเงิน ปะการัง และไข่มุก จนหอพระไตรปิฎกแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งอนุรักษ์ตำราโบราณแห่งชาติในปี 2009

กระบวนการที่ผ่านมามีติดตั้งถังดับเพลิงทรงกลม เครื่องตรวจจับควันไฟ สัญญาณเตือนภัย และอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยอื่นๆ ในหอพระไตรปิฎก คัมภีร์และตำราถูกจัดเรียงบนชั้นหนังสือตามประเภทอย่างเป็นระเบียบ
สั่วหนานมู่ สมาชิกคณะกรรมการจัดการมรดกทางวัฒนธรรมของวัด กล่าวว่า เหล่าพระสงฆ์ได้ผลัดเปลี่ยนเวรกันเข้ามาจัดเรียงพระคัมภีร์และตำราเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ
“การบูรณะซ่อมแซมวัดลาบรังไม่เพียงช่วยปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมในวัดเท่านั้น แต่ยังยกระดับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทำให้วัดเก่าแก่แห่งนี้กลับมาดูใหม่เอี่ยมอีกครั้ง เพื่อจะได้ให้บริการนักท่องเที่ยวได้ดียิ่งขึ้น” สั่วเสริม
อ่านเพิ่มเติม :
- รู้จักถนน “มังกร 208 ขด” คดเคี้ยวกว่า 200 โค้งบนเขาสูงชันแห่งซินเจียง
- ส่องท่ากราบ “อัษฎางคประณต” แปลว่าอะไร? ไปดูท่ากราบเคารพที่ไม่ค่อยพบในหมู่คนไทย


หมายเหตุ : เนื้อหานี้เรียบเรียงขึ้นจากเนื้อหาในบริการข่าวสารภาษาไทยโดยสำนักข่าวซินหัว เรื่อง “จีนบูรณะ ‘วัดแบบทิเบต’ เก่าแก่ 300 ปี ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่” เผยแพร่เมื่อ 23 มีนาคม 2565
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 23 มีนาคม 2565